"ท่าดี ทีเหลว" คือคำที่เหมาะสมมากๆสำหรับเรื่องนี้ มีความอยากดูตั้งแต่เห็นตัวอย่างครั้งแรกเลย พระเอกแมซรันเนอร์ ที่กลับมาจากการบาดเจ็บ ฟิตหุ่นเปลี่ยนลุคซะจำแทบไม่ได้ ไหนจะไมเคิล คีตั้น ที่มารับบทเป็นสุดยอดโปรสายลับ ที่มาปลุกปั้นพระเอกอีกที คือพล็อตแค่นี้ มันก็น่าดูสุดๆละนะ
ด้วยคาแรคเตอร์ของพระเอก ถือว่ามีเสน่ห์ดึงดูดน่าติดตามอย่างมาก เพราะความพยศ ไม่สนกฎเกณฑ์การเป็นนักฆ่านี่แหละ ทำให้รู้สึกว่า "เดาทางไม่ถูก" ด้วยความบ้าระห่ำและเก่งจริงนี้เอง ทำให้ฉากแอ๊คชั่นในหลายๆฉาก รู้สึกได้ถึงความสะใจและให้อารมณ์ นักฆ่าอีกรูปแบบนึง
แต่กระนั้นตัวหนังเองนอกจากเปิดเรื่องมาดูดีแล้ว พอมาซักครึ่งหลังของเรื่อง ก็เหมือนกับว่า คนเขียนบทครึ่งแรกได้โดนลักพาตัวฆ่าปิดปากไปเรียบร้อย แล้วไปเอาเด็ก ม.ปลาย มาเขียนบทต่อแทน คือ ครึ่งหลังนี้อย่างเละเทะ เล่นใหญ่ เล่นง่าย สรุปจบกันดื้อๆไปเลย ชนิดที่ว่า "เฮ้ย แบบนี้ก็ได้เหรอ"
ไม่ว่าจะด้วยปมของพระเอก, ปมของไมเคิลคีตั้น หรือแม้กระทั่งตัวร้ายของเรื่อง มันช่างเบาหวิวววว แบนแต๋ดแต๋ ขนาดที่งงว่า ต้นเรื่องพี่จะปูเรื่องให้มาทำไมขนาดนั้น ถ้าตอนใกล้จบมันด๋อยขนาดนี้ แบบนั้นบ้านพี่เรียกไคลแม็กซ์เหรอครับ? ฮ่าๆ
โดยส่วนตัวแล้ว มันเป็นหนังที่เริ่มต้นมาดูดีมากจริงๆ คาแรคเตอร์พระเอกนี้มาถูกทางแล้ว การฝึกเอย การลงสนามจริงเอย ฉากแอ๊คชั่นต่อยเตะยิงกันนี้มาเต็ม แต่ครึ่งหลังนี้ บรรลัยเลย โคตรน่าเสียดาย
โดยรวมๆมันไม่ใช่หนังที่จะเรียกว่าห่วยแตกอะไรนะ มันยังให้ความบันเทิงได้ ดูเอาสนุก เอามันนี้ได้อย่างสบายๆจนจบอ่ะ เพียงแค่รู้สึกว่ามันยังไม่สุด มันน่าจะทำได้ดีกว่านี้อีกเยอะด้วยซ้ำไป ไม่งั้นมันจะกลายเป็นหนังสายลับระดับขึ้นหิ้งได้อีกเรื่องเลยด้วย
ปล. ไมเคิล คีตั้น อ่านบทแค่ครึ่งแรกป่าววะเนี่ย ฮ่าๆ
[CR] American Assassin = ท่าดี ทีเหลว อย่างน่าเสียดาย
ด้วยคาแรคเตอร์ของพระเอก ถือว่ามีเสน่ห์ดึงดูดน่าติดตามอย่างมาก เพราะความพยศ ไม่สนกฎเกณฑ์การเป็นนักฆ่านี่แหละ ทำให้รู้สึกว่า "เดาทางไม่ถูก" ด้วยความบ้าระห่ำและเก่งจริงนี้เอง ทำให้ฉากแอ๊คชั่นในหลายๆฉาก รู้สึกได้ถึงความสะใจและให้อารมณ์ นักฆ่าอีกรูปแบบนึง
แต่กระนั้นตัวหนังเองนอกจากเปิดเรื่องมาดูดีแล้ว พอมาซักครึ่งหลังของเรื่อง ก็เหมือนกับว่า คนเขียนบทครึ่งแรกได้โดนลักพาตัวฆ่าปิดปากไปเรียบร้อย แล้วไปเอาเด็ก ม.ปลาย มาเขียนบทต่อแทน คือ ครึ่งหลังนี้อย่างเละเทะ เล่นใหญ่ เล่นง่าย สรุปจบกันดื้อๆไปเลย ชนิดที่ว่า "เฮ้ย แบบนี้ก็ได้เหรอ"
ไม่ว่าจะด้วยปมของพระเอก, ปมของไมเคิลคีตั้น หรือแม้กระทั่งตัวร้ายของเรื่อง มันช่างเบาหวิวววว แบนแต๋ดแต๋ ขนาดที่งงว่า ต้นเรื่องพี่จะปูเรื่องให้มาทำไมขนาดนั้น ถ้าตอนใกล้จบมันด๋อยขนาดนี้ แบบนั้นบ้านพี่เรียกไคลแม็กซ์เหรอครับ? ฮ่าๆ
โดยส่วนตัวแล้ว มันเป็นหนังที่เริ่มต้นมาดูดีมากจริงๆ คาแรคเตอร์พระเอกนี้มาถูกทางแล้ว การฝึกเอย การลงสนามจริงเอย ฉากแอ๊คชั่นต่อยเตะยิงกันนี้มาเต็ม แต่ครึ่งหลังนี้ บรรลัยเลย โคตรน่าเสียดาย
โดยรวมๆมันไม่ใช่หนังที่จะเรียกว่าห่วยแตกอะไรนะ มันยังให้ความบันเทิงได้ ดูเอาสนุก เอามันนี้ได้อย่างสบายๆจนจบอ่ะ เพียงแค่รู้สึกว่ามันยังไม่สุด มันน่าจะทำได้ดีกว่านี้อีกเยอะด้วยซ้ำไป ไม่งั้นมันจะกลายเป็นหนังสายลับระดับขึ้นหิ้งได้อีกเรื่องเลยด้วย
ปล. ไมเคิล คีตั้น อ่านบทแค่ครึ่งแรกป่าววะเนี่ย ฮ่าๆ