การเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเราสองคนคะ และเราเลือกทำความรู้จักกับจังหวัด HOKKAIDO
ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศญี่ปุ่น ในช่วงที่เราเดินทางนั้นเป็นช่วงฤดูร้อนของประเทศเค้า
ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้กระเป๋าเดินทางของเราไม่ตุงจนเกินไป แถมยังเป็นช่วงเวลาเฉลิมฉลองหน้าร้อนประจำปี
ทำให้มีเทศกาลดอกไม้ไฟพอดี และเป็นช่วงที่เราตั้งใจเดินทางมาชมทุ่งลาเวนเดอร์แสนสวยอีกด้วยคะ
#แผนที่วางไว้ก่อนการเดินทางคร่าวๆ เป็นแบบนี้นะคะ ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีทั้งนี้มีเพื่อนช่วยเขียนไกด์นำเที่ยวให้ด้วย
ต้องยกความดีความชอบให้นางมา ณ ที่นี้ด้วย Onna Damon
เริ่มกันที่การเดินทางกันเลยนะคะ…
(MON) 24 กค. 60
เวลา 21.30 น. ถึงสนามบินดอนเมือง Terminal 1 สายการบิน Air Asia Check in No.4 Fight No. XJ600
23:45–08:00 น. ออกเดินทางจากประเทศไทย สนามบินดอนเมือง – สนามบินนาริตะ
(TUE) 25 กค. 60 เวลา 08:00–11:00 น.
ถึงสนามบินนาริตะ Terminal 2 ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋า ผ่านขั้นตอนต่างๆ ให้เรียบร้อย
เมื่อออกมาภายนอกให้มองหา Airport Limousine Counter สีส้ม
เพื่อจะซื้อตั๋วรถบัสไปสนามบิน Haneda Terminal 2
(ให้ซื้อตั๋วรถบัสแบบเที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ราคา คนละ 3,100 เยน)
เวลา 12:00–14:40 น.
ถึงสนามบิน Haneda เช็คอินให้เรียบร้อยและไปหาอะไรทานก่อน
เราจะต่อเครื่องบินภายในประเทศของสายการบิน Airdo เพื่อไปยังสนามบิน Hakodate ใช้เวลาการเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆ
เวลา 16:00–17:30 น.
รับกระเป๋าแล้ว ออกมารอรถเมลล์ ที่จุดขึ้นรถบัสหมายเลข 3 เพื่อนั่งรถไป Hakodate Ekimae (Hakodate Station)
สามารถขึ้นรถได้ 2 จุด
จุดขึ้นรถหมายเลข 2 รถบัสหมายเลข 96 ราคา 290 เยน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
จุดขึ้นรถหมายเลข 3 ราคา 410 เยน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
เราขึ้นป้ายหมายเลข 3 คะ ราคาแพงกว่าแต่ก็ถึงไวกว่าคะ คนขับรถบอกแบบนั้นอะ ไม่งั้นเราถึงค่ำแน่ๆ
เมื่อลงรถแล้วสามารถเดินไป Smile Hotel Hakodate ได้เลยโรงแรมที่เราพักอยู่ไม่ไกลจากจุดลงรถ
หลังจาก Check in เก็บกระเป๋า ทำนู่นนี่นั่นเรียบร้อยแล้ว เราจะขึ้นภูเขา Hakodate ไปดูวิวกลางคืนที่เค้าว่าสวยติด 1 ใน 3 ของโลก
การเดินทางไป Hakodate Mount.
1. นั่งรถบัส จุดขึ้นรถหมายเลข 4 (34 นาที = 400 เยน) Hakodate Ekimae--->Hakodate Mount.
2. นั่งรถบัสแล้วไปต่อกระเช้า
รถบัส 15 นาที = 240 เยน ---> ต่อกระเช้า 10 นาที = 780 เยน (1,020 เยน/ เที่ยว)
Hakodate Ekimae--->Ropeway--->Hakodate Mount.
**เราเลือกวิธีแรกคะนั่งรถบัสยาวไป เพราะจากที่พักนั่งรถบัสตรงหน้าโรงแรมต่อเดียวถึงเลยสะดวกกว่าคะ
ขากลับก็ค่อยนั่งกระเช้าลงมาก็ได้สำหรับใครที่อยากนั่งกระเช้าชมเมืองนะคะ
แต่ขากลับคนเยอะมากแถวยาวถ้ารอขึ้นคงไม่ได้นอนแน่ๆ เราเลยต้องกลับรถบัสตามเดิม แต่ก็ประหยัดดีคะ
เมื่อมาถึงด้านบนอากาศเริ่มเย็นสบายและหนาวขึ้นเรื่อยๆ เพราะลมแรงมาก (20 องศา) ผู้คนเริ่มทยอยเดินขึ้นมากันอย่างเนืองแน่น
พร้อมจับจองมุมส่วนตัวเพื่อรอชมแสงสียามราตรีของเมืองฮาโกดาเตะอย่างใจจดใจจ่อ คืนนี้คงกลับไปนอนหลับฝันดีแล้วซินะ...
#จบไป 1 วัน..ยังไม่หลง อิอิ
เที่ยว HOKKAIDO สบายๆ ไปเองก็ได้ง่ายนิดเดียว (HAKODATE – TOYA – OTARU – SUPPORO – TOKYO) #24-31 Jul 2017
ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศญี่ปุ่น ในช่วงที่เราเดินทางนั้นเป็นช่วงฤดูร้อนของประเทศเค้า
ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้กระเป๋าเดินทางของเราไม่ตุงจนเกินไป แถมยังเป็นช่วงเวลาเฉลิมฉลองหน้าร้อนประจำปี
ทำให้มีเทศกาลดอกไม้ไฟพอดี และเป็นช่วงที่เราตั้งใจเดินทางมาชมทุ่งลาเวนเดอร์แสนสวยอีกด้วยคะ
#แผนที่วางไว้ก่อนการเดินทางคร่าวๆ เป็นแบบนี้นะคะ ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีทั้งนี้มีเพื่อนช่วยเขียนไกด์นำเที่ยวให้ด้วย
ต้องยกความดีความชอบให้นางมา ณ ที่นี้ด้วย Onna Damon
เริ่มกันที่การเดินทางกันเลยนะคะ…
(MON) 24 กค. 60
เวลา 21.30 น. ถึงสนามบินดอนเมือง Terminal 1 สายการบิน Air Asia Check in No.4 Fight No. XJ600
23:45–08:00 น. ออกเดินทางจากประเทศไทย สนามบินดอนเมือง – สนามบินนาริตะ
(TUE) 25 กค. 60 เวลา 08:00–11:00 น.
ถึงสนามบินนาริตะ Terminal 2 ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋า ผ่านขั้นตอนต่างๆ ให้เรียบร้อย
เมื่อออกมาภายนอกให้มองหา Airport Limousine Counter สีส้ม
เพื่อจะซื้อตั๋วรถบัสไปสนามบิน Haneda Terminal 2
(ให้ซื้อตั๋วรถบัสแบบเที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ราคา คนละ 3,100 เยน)
เวลา 12:00–14:40 น.
ถึงสนามบิน Haneda เช็คอินให้เรียบร้อยและไปหาอะไรทานก่อน
เราจะต่อเครื่องบินภายในประเทศของสายการบิน Airdo เพื่อไปยังสนามบิน Hakodate ใช้เวลาการเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆ
เวลา 16:00–17:30 น.
รับกระเป๋าแล้ว ออกมารอรถเมลล์ ที่จุดขึ้นรถบัสหมายเลข 3 เพื่อนั่งรถไป Hakodate Ekimae (Hakodate Station)
สามารถขึ้นรถได้ 2 จุด
จุดขึ้นรถหมายเลข 2 รถบัสหมายเลข 96 ราคา 290 เยน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
จุดขึ้นรถหมายเลข 3 ราคา 410 เยน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
เราขึ้นป้ายหมายเลข 3 คะ ราคาแพงกว่าแต่ก็ถึงไวกว่าคะ คนขับรถบอกแบบนั้นอะ ไม่งั้นเราถึงค่ำแน่ๆ
เมื่อลงรถแล้วสามารถเดินไป Smile Hotel Hakodate ได้เลยโรงแรมที่เราพักอยู่ไม่ไกลจากจุดลงรถ
หลังจาก Check in เก็บกระเป๋า ทำนู่นนี่นั่นเรียบร้อยแล้ว เราจะขึ้นภูเขา Hakodate ไปดูวิวกลางคืนที่เค้าว่าสวยติด 1 ใน 3 ของโลก
การเดินทางไป Hakodate Mount.
1. นั่งรถบัส จุดขึ้นรถหมายเลข 4 (34 นาที = 400 เยน) Hakodate Ekimae--->Hakodate Mount.
2. นั่งรถบัสแล้วไปต่อกระเช้า
รถบัส 15 นาที = 240 เยน ---> ต่อกระเช้า 10 นาที = 780 เยน (1,020 เยน/ เที่ยว)
Hakodate Ekimae--->Ropeway--->Hakodate Mount.
**เราเลือกวิธีแรกคะนั่งรถบัสยาวไป เพราะจากที่พักนั่งรถบัสตรงหน้าโรงแรมต่อเดียวถึงเลยสะดวกกว่าคะ
ขากลับก็ค่อยนั่งกระเช้าลงมาก็ได้สำหรับใครที่อยากนั่งกระเช้าชมเมืองนะคะ
แต่ขากลับคนเยอะมากแถวยาวถ้ารอขึ้นคงไม่ได้นอนแน่ๆ เราเลยต้องกลับรถบัสตามเดิม แต่ก็ประหยัดดีคะ
เมื่อมาถึงด้านบนอากาศเริ่มเย็นสบายและหนาวขึ้นเรื่อยๆ เพราะลมแรงมาก (20 องศา) ผู้คนเริ่มทยอยเดินขึ้นมากันอย่างเนืองแน่น
พร้อมจับจองมุมส่วนตัวเพื่อรอชมแสงสียามราตรีของเมืองฮาโกดาเตะอย่างใจจดใจจ่อ คืนนี้คงกลับไปนอนหลับฝันดีแล้วซินะ...
#จบไป 1 วัน..ยังไม่หลง อิอิ