เพื่อน..ที่ระทึก
หลายคนคงจะคุ้นเคยกับตึกสูงย่านสาทรที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นใกล้ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแต่กลับถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานานมากกว่า 20 ปี ไม่ว่าใครก็คงสงสัยและตั้งคำถามอยู่ในใจถึงตึกสูงนี้กันอย่างแน่นอน
ใครบางคนบอกว่ามันคือสัญลักษณ์ของความล่มสลายทางเศรษฐกิจของไทยในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งปี พ.ศ. 2540 ช่วงเวลาที่ยากลำบากของใครหลายคน คนที่เคยรวยกลับจนลงอย่างกะทันหัน ชีวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ เช่นเดียวกับตัวละครในหนังเรื่องนี้ เพื่อน..ที่ระลึก
เมื่อเด็กสาววัยรุ่นสองคนต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางฐานะครอบครัวครั้งยิ่งใหญ่จนเกินกว่าที่จะทำใจยอมรับได้ ในที่สุดแล้วทั้งสองคนได้ตัดสินใจว่าจะปลิดชีพตนเองเพื่อให้พ้นจากความยากลำบากที่กำลังเผชิญอยู่และได้สัญญากันไว้ในขณะที่กำลังลงมือปลิดชีพที่ตึกดังกล่าวซึ่งต้องหยุดการก่อสร้างเพราะเกิดปัญหาฟ้องร้องกันเสียก่อน แต่แล้วคำสัญญาไม่เป็นไปตามที่ให้ไว้จึงมีใครบางคนกลับมาทวงคำสัญญาเมื่อถึงเวลาอันควร
มีคำสัญญารออยู่ที่ตึกร้างแห่งนั้นมานานแสนนาน
แม้ว่าหนังจะหยิบเอาเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งมาเล่นเพื่อนำมาสนับสนุนที่มาที่ไปของตึกร้างแห่งนี้เพื่อสร้างเรื่องราวในหนังให้เกี่ยวข้องขึ้นก็ตามแต่ก็อย่าได้คาดหวังว่าจะได้พบกับเรื่องเกี่ยวกับวิกฤติเศรษฐกิจในหนังมากนักเพราะมันถูกนำมาใช้ประกอบกับเรื่องราวในตอนต้นเท่านั้นเอง หลังจากนั้นหนังจะพลิกตัวเองเป็นหนังระทึกขวัญของสองแม่ลูกที่ต้องเอาตัวรอดจากผีขี้ทวงสัญญา ทั้งคู่ต้องต่อสู้กับสภาพจิตใจตนเองและสิ่งที่มองไม่เห็น และแม้ว่าจะรู้จุดประสงค์แน่ชัดของผีแล้วก็ยังหาทางแก้ไขปัญหาไม่ได้ คุยกันให้รู้เรื่องกับผีก็ว่ายากแล้ว นี่จะแก้ปัญหาที่ค้างคาในใจของผียิ่งยากกว่า เปรียบได้กับงมเข็มในมหาสมุทรก็ว่าได้
สำหรับคนที่ต้องการแนวทางหนังสยองขวัญสั่นประสาทคงจะถูกใจอย่างแน่นอนเพราะฉากหลอกผีมีอยู่เกือบตลอดเวลา ดนตรีประกอบชวนตกใจก็มีมาให้สะดุ้งเรื่อยๆจนบางทีก็แอบรำคาญบ้าง ถามว่าตกใจหรือไม่ ก็ต้องตอบว่าตกใจแน่นอน ใครไม่ตกใจก็เกินไปแล้วก็แหมเสียงดนตรีประกอบดังขนาดนั้น แต่ถามว่ามันน่ารู้สึกสะพรึงสยองจริงๆหรือไม่ เราว่าไม่ขนาดนั้น ถือว่ากลางๆก็แล้วกัน
ส่วนการดำเนินเรื่องของหนังนั้นถือว่าน่าพอใจ สามารถทำให้เรารู้สึกอยากติดตามไปจนจบเรื่องและรู้สึกว่าคาดเดาเรื่องราวยากกว่าที่คิดไว้ แน่นอนว่าคนเขียนบทคงไม่อยากให้เราเดาเรื่องราวได้ง่ายดายจึงพยายามทำให้คนดูหลงทางและออกห่างจากสูตรหนังผีทั่วไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อีกทั้งยังใส่ความเข้มข้นในชะตาชีวิตของตัวละครอย่างหนักหน่วงจนเกือบจะเป็นหนังชีวิตแล้วด้วยซ้ำซึ่งเราคิดว่ามันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือทำให้เรื่องราวมีน้ำหนักมากขึ้นและทำให้คนดูมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครมากขึ้นเช่นกัน แต่ข้อเสียคือมันอาจจะทำให้คนดูบางคนรู้สึกรำคาญตัวละครที่เวิ่นเว้อจนเกินไปหรือไม่ เรามองว่าหนังตั้งใจทำให้มีเรื่องราวของการต่อสู้กับชะตาชีวิตมากขึ้นโดยเฉพาะกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกซึ่งเป็นตัวละครสำคัญของเรื่องเพื่อให้ปะทะกับความท้อแท้ของจิตใจในต้อนต้นเรื่อง
เพราะชีวิตคือการต่อสู้
และแม้ว่านี่จะเป็นผลงานหนังเรื่องแรกของ บี น้ำทิพย์ แต่เธอก็สามารถทำออกมาได้เป็นอย่างดี(ก็ถนัดดราม่าอยู่แล้วนี่นา) เรียกว่าแบกรับเรื่องราวของหนังทั้งเรื่องไว้คนเดียวก็ว่าได้ ส่วน ลิลลี่ นี่ถือว่าเฉยๆนะ ไม่เด่นไม่ดีไม่แย่
สำหรับหนังผีเรื่องนี้ของผู้กำกับ จิม โสภณ เราถือว่าทำออกมาได้ดีพอใช้ นั่นคือสามารถตอบโจทย์หนังผีได้อย่างแท้จริง มีเรื่องราวที่ชวนติดตามและค่อนข้างสมบูรณ์ในหลายด้าน ที่สำคัญคือดีกว่ามาตรฐานของหนังไทยในปัจจุบันมาก
ขบเคี้ยวหนัง
[CR] เพื่อน..ที่ระทึก
เพื่อน..ที่ระทึก
หลายคนคงจะคุ้นเคยกับตึกสูงย่านสาทรที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นใกล้ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแต่กลับถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานานมากกว่า 20 ปี ไม่ว่าใครก็คงสงสัยและตั้งคำถามอยู่ในใจถึงตึกสูงนี้กันอย่างแน่นอน
ใครบางคนบอกว่ามันคือสัญลักษณ์ของความล่มสลายทางเศรษฐกิจของไทยในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งปี พ.ศ. 2540 ช่วงเวลาที่ยากลำบากของใครหลายคน คนที่เคยรวยกลับจนลงอย่างกะทันหัน ชีวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ เช่นเดียวกับตัวละครในหนังเรื่องนี้ เพื่อน..ที่ระลึก
เมื่อเด็กสาววัยรุ่นสองคนต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางฐานะครอบครัวครั้งยิ่งใหญ่จนเกินกว่าที่จะทำใจยอมรับได้ ในที่สุดแล้วทั้งสองคนได้ตัดสินใจว่าจะปลิดชีพตนเองเพื่อให้พ้นจากความยากลำบากที่กำลังเผชิญอยู่และได้สัญญากันไว้ในขณะที่กำลังลงมือปลิดชีพที่ตึกดังกล่าวซึ่งต้องหยุดการก่อสร้างเพราะเกิดปัญหาฟ้องร้องกันเสียก่อน แต่แล้วคำสัญญาไม่เป็นไปตามที่ให้ไว้จึงมีใครบางคนกลับมาทวงคำสัญญาเมื่อถึงเวลาอันควร
มีคำสัญญารออยู่ที่ตึกร้างแห่งนั้นมานานแสนนาน
แม้ว่าหนังจะหยิบเอาเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งมาเล่นเพื่อนำมาสนับสนุนที่มาที่ไปของตึกร้างแห่งนี้เพื่อสร้างเรื่องราวในหนังให้เกี่ยวข้องขึ้นก็ตามแต่ก็อย่าได้คาดหวังว่าจะได้พบกับเรื่องเกี่ยวกับวิกฤติเศรษฐกิจในหนังมากนักเพราะมันถูกนำมาใช้ประกอบกับเรื่องราวในตอนต้นเท่านั้นเอง หลังจากนั้นหนังจะพลิกตัวเองเป็นหนังระทึกขวัญของสองแม่ลูกที่ต้องเอาตัวรอดจากผีขี้ทวงสัญญา ทั้งคู่ต้องต่อสู้กับสภาพจิตใจตนเองและสิ่งที่มองไม่เห็น และแม้ว่าจะรู้จุดประสงค์แน่ชัดของผีแล้วก็ยังหาทางแก้ไขปัญหาไม่ได้ คุยกันให้รู้เรื่องกับผีก็ว่ายากแล้ว นี่จะแก้ปัญหาที่ค้างคาในใจของผียิ่งยากกว่า เปรียบได้กับงมเข็มในมหาสมุทรก็ว่าได้
สำหรับคนที่ต้องการแนวทางหนังสยองขวัญสั่นประสาทคงจะถูกใจอย่างแน่นอนเพราะฉากหลอกผีมีอยู่เกือบตลอดเวลา ดนตรีประกอบชวนตกใจก็มีมาให้สะดุ้งเรื่อยๆจนบางทีก็แอบรำคาญบ้าง ถามว่าตกใจหรือไม่ ก็ต้องตอบว่าตกใจแน่นอน ใครไม่ตกใจก็เกินไปแล้วก็แหมเสียงดนตรีประกอบดังขนาดนั้น แต่ถามว่ามันน่ารู้สึกสะพรึงสยองจริงๆหรือไม่ เราว่าไม่ขนาดนั้น ถือว่ากลางๆก็แล้วกัน
ส่วนการดำเนินเรื่องของหนังนั้นถือว่าน่าพอใจ สามารถทำให้เรารู้สึกอยากติดตามไปจนจบเรื่องและรู้สึกว่าคาดเดาเรื่องราวยากกว่าที่คิดไว้ แน่นอนว่าคนเขียนบทคงไม่อยากให้เราเดาเรื่องราวได้ง่ายดายจึงพยายามทำให้คนดูหลงทางและออกห่างจากสูตรหนังผีทั่วไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อีกทั้งยังใส่ความเข้มข้นในชะตาชีวิตของตัวละครอย่างหนักหน่วงจนเกือบจะเป็นหนังชีวิตแล้วด้วยซ้ำซึ่งเราคิดว่ามันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือทำให้เรื่องราวมีน้ำหนักมากขึ้นและทำให้คนดูมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครมากขึ้นเช่นกัน แต่ข้อเสียคือมันอาจจะทำให้คนดูบางคนรู้สึกรำคาญตัวละครที่เวิ่นเว้อจนเกินไปหรือไม่ เรามองว่าหนังตั้งใจทำให้มีเรื่องราวของการต่อสู้กับชะตาชีวิตมากขึ้นโดยเฉพาะกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกซึ่งเป็นตัวละครสำคัญของเรื่องเพื่อให้ปะทะกับความท้อแท้ของจิตใจในต้อนต้นเรื่อง
เพราะชีวิตคือการต่อสู้
และแม้ว่านี่จะเป็นผลงานหนังเรื่องแรกของ บี น้ำทิพย์ แต่เธอก็สามารถทำออกมาได้เป็นอย่างดี(ก็ถนัดดราม่าอยู่แล้วนี่นา) เรียกว่าแบกรับเรื่องราวของหนังทั้งเรื่องไว้คนเดียวก็ว่าได้ ส่วน ลิลลี่ นี่ถือว่าเฉยๆนะ ไม่เด่นไม่ดีไม่แย่
สำหรับหนังผีเรื่องนี้ของผู้กำกับ จิม โสภณ เราถือว่าทำออกมาได้ดีพอใช้ นั่นคือสามารถตอบโจทย์หนังผีได้อย่างแท้จริง มีเรื่องราวที่ชวนติดตามและค่อนข้างสมบูรณ์ในหลายด้าน ที่สำคัญคือดีกว่ามาตรฐานของหนังไทยในปัจจุบันมาก
ขบเคี้ยวหนัง