คำชมเยอะมากครับสำหรับหนังแอ็คชั่นเรื่องนี้ ด้วยความเท่ห์ของฉากแอ็คชั่นของเรื่องบวกกับกลิ่นความเป็น retro เล็กๆ และเพลงเท่ห์ๆ เก๋าๆ และความกวน นิ่ง และน่ารักของตัวเอกอย่าง Baby ที่ทำให้หลายๆ คนชอบหนังเรื่องนี้อย่างจัง

หนังบอกเล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มชื่อว่า Baby  ผู้มีหน้าที่ขับรถหนีให้กับแก๊งค์อาชญากร เขาจะต้องฟังเพลงที่จัดสรรมาโดยเฉพาะอยู่ตลอดเวลาเพื่อเป็นตัวช่วยในการรักษาโรคหูอื้อ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วัยเด็ก และในเรื่องนี้ Baby จะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการปล้นครั้งสุดท้ายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่เขากำลังวางแผนเพื่อจะหยุดชีวิตอาชญากรรมนี้ไปพร้อมกับ Debora

ช่วงแรกของหนัง หนังพยายามพาเราไปรู้จักกับ Baby ในรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวของผู้กำกับ  เอ็ดการ์ ไรต์  ที่มีความเกรียนและเท่ห์ แต่ตรงช่วงนี้แหละที่ผู้กำกับพยายามจะโชว์ความเป็นตัวของตัวเองเอามากๆ ฉาก Long Take ที่ดำเนินไปพร้อมกับเพลงประกอบที่ฟังเพลิน ซึ่งหลายฉากดูยาวจนเกินไป คือหลายๆ ฉากมันดูคูลจริง แต่ด้วยความยาวของมันทำให้คนที่ไม่ได้อินกับเพลงประกอบก็จะเบื่อเอาได้ง่ายๆ เหมือนนั่งดู MV ยาวๆ หลายๆ เพลงต่อๆ กัน แถมด้วยช่วงต้นพอจบฉากแอ็คชั่นขับรถฉากแรกไปหนังก็เดินอย่างเรียบง่ายไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเกือบๆ 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว

เข้าสู่ช่วงกลางของหนังที่เริ่มใส่ความเข้มข้นเข้าไปในเนื้อเรื่อง 1 ชั่วโมงท้ายกลายเป็นหนังคนละม้วน เพราะหนังใส่ฉากแอ็คชั่นมันส์ๆ มาเต็มแม็กซ์ แต่ถึงแม้ว่าฉากแอ็คชั่นจะมันส์สุดๆ แต่เนื้อหาของหนังกลับไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่เท่าไหร่ สิ่งดีงามอย่างที่บอกว่ามันคือฉากแอ็คชั่นที่มีการออกแบบมาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นฉากขับรถเท่ห์ๆ ที่ไม่ต้องเว่อร์วังเหมือน FF หรือฉากวิ่งไล่วิ่งหนีกันก็ทำได้เจ๋ง ดูแล้วลุ้นตามแบบเหนื่อยแทนพระเอกเลยทีเดียว

ทีมนักแสดงก็มีส่วนช่วยหนังเรื่องนี้ได้เยอะครับ Jamie Foxx นี่คือผงชูรสชั่นดีที่ช่วยให้หนังสนุกขึ้นเยอะเลยทีเดียว ลีลาท่าทางที่ดูกวนและออกจะโรคจิต ทำให้หนังดูมีสีสันมากขึ้น อีกคนคือ Kevin Spacey ที่ตอนแรกดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ตอนท้ายเรื่องจะมีบทบาทพอสมควรเลยทีเดียว ผิดกับ Lily James ที่น่าะมีบทบาทมากกว่านี้

โดยรวมอย่างที่บอก  ถึงหนังจะดูสนุกทุกเพศทุกวัย แต่สำหรับผมบทหนังมันยังไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ อยากให้บทมันพลิกแพลงอีกสักนิด น่าจะดี

พูดคุยเพิ่มเติมได้ที่เพจนะครับ >> https://www.facebook.com/DooNangGunMai