ฟุตบอลนั้นเป็นกีฬาที่ต้องเล่นเป็นทีมและต้องมีน้ำใจนักกีฬา ลักษณะการเล่นฟุตบอลของแต่ละคนนั้นก็จะมีลูกเล่นที่แตกต่างกันไปมันขึ้นอยู่กับปัจจัยในหลาย ๆ ประเด็น ทั้งในเรื่องของบุคลิกส่วนตัว, ลักษณะนิสัย, ตำแหน่งในการเล่น, อารมณ์ร่วมระหว่างเกม และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะถูกแสดงออกมาเมื่อพวกเขาลงไปสู่สนาม นักเตะเหล่านี้คือนักเตะที่มีสไตล์การเล่นแบบบู๊ล้างผลาญ เล่นชนิดที่ว่าไม่สนใจไม่กลัวว่าฝ่ายตรงข้ามจะเจ็บหรืออะไรทั้งสิ้น ขอเพียงแค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดถือว่าเป็นงานที่พวกเขาพึงพอใจ ส่วนใหญ่แล้วนักเตะสไตล์นี้ที่เล่นโหดในเกมไม่ได้เล่นนอกเกมมักจะเป็นนักเตะในตำแหน่งแนวรับ ส่วนมากก็จะเป็นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับหรือมิดฟิลด์ตัวตัดเกม
รอยคีน ทุกคนคงนึกได้ถึงความดุ ดิบเถื่อน ชนิดที่เหล่าบรรดานักเตะหลาย ๆ คนที่เคยปะทะกับเขาต้องเบรกตัวเองถ้าหากว่าไม่อยากโดนเสียบชนิดถอนรากถอนโคน ด้วยลักษณะนิสัยของอดีตมิดฟิลด์ตัวรับทีมชาติไอซ์แลนด์และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาคือนักเตะที่พร้อมจะเผชิญกับทุกสถานการณ์หากรู้สึกว่าตัวเองหรือทีมเสียเปรียบ ไม่ว่าจะเป็นในหรือนอกสนามเขายินดีที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้รับสิ่งที่ดีที่สุดกลับมา ขนาดที่ว่าเพื่อนร่วมทีมเองบางคนยังรู้สึกขาสั่นเวลาที่เขาสวมปลอกแขนกัปตันทีมเดินลงสู่สนามนับเป็นต้นตำรับดาวเตะสถาบันพันธุ์โหดอย่างแท้จริง
เจนนาโร่ กัตตูโซ่ ดาวเตะสไตล์บู๊ล้างผลาญสาดเลือดชาวอิตาเลียนรายนี้จัดว่าเป็นดาวเตะที่อยู่ในหลักสูตรสถาบันพันธุ์โหดเช่นเดียวกัน หากสังเกตให้ดีสไตล์การเล่นของเขาค่อนข้างที่จะแตกต่างกับดาวเตะสายพันธุ์อิตาลีทั่ว ๆ ไป เพราะหากเป็นนักเตะอิตาลีที่เล่นเกมรับมักจะมีการเข้าบอลที่สวยงาม ไม่ดุดันมากนัก แต่สำหรับอดีตดาวเตะของ ‘เอซี มิลาน’ รายนี้ จัดว่าเป็นนักเตะตัวตัดเกมที่ครั้งหนึ่งเคยขึ้นชื่อว่าดิบที่สุดในโลกเหมือนกัน เขาพร้อมจะเข้าบอลในจังหวะ 50 50 แบบไม่เกรงกลัวใครทั้งสิ้น อีกทั้งหน้าตา หนวดเครายังส่งให้เจ้าตัวดูดุดันเพิ่มขึ้นไปอีก
โจอี้ บาร์ตัน จริง ๆ แล้วสำหรับดาวเตะเลือดผู้ดีรายนี้อาจจะบอกว่าการได้รับตำแหน่งนักเตะสถาบันพันธุ์โหดไม่ได้เป็นไปในเส้นทางการเล่นในสนามมากนัก หากพูดถึงฝีเท้าในการเล่นสมัยที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงขึ้นมาเขาจัดเป็นดาวเตะความหวังใหม่ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับของทีมชาติอังกฤษเลยก็ว่าได้ ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ เขากลับกลายเป็นนักเลงมากกว่านักบอล บ่อยครั้งที่เขาเข้าบอลแรงเกินความจำเป็นเพื่อต้องการทำร้ายร่างกายเพื่อนนักเตะด้วยกัน รวมไปถึงมักเป็นนักเตะที่มีปัญหาในเรื่องของชีวิตส่วนตัว ทั้งการไปทำร้ายร่างกาย การเบี้ยวซ้อม การลงสนามแล้วเกิดไม่พอใจใครก็พร้อมที่จะหาเรื่องได้ทุกวินาที ทำให้ชีวิตการค้าแข้งของเขาดูไม่ค่อยประสบความสำเร็จจนเคยมีเรื่องราวถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลกันบ่อย ๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับอนาคตและความสามารถของเขาเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ท้ายที่สุดแล้ว ฟุตบอลไม่ได้ต้องการแค่ชัยชนะเสมอไป สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือน้ำใจนักกีฬา การให้อภัยกัน ฟุตบอลมันจะมีสเน่ห์ตรงนี้ ถ้าฟุตบอลนึกถึงแต่การเอาชนะอย่างเดียวโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นอย่างไร มันก็จะเป็นแค่ชัยชนะที่ไม่น่าจดจำ ถ้าเรามองว่ามันเป็นเกมส์ที่ต้องมีน้ำใจนักกีฬานึกถึงคนอื่นอยู่ตลอดเวลาเล่นตามเกมส์ มันก็จะเป็นเกมส์ที่น่าจดจำ
แหล่งข้อมูล :
http://rickspressroom.net/%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B0-5-%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B9%8C%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2/
นักเตะเลือดร้อน
รอยคีน ทุกคนคงนึกได้ถึงความดุ ดิบเถื่อน ชนิดที่เหล่าบรรดานักเตะหลาย ๆ คนที่เคยปะทะกับเขาต้องเบรกตัวเองถ้าหากว่าไม่อยากโดนเสียบชนิดถอนรากถอนโคน ด้วยลักษณะนิสัยของอดีตมิดฟิลด์ตัวรับทีมชาติไอซ์แลนด์และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาคือนักเตะที่พร้อมจะเผชิญกับทุกสถานการณ์หากรู้สึกว่าตัวเองหรือทีมเสียเปรียบ ไม่ว่าจะเป็นในหรือนอกสนามเขายินดีที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้รับสิ่งที่ดีที่สุดกลับมา ขนาดที่ว่าเพื่อนร่วมทีมเองบางคนยังรู้สึกขาสั่นเวลาที่เขาสวมปลอกแขนกัปตันทีมเดินลงสู่สนามนับเป็นต้นตำรับดาวเตะสถาบันพันธุ์โหดอย่างแท้จริง
เจนนาโร่ กัตตูโซ่ ดาวเตะสไตล์บู๊ล้างผลาญสาดเลือดชาวอิตาเลียนรายนี้จัดว่าเป็นดาวเตะที่อยู่ในหลักสูตรสถาบันพันธุ์โหดเช่นเดียวกัน หากสังเกตให้ดีสไตล์การเล่นของเขาค่อนข้างที่จะแตกต่างกับดาวเตะสายพันธุ์อิตาลีทั่ว ๆ ไป เพราะหากเป็นนักเตะอิตาลีที่เล่นเกมรับมักจะมีการเข้าบอลที่สวยงาม ไม่ดุดันมากนัก แต่สำหรับอดีตดาวเตะของ ‘เอซี มิลาน’ รายนี้ จัดว่าเป็นนักเตะตัวตัดเกมที่ครั้งหนึ่งเคยขึ้นชื่อว่าดิบที่สุดในโลกเหมือนกัน เขาพร้อมจะเข้าบอลในจังหวะ 50 50 แบบไม่เกรงกลัวใครทั้งสิ้น อีกทั้งหน้าตา หนวดเครายังส่งให้เจ้าตัวดูดุดันเพิ่มขึ้นไปอีก
โจอี้ บาร์ตัน จริง ๆ แล้วสำหรับดาวเตะเลือดผู้ดีรายนี้อาจจะบอกว่าการได้รับตำแหน่งนักเตะสถาบันพันธุ์โหดไม่ได้เป็นไปในเส้นทางการเล่นในสนามมากนัก หากพูดถึงฝีเท้าในการเล่นสมัยที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงขึ้นมาเขาจัดเป็นดาวเตะความหวังใหม่ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับของทีมชาติอังกฤษเลยก็ว่าได้ ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ เขากลับกลายเป็นนักเลงมากกว่านักบอล บ่อยครั้งที่เขาเข้าบอลแรงเกินความจำเป็นเพื่อต้องการทำร้ายร่างกายเพื่อนนักเตะด้วยกัน รวมไปถึงมักเป็นนักเตะที่มีปัญหาในเรื่องของชีวิตส่วนตัว ทั้งการไปทำร้ายร่างกาย การเบี้ยวซ้อม การลงสนามแล้วเกิดไม่พอใจใครก็พร้อมที่จะหาเรื่องได้ทุกวินาที ทำให้ชีวิตการค้าแข้งของเขาดูไม่ค่อยประสบความสำเร็จจนเคยมีเรื่องราวถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลกันบ่อย ๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับอนาคตและความสามารถของเขาเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ท้ายที่สุดแล้ว ฟุตบอลไม่ได้ต้องการแค่ชัยชนะเสมอไป สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือน้ำใจนักกีฬา การให้อภัยกัน ฟุตบอลมันจะมีสเน่ห์ตรงนี้ ถ้าฟุตบอลนึกถึงแต่การเอาชนะอย่างเดียวโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นอย่างไร มันก็จะเป็นแค่ชัยชนะที่ไม่น่าจดจำ ถ้าเรามองว่ามันเป็นเกมส์ที่ต้องมีน้ำใจนักกีฬานึกถึงคนอื่นอยู่ตลอดเวลาเล่นตามเกมส์ มันก็จะเป็นเกมส์ที่น่าจดจำ
แหล่งข้อมูล :
http://rickspressroom.net/%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B0-5-%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B9%8C%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2/