ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจกับคำว่า "ปรับฮอร์โมน" ก่อน
ยาคุมเป็นฮอร์โมน ไปออกฤทธิ์สองอย่างหลักๆ
1. กดการทำงานของสมองส่วนควบคุมการทำงานของรังไข่
ส่งผลให้รังไข่หยุดผลิตฮอร์โมน และไม่ตกไข่ ไม่ได้ไปปรับฮอร์โมน
2. ออกฤทธิ์โดยตรงที่เยื่อบุมดลูก ให้เปลี่ยนแปลงคล้ายเยื่อบุมดลูกหลังตกไข่
เมื่อกินหมดแผง เยื่อบุมดลูกก็ขาดฮอร์โมน ก็ลอกหลุดออกมา ทำให้เลือดจากหลอดเลือดฝอยที่ผนังมดลูกไหลออกมาได้ เกิดเป็นประจำเดือน

สรุปถ้ายาคุมจะปรับอะไร ยาคุมปรับเยื่อบุมดลูก ไม่ได้ปรับฮอร์โมน

เนื้อเยื่อ หรือลิ่มเลือดนั้น คืออะไร
เนื้อเยื่อคือเยื่อบุมดลูกที่ลอกออกมา
เมื่อประจำเดือนไม่มา 2 เดือน ซึ่งการที่ประจำเดือนไม่มาเกิดเพราะการไม่ตกไข่ เยื่อบุมดลูกก็จะหนากว่าปกติ
เมื่อลอกออกมาก็เป็นแผ่นหนากว่าที่พบในประจำเดือนธรรมดา ตรงไปตรงมา
ยิ่งถ้าเล่นออกมาโดยไม่ย่อยสลายให้ดี ก็จะเป็นแผ่นกว้าง กว่าจะผ่านปากมดลูกออกมาได้ มดลูกต้องบีบตัวแรงมาก ก็เกิดอาการปวดท้อง

ก้อนเลือดล่ะ
คือเลือดจากหลอดเลือดฝอยที่ผนังมดลูก ไหลออกมาหลังเยื่อบุมดลูกลอกออกนั่นแหละ
ปกติ เลือดจะค่อยๆซึมออกมา รวมตัวอยู่ในโพรงมดลูกก่อนยังไม่ไหลออกมาเพราะปริมาณยังไม่มากพอที่จะทำให้ปากมดลูกอ้าออกให้ไหลออกมาได้
เลือดที่รวมตัวกันอยู่นั้น จะแข็งเป็นลิ่มเลือด แล้วถูกย่อยสลายโดยสารเคมีที่ผนังมดลูกหลั่งออกมากลายเป็นน้ำเลือดอีกครั้ง
จึงไหลออกจากมดลูกเป็นประจำเดือน อย่างที่เห็นกัน คือเป็นน้ำเลือด ปนเยื่อบุมดลูกชิ้นเล็กๆ

ทีนี้ เมื่อเยื่อบุมดลูกนั้นหนา เลือดก็ไหลออกมาทีละมาก เกิดเป็นลิ่มเลือดขนาดใหญ่ สารเคมีจึงย่อยสลายไม่ทัน
ก็ออกมาจากมดลูกเป็นแผ่นใหญ่ๆ เป็นก้อนใหญ่ๆ เช่นที่เห็น
นับเป็นเหตุการณ์ผิดปกติ หลังจากขาดประจำเดือนไประยะหนึ่ง ประจำเดือนที่มาครั้งแรกหลังจากขาดประจำเดือนจะเป็นเช่นนั้น
ถ้าครั้งหน้า ประจำเดือนขาดอีก ไปพบสูตินรีแพทย์นะ เพื่อหาสาเหตุว่าทำไมจึงขาดประจำเดือน
อย่าเพียงแต่ไปร้านขายยา ได้ฮอร์โมน ได้ยาคุมมากินให้ประจำเดือนมา จะทำให้ไม่รู้ถึงสาเหตุ
ซึ่งสาเหตุบางอย่าง ปล่อยไว้ไม่รักษา อันตรายมาก เช่นต่อมไทรอยด์ทำงานบกพร่อง เนื้องอกต่อมใต้สมอง เป็นต้น