คือเรายังเป็นนักศึกษาอยู่ เราหาเงินเพิ่มจากที่คุณพ่อคุณแม่ให้มาได้ เดือนล่ะ 12000 รวมกับของคัณแม่อีก 11000 เป็น 23000 แน่นอนว่าพอคิดเป็นเงินก้อนกลมๆ แล้ว มันดูเยอะมากนะ สำหรับนักศึกษา. ปกติเรามีเงินเก็บ แต่พอเรามีแฟนคนนี้เข้ามา แรกๆ เลี้ยงเราทุกอย่าง ซื้อของให้. แต่เราก็แอบตอบแทนกลับดลี้ยงข้าวกลับบ้าง เพราะเราก็ไม่สบายใจที่แฟนมาเลี้ยงเราฝ่ายเดียว แต่มาหลัง ๆ. แฟนเรามีความจำเป็น(แต่เราไม่คิดว่าจำเป็น) เยอะมาก เช่น แฟนอยากเลิกบุหรี่ซึ่งเราเห็นด้วยมากๆ แต่ขอซื้อเป็นบุหรี่ไฟฟ้าแทน ไม่อยากหักดิบ เลยยืมเงินเรา 4000 ไปซื้อบุหรี่ไฟฟ้า จนทุกวันนี้ยังไม่คืน. แค่ค่าอุปกรณ์ ค่าน้ำยาในปต่ล่ะเดือนก็บานเบอะแล้ว. ทั้งๆ ที่ตอนแรก มานั่งแจกแจงรายละเอียดมห้เราฟังว่าไม่เกิน 1000 บาทต่อเดือน. พอเอาเข้าจริง. ค่าน้ำยาบานเลยค่ะ. ใจดีด้วยเพื่อนขอก็ให้เป็นแบบนี้ตลอด ค่าสำลี ถุงนิดเดียว 170 บาท. ยังจะมีของอย่างอื่นที่อยากได้เต็มไปหมด. รองเท้า เสื้อผ้า. อุปกรณืกีฬา หมดไปแล้ว 5000. คือเราจะไม่บ่นไม่ว่าเลย. ถ้าบริหารจัดการเงินได้. แต่นี่มาขอเงินเราเพิ่ม ตลอด ญาติพี่น้องมาหาที เลี้ยงเหล้าเลี้ยงข้าว. ทั้งๆ ที่เปินเงินเรา เรื่องนี้เราค่อนข้างรับไม่ได้. แต่ล่ะเดือนที่หาเงอนพิเศษได้เป็นหมื่น. เราไม่เคยได้ของตอบแทนตัวเราเองบ้างเลย. หมดไปกับเค้า. ล่าสุดบอกอยากได้โทรศัพท์ใหม่. ขอยืมอีกแล้ว. แต่เราคงจะไม่ให้แล้วคราวนี้. ข้อดีของเค้าคือ ไม่นอกใจ ไว้ใจเรื่องนี้ได้. แต่เรื่องเงินนี่เราเริ่มรับไม่ไหวแล้ว. (เมื่อก่อนเคยใช้ชีวิตเป็นคุณหนุสบายๆ แต่เราขยันหาเงินนะ. แต่นี้มาถึงจุดถึงที่เงินเหลือติดกระเป๋า. 200. ตั้งแต่กลางเดิน. ทำให้ต้องหางานทำเพิ่ม ปล.เราเป็นติวเตอร์
มีแฟนใช้เงินเก่งควรทำยังไงดีคะ?