หลายคนมีความฝันที่จะมีบ้านเป็นของตัวเองบ้านใหญ่บ้าง บ้านเล็กบ้าง เอ่อบ้านเล็กนี่คือบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อยนะครับ อย่าคิดลึกกันเชียวเดี๋ยวบรรดาคุณผู้ชายอาจจะเจ็บตัวกันได้
แต่หนี้ก้อนนี้ช่างใหญ่หลวงนัก กู้แล้วกู้อีกไม่ผ่านซะที แถมนับวันมีแต่ราคาขึ้นไปเรื่อยๆ ขึ้นแบบไม่รอเงินเดือนขึ้นกันเลย บ้านถูกหน่อยนี่ก็อยู่นอกเมืองแบบเมืองลับแลเดินทางก็ไม่สะดวก แล้วทำไงดีล่ะถ้าวันนี้อยากได้บ้าน ขอนำเสนอเทคนิคการกู้ 3 แบบให้ฟังกัน
1. ดาวน์ก้อนใหญ่
พูดเหมือนง่ายทำย๊ากยาก แต่เดี๋ยวมาฟังเหตุผลกันก่อน โดยปรกติบ้านส่วนใหญ่ธนาคารจะให้เรากู้ที่ประมาณ 80% ของมูลค่าบ้าน ยกตัวอย่างเช่น บ้านราคา 5 ล้านบาท ธนาคารจะให้เรากู้ที่ 4 ล้านบาท หากระยะเวลากู้ 30 ปี ก็ผ่อนเฉลี่ยเดือนละ 28,000 บาท อ้าวพอดีเลยเรามีเงินเดือน 40,000 บาท ก็ผ่อนได้สิ ประหยัดหน่อยก็อยู่ได้ แต่เดี๋ยวก่อนมีอีกจุดที่บางคนอาจไม่ทราบ
คือธนาคารโดยส่วนใหญ่จะให้เราสามารถผ่อนสินเชื่อบ้านได้ต่อเดือนประมาณ 40% ของรายได้ต่อเดือน หากยอดผ่อนบ้านต่อเดือนที่ 28,000 บาท แสดงว่าคุณต้องมีรายได้ที่ 70,000 บาทถึงจะขอสินเชื่อผ่านได้ แต่ถ้ายังไงก็อยากจะได้หลังนี้ จะเอาๆ ก็ยังพอมีวิธีโดยที่ไม่ต้องรอเงินเดือนให้ถึง 7 หมื่นบาทคือ การทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนลดลง โดยการหาเงินดาวน์ก้อนใหญ่มาจ่ายค่าบ้านเพื่อให้ยอดหนี้ที่ต้องกู้ลดลง รายได้ต่อเดือนที่ต้องมีก็จะลดลงด้วยเช่นกันลองไปคำนวณกันดูน้า
2. รวมร่าง
ฟังเหมือนการ์ตูนกันเลยทีเดียว รวมร่างในที่นี้คือ การหาคนมากู้ร่วม (คนที่จะไม่ทิ้งกันในระยะยาว เพลงรักขึ้น) ถ้าจะให้พูกก็คือคนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดไม่รวมกิ๊กนะครับเช่น พ่อแม่ สามี ภรรยา พี่น้อง หรือ ลูก หากเป็นบุคคลอื่นจะไม่สามารถกู้ร่วมได้เพื่อกันปัญหาที่จะตามมาภายหลัง แล้วการกู้ร่วมดียังไงขอยกตัวอย่างเดิมอีกที บ้านที่ต้องการราคา 5 ล้าน ยอดผ่อนต่อเดือน 28,000 บาท ต้องมีเงินเดือนประมาณ 70,000 บาท แต่หากหาคนกู้ร่วมได้ ตัวเรามีรายได้ต่อเดือน 40,000 บาท ผู้กู้ร่วมมีรายได้ต่อเดือน 30,000 บาท ก็สามารถทำการกู้ได้นะครับ โดยผู้กู้ทั้งสองต้องไม่มีภาระผ่อนอื่นๆ ด้วย เพราะการกู้อื่นๆ จะทำให้ความสามารถในการผ่อนต่อเดือนเราลดลง จุดสำคัญเมื่อมีคนมาช่วยกู้ร่วมกับเราก็คือ ต้องมั่นใจว่า ผ่อนไหวด้วยนะครับ เพราะถ้าผ่อนไม่ไหว ภาระก็จะตกอยู่กับตัวเราและคนที่มาช่วยกู้ร่วมด้วย
3. ข้อนี้ฟังแล้วอาจจะมีบางคนถึงกับต้องเศร้า
คือการลดขนาดบ้านในฝันให้เล็กลง แต่อาจจะส่งผลดีกับเราในระยะยาว
เพราะการที่ต้องจ่ายหนี้ต่อเดือนที่เยอะจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน นี่ยังไม่นับเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เราอาจจะต้องใช้เงินจำนวนมาก หรือต้องการกู้ในสิ่งอื่นๆ เช่นบ้านในฝันจาก 5 ล้านบาท ลองลดลงเหลือ 3.5 ล้านบาท ก็จะทำให้เราเตรียมเงินดาวน์เพียง 700,000 บาท และกู้เพียง 2.8 ล้านบาท ก็จะทำให้ชีวิตเราสบายขึ้น ทั้งเงินดาวน์ที่น้อยลง เงินผ่อนที่สามารถผ่อนไหวด้วยตัวเองไม่ต้องกู้ร่วมกับใคร
อย่าลืม ค่าอื่นๆ ที่จะตามมาเมื่อเรามีบ้านแล้วด้วยนะครับเช่น ค่าตกแต่งบ้าน ค่าโอนกรรมสิทธิ์ มัดจำมิเตอร์ไฟฟ้า มิเตอร์น้ำ รวมถึงค่าส่วนกลางซึ่งอาจต้องชำระล่วงหน้า 3 ปี (ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของโครงการ)
เพื่อนๆ ท่านอื่นมีเทคนิคกู้บ้านให้ผ่านวิธีอื่นอีกมั้ย มาแชร์กันได้นะครับ
กู้บ้านกี่ทีก็ไม่ผ่าน!!! ต้องอ่านทางนี้
1. ดาวน์ก้อนใหญ่ พูดเหมือนง่ายทำย๊ากยาก แต่เดี๋ยวมาฟังเหตุผลกันก่อน โดยปรกติบ้านส่วนใหญ่ธนาคารจะให้เรากู้ที่ประมาณ 80% ของมูลค่าบ้าน ยกตัวอย่างเช่น บ้านราคา 5 ล้านบาท ธนาคารจะให้เรากู้ที่ 4 ล้านบาท หากระยะเวลากู้ 30 ปี ก็ผ่อนเฉลี่ยเดือนละ 28,000 บาท อ้าวพอดีเลยเรามีเงินเดือน 40,000 บาท ก็ผ่อนได้สิ ประหยัดหน่อยก็อยู่ได้ แต่เดี๋ยวก่อนมีอีกจุดที่บางคนอาจไม่ทราบ คือธนาคารโดยส่วนใหญ่จะให้เราสามารถผ่อนสินเชื่อบ้านได้ต่อเดือนประมาณ 40% ของรายได้ต่อเดือน หากยอดผ่อนบ้านต่อเดือนที่ 28,000 บาท แสดงว่าคุณต้องมีรายได้ที่ 70,000 บาทถึงจะขอสินเชื่อผ่านได้ แต่ถ้ายังไงก็อยากจะได้หลังนี้ จะเอาๆ ก็ยังพอมีวิธีโดยที่ไม่ต้องรอเงินเดือนให้ถึง 7 หมื่นบาทคือ การทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนลดลง โดยการหาเงินดาวน์ก้อนใหญ่มาจ่ายค่าบ้านเพื่อให้ยอดหนี้ที่ต้องกู้ลดลง รายได้ต่อเดือนที่ต้องมีก็จะลดลงด้วยเช่นกันลองไปคำนวณกันดูน้า
2. รวมร่าง ฟังเหมือนการ์ตูนกันเลยทีเดียว รวมร่างในที่นี้คือ การหาคนมากู้ร่วม (คนที่จะไม่ทิ้งกันในระยะยาว เพลงรักขึ้น) ถ้าจะให้พูกก็คือคนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดไม่รวมกิ๊กนะครับเช่น พ่อแม่ สามี ภรรยา พี่น้อง หรือ ลูก หากเป็นบุคคลอื่นจะไม่สามารถกู้ร่วมได้เพื่อกันปัญหาที่จะตามมาภายหลัง แล้วการกู้ร่วมดียังไงขอยกตัวอย่างเดิมอีกที บ้านที่ต้องการราคา 5 ล้าน ยอดผ่อนต่อเดือน 28,000 บาท ต้องมีเงินเดือนประมาณ 70,000 บาท แต่หากหาคนกู้ร่วมได้ ตัวเรามีรายได้ต่อเดือน 40,000 บาท ผู้กู้ร่วมมีรายได้ต่อเดือน 30,000 บาท ก็สามารถทำการกู้ได้นะครับ โดยผู้กู้ทั้งสองต้องไม่มีภาระผ่อนอื่นๆ ด้วย เพราะการกู้อื่นๆ จะทำให้ความสามารถในการผ่อนต่อเดือนเราลดลง จุดสำคัญเมื่อมีคนมาช่วยกู้ร่วมกับเราก็คือ ต้องมั่นใจว่า ผ่อนไหวด้วยนะครับ เพราะถ้าผ่อนไม่ไหว ภาระก็จะตกอยู่กับตัวเราและคนที่มาช่วยกู้ร่วมด้วย
3. ข้อนี้ฟังแล้วอาจจะมีบางคนถึงกับต้องเศร้า คือการลดขนาดบ้านในฝันให้เล็กลง แต่อาจจะส่งผลดีกับเราในระยะยาว เพราะการที่ต้องจ่ายหนี้ต่อเดือนที่เยอะจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน นี่ยังไม่นับเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เราอาจจะต้องใช้เงินจำนวนมาก หรือต้องการกู้ในสิ่งอื่นๆ เช่นบ้านในฝันจาก 5 ล้านบาท ลองลดลงเหลือ 3.5 ล้านบาท ก็จะทำให้เราเตรียมเงินดาวน์เพียง 700,000 บาท และกู้เพียง 2.8 ล้านบาท ก็จะทำให้ชีวิตเราสบายขึ้น ทั้งเงินดาวน์ที่น้อยลง เงินผ่อนที่สามารถผ่อนไหวด้วยตัวเองไม่ต้องกู้ร่วมกับใคร
อย่าลืม ค่าอื่นๆ ที่จะตามมาเมื่อเรามีบ้านแล้วด้วยนะครับเช่น ค่าตกแต่งบ้าน ค่าโอนกรรมสิทธิ์ มัดจำมิเตอร์ไฟฟ้า มิเตอร์น้ำ รวมถึงค่าส่วนกลางซึ่งอาจต้องชำระล่วงหน้า 3 ปี (ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของโครงการ)
เพื่อนๆ ท่านอื่นมีเทคนิคกู้บ้านให้ผ่านวิธีอื่นอีกมั้ย มาแชร์กันได้นะครับ