ก่อนอื่นขอฝากเพจรีวิวเก่าๆก่อนครับ
เพจ :
https://www.facebook.com/myhubbyandi/
Ep.1 Bromo & Ijen งบ 12,xxx บาท :
https://ppantip.com/topic/36635529
Ep.2 Maldives งบ 16,xxx บาท :
https://ppantip.com/topic/36693015
Ep.3 Singapore งบ 7,xxx :
https://ppantip.com/profile/3933477
Ep. 4 Tokyo-Kawaguchiko งบ 16,xxx :
https://ppantip.com/topic/36869310
Ep. พิเศษ King Power Lounge @ Donmueang Int’l Airport :
https://ppantip.com/topic/36773157
สวัสดีครับ เมื่ออาทิตย์ก่อนผมมีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้งเป็นครั้งที่สิบพอดิบพอดี ต้องบอกก่อนว่าปกติแฟนผมจะเป็นคนมาเขียนบรรยายเล่าเรื่องราวหรือรีวิวที่เที่ยวที่กินนั่นนี่ แต่ครั้งนี้นางไม่ได้มาด้วย แล้วก็งอนผมไปแล้วด้วย จึงต้องหาช่องทางการติดต่อกับนางไว้ตลอดเป็นการเอาใจ 5555
ด้วยที่ว่าส่วนตัวเคยใช้ sim2fly ของ AIS ที่ฟิลิปปินส์มาครั้งนึงแต่ตอนนั้นเน็ตช้ามาก โหลดเฟสทีเป็นนาที เวลาไปทริปต่อๆมาเลยไม่ได้ใช้ sim2fly อีกเลย แต่ไม่แน่ว่าตอนนี้อาจจะเร็วขึ้นแล้วก็ได้ (อันนี้ใครรู้ช่วยมาบอกทีนะครับ)
มาญี่ปุ่นทุกทีผมก็ใช้ pocket wifi ของเจ้านี้ทุกทีเพราะเห็นว่ามันคุ้มสุดในด้านราคาและคุณภาพ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเพื่อนๆมาถามผมอยู่ว่าไปเที่ยวญี่ปุ่นจะใช้ wifi หรือ ซิมของอะไรดี วันนี้เลยจะมารีวิว Samurai Wifi ในด้านผู้ใช้งานให้ฟัง โดย Pocket Wifi ที่ใช้จะเป็นรุ่น SANTOURYU ครับ
เริ่มต้นจากเข้าไปหน้าเว็บ
http://www.bs-mobile.jp/th/ เพื่อสมัครการใช้บริการเลยครับ ผมเคยสมัครแบบกะทันหันที่สุดคือ 2วันก่อนการเดินทางซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ โดยเข้าไปกรอกข้อมูลที่กำหนดในเว็บไซทแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ email มาคอนเฟิมอีกที ส่วนวันรับของก็จะมีเจ้าหน้าที่ประจำบูธของ Samurai Wifi โทรคอนเฟิมให้มารับอีกทีครับ
ครั้งนี้ผมใช้ pocket wifi รุ่น SANTOURYU ครับ ราคาก็ 280บาทต่อวัน สำหรับ 7วันแรก และ 100บาทต่อวันถัดไป ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเคยใช้รุ่นที่ถูกกว่านี้แต่ตอนนี้ไม่เห็นอยู่ในเว็บแล้ว แต่เอาเข้าจริงผมเองไม่เคยจ่ายราคาเต็มเลยนะ เพราะจะมีโปรออกมาเรื่อยๆ (ตอนนี้จะมีโปรกับทาง Air Asia และก่อนหน้านี้กับ King Power) ซึ่งผมจ่ายค่าเช่าไปตกวันละ 100 นิดๆเองครับ คุ้มมากๆๆ
อย่างที่บอกไปแล้วว่าวันเดินทางจะมีพนักงานโทรมาคอนเฟิมและแจ้งจุดรับเครื่องอีกทีซึ่งจะเป็นบูธสองที่ ชั้น 4 ประตู 7 และชั้น B ทางออกไป Airport Link สำหรับสนามบินสุวรรภูมิ และบูธ Dtac ประตู 6 สำหรับสนามบินดอนเมือง
ตอนมารับของ พนักงานก็จะให้เช็คของซึ่งจะมีตัว pocket wifi,กระเป๋า, สายและแท่นช้าต ให้พร้อมทั้งสอนวิธีใช้งานซึ่งง่ายขนาดลูกเพื่อนผมเพิ่งเข้า ป1 ยังใช้เป็น
วิธีการใช้งานง่ายมากครับ แค่เปิดเครื่องเมื่อถึงประเทศปลายทาง แล้วหาชื่อ SSID ตามด้านหลังของเครื่อง และใส่รหัสเข้าไป เหมือนต่อ wifi บ้านเนี่ยแหล่ะครับ เป็นอันเล่นได้
มาดูส่วนของตัวเครื่องรุ่น SANTOURYU กันบ้างครับ ในด้านขนาดความกว้างยาวสูงนั้นผมไม่ได้วัดมานะ แต่เอาเป็นว่า กว้างประมาณหน้าบัตรเครดิต และสูงประมาณ 1cm ครับ ซึ่งสำหรับผม ถือว่าพกพาสะดวกพอได้ ขนาดเวลาไปวิ่งที่สวนอุเอโนะตอนเช้าก็พกไปด้วยครับ
ด้านบนของตัวเครื่องจะเป็นสวิตเปิด-ปิด และปุ่มล๊อค เวลาจะปลดล๊อคก็กดที่ปุ่มด้านบนหนึ่งที และก็มาแตะที่รูปล๊อคที่หน้าจออีกที ถึงจะเข้าไปที่หน้า home ของเครื่องได้ครับ ส่วนด้านล่างจะเป็นที่เสียบสายช้าตแบต ซึ่งก็ช้าตผ่าน power bank ด้สบายไม่มีปัญหาครับ
ด้านหน้า home ของเครื่องที่จริงไม่มีอะไรมากหรอกครับ ผมดูแค่ wifi เปิด อยู่รึเปล่า, data usage ว่าใช้งานอินเตอร์เน็ตไปเท่าไหร่แล้ว, และ connecting device ว่าตอนนี้มีคนต่ออยู่กี่คน ซึ่งรุ่นนี้ต่อได้สูงสุดถึง 14 ครับ(ถ้าจำไม่ผิดรุ่นเก่าแค่ 4คน เอง), และสุดท้ายที่สำคัญที่สุดคือ battery status ครับว่าเหลืออีกกี่ % และยังใช้ได้อีกเท่าไหร่ ซึ่งในเว็บเค้าเครมไว้ที่ 5ชม แต่เอาเข้าจริงผมเปิดตั้งแต่ 6โมงเช้า ถึง 4โมงเย็น ยังเหลือแบตอีกประมาณ 20%
Data Usage ซึ่งจะบอกว่าใช้งานอินเตอรเน็ตไปเท่าไหร่แล้ว
Connected devices จะบอกว่าตอนนี้เราใช้ต่ออยู่กี่เครื่อง
สุดท้ายเรามาดูเรื่องสัญญาณกันบ้างครับ ทางเว็บเครมไว้ว่าสามารถปล่อยสัญญาณ 4GLTE (ความเร็วสูงสุด 187.5mbps) ใช้งานได้ไม่จำกัด แต่ตอนที่ใช้งานจริงแล้วยังไงก็ใช้ไม่ถึง 187mbps อยู่แล้วครับ โดยความเร็วที่ผมจับได้จะแบ่งเป็นโซนตามนี้
แถวสถานนีคาวากุชิโกะ Download 20.75 Mbps, Upload 22.83 Mbps
แถวทะเลสาบคาวากุชิโกะ Download 24.55 Mbps, Upload 23.73 Mbps
มาต่อกันในโตเกียวกันบ้างครับ
แถวสถานีชิจุกุ Download 13.79 Mbps, Upload 4.82 Mbps
แถวที่พักย่านอุเอโนะ Download 22.14 Mbps, Upload 5.33 Mbps
แถววัดอาซากุซะ Download 12.16 Mbps, Upload 5.12 Mbps
ในรถไฟใต้ดินสถานนีโตเกียว Download 11.75 Mbps, Upload 5.59 Mbps
จะสังเกตุได้ว่าพออยู่ในเมืองโดยเฉพาะเขตชุมชน สัญญาณก็จะดรอปลงไปหน่อยนึง อาจจะเป็นเพราะคนแย่งกันใช้สัญญาณรึเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ แต่ส่วนตัวผมคิดว่าสัญญาณแค่นี้ก็เกินพอละครับที่จะเล่นเฟส, อัพรูป, คุย video call แบบไม่สะดุด
ตอนกลับก็แวะคืน wifi ที่บูธที่ไปเอามาได้เลยครับ บูธจะเปิดตลอด 24ชม พนักงานจะเช็คของแล้วก็ให้เซ็นชื่อรับของคืน ส่วนคนที่รีบกลับบ้านจนลืมคืนก็ไม่เป็นไรนะครับ เพราะผมก็เคยเป็นมาเหมือนกัน 5555 โดยทางร้านจะให้เราส่ง ems กลับไปที่สำนักงานใหญ่โดยไม่มีค่าปรับถ้าส่งคืนภายใน 1 วัน แต่ถ้าคืนช้ากว่านั้นก็อาจจะโดนปรับนะครับ
ผมขอจบรีวิวเพียงแค่นี้ หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำครับคนที่กำลังตัดสินใจนะครับ
[CR] Mini Review: Pocket wifi, Samurai Wifi ที่ญี่ปุ่น
ก่อนอื่นขอฝากเพจรีวิวเก่าๆก่อนครับ
เพจ : https://www.facebook.com/myhubbyandi/
Ep.1 Bromo & Ijen งบ 12,xxx บาท : https://ppantip.com/topic/36635529
Ep.2 Maldives งบ 16,xxx บาท : https://ppantip.com/topic/36693015
Ep.3 Singapore งบ 7,xxx : https://ppantip.com/profile/3933477
Ep. 4 Tokyo-Kawaguchiko งบ 16,xxx : https://ppantip.com/topic/36869310
Ep. พิเศษ King Power Lounge @ Donmueang Int’l Airport : https://ppantip.com/topic/36773157
สวัสดีครับ เมื่ออาทิตย์ก่อนผมมีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้งเป็นครั้งที่สิบพอดิบพอดี ต้องบอกก่อนว่าปกติแฟนผมจะเป็นคนมาเขียนบรรยายเล่าเรื่องราวหรือรีวิวที่เที่ยวที่กินนั่นนี่ แต่ครั้งนี้นางไม่ได้มาด้วย แล้วก็งอนผมไปแล้วด้วย จึงต้องหาช่องทางการติดต่อกับนางไว้ตลอดเป็นการเอาใจ 5555
ด้วยที่ว่าส่วนตัวเคยใช้ sim2fly ของ AIS ที่ฟิลิปปินส์มาครั้งนึงแต่ตอนนั้นเน็ตช้ามาก โหลดเฟสทีเป็นนาที เวลาไปทริปต่อๆมาเลยไม่ได้ใช้ sim2fly อีกเลย แต่ไม่แน่ว่าตอนนี้อาจจะเร็วขึ้นแล้วก็ได้ (อันนี้ใครรู้ช่วยมาบอกทีนะครับ)
มาญี่ปุ่นทุกทีผมก็ใช้ pocket wifi ของเจ้านี้ทุกทีเพราะเห็นว่ามันคุ้มสุดในด้านราคาและคุณภาพ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเพื่อนๆมาถามผมอยู่ว่าไปเที่ยวญี่ปุ่นจะใช้ wifi หรือ ซิมของอะไรดี วันนี้เลยจะมารีวิว Samurai Wifi ในด้านผู้ใช้งานให้ฟัง โดย Pocket Wifi ที่ใช้จะเป็นรุ่น SANTOURYU ครับ
เริ่มต้นจากเข้าไปหน้าเว็บ http://www.bs-mobile.jp/th/ เพื่อสมัครการใช้บริการเลยครับ ผมเคยสมัครแบบกะทันหันที่สุดคือ 2วันก่อนการเดินทางซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ โดยเข้าไปกรอกข้อมูลที่กำหนดในเว็บไซทแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ email มาคอนเฟิมอีกที ส่วนวันรับของก็จะมีเจ้าหน้าที่ประจำบูธของ Samurai Wifi โทรคอนเฟิมให้มารับอีกทีครับ
ครั้งนี้ผมใช้ pocket wifi รุ่น SANTOURYU ครับ ราคาก็ 280บาทต่อวัน สำหรับ 7วันแรก และ 100บาทต่อวันถัดไป ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเคยใช้รุ่นที่ถูกกว่านี้แต่ตอนนี้ไม่เห็นอยู่ในเว็บแล้ว แต่เอาเข้าจริงผมเองไม่เคยจ่ายราคาเต็มเลยนะ เพราะจะมีโปรออกมาเรื่อยๆ (ตอนนี้จะมีโปรกับทาง Air Asia และก่อนหน้านี้กับ King Power) ซึ่งผมจ่ายค่าเช่าไปตกวันละ 100 นิดๆเองครับ คุ้มมากๆๆ
อย่างที่บอกไปแล้วว่าวันเดินทางจะมีพนักงานโทรมาคอนเฟิมและแจ้งจุดรับเครื่องอีกทีซึ่งจะเป็นบูธสองที่ ชั้น 4 ประตู 7 และชั้น B ทางออกไป Airport Link สำหรับสนามบินสุวรรภูมิ และบูธ Dtac ประตู 6 สำหรับสนามบินดอนเมือง
ตอนมารับของ พนักงานก็จะให้เช็คของซึ่งจะมีตัว pocket wifi,กระเป๋า, สายและแท่นช้าต ให้พร้อมทั้งสอนวิธีใช้งานซึ่งง่ายขนาดลูกเพื่อนผมเพิ่งเข้า ป1 ยังใช้เป็น
วิธีการใช้งานง่ายมากครับ แค่เปิดเครื่องเมื่อถึงประเทศปลายทาง แล้วหาชื่อ SSID ตามด้านหลังของเครื่อง และใส่รหัสเข้าไป เหมือนต่อ wifi บ้านเนี่ยแหล่ะครับ เป็นอันเล่นได้
มาดูส่วนของตัวเครื่องรุ่น SANTOURYU กันบ้างครับ ในด้านขนาดความกว้างยาวสูงนั้นผมไม่ได้วัดมานะ แต่เอาเป็นว่า กว้างประมาณหน้าบัตรเครดิต และสูงประมาณ 1cm ครับ ซึ่งสำหรับผม ถือว่าพกพาสะดวกพอได้ ขนาดเวลาไปวิ่งที่สวนอุเอโนะตอนเช้าก็พกไปด้วยครับ
ด้านบนของตัวเครื่องจะเป็นสวิตเปิด-ปิด และปุ่มล๊อค เวลาจะปลดล๊อคก็กดที่ปุ่มด้านบนหนึ่งที และก็มาแตะที่รูปล๊อคที่หน้าจออีกที ถึงจะเข้าไปที่หน้า home ของเครื่องได้ครับ ส่วนด้านล่างจะเป็นที่เสียบสายช้าตแบต ซึ่งก็ช้าตผ่าน power bank ด้สบายไม่มีปัญหาครับ
ด้านหน้า home ของเครื่องที่จริงไม่มีอะไรมากหรอกครับ ผมดูแค่ wifi เปิด อยู่รึเปล่า, data usage ว่าใช้งานอินเตอร์เน็ตไปเท่าไหร่แล้ว, และ connecting device ว่าตอนนี้มีคนต่ออยู่กี่คน ซึ่งรุ่นนี้ต่อได้สูงสุดถึง 14 ครับ(ถ้าจำไม่ผิดรุ่นเก่าแค่ 4คน เอง), และสุดท้ายที่สำคัญที่สุดคือ battery status ครับว่าเหลืออีกกี่ % และยังใช้ได้อีกเท่าไหร่ ซึ่งในเว็บเค้าเครมไว้ที่ 5ชม แต่เอาเข้าจริงผมเปิดตั้งแต่ 6โมงเช้า ถึง 4โมงเย็น ยังเหลือแบตอีกประมาณ 20%
Data Usage ซึ่งจะบอกว่าใช้งานอินเตอรเน็ตไปเท่าไหร่แล้ว
Connected devices จะบอกว่าตอนนี้เราใช้ต่ออยู่กี่เครื่อง
สุดท้ายเรามาดูเรื่องสัญญาณกันบ้างครับ ทางเว็บเครมไว้ว่าสามารถปล่อยสัญญาณ 4GLTE (ความเร็วสูงสุด 187.5mbps) ใช้งานได้ไม่จำกัด แต่ตอนที่ใช้งานจริงแล้วยังไงก็ใช้ไม่ถึง 187mbps อยู่แล้วครับ โดยความเร็วที่ผมจับได้จะแบ่งเป็นโซนตามนี้
แถวสถานนีคาวากุชิโกะ Download 20.75 Mbps, Upload 22.83 Mbps
แถวทะเลสาบคาวากุชิโกะ Download 24.55 Mbps, Upload 23.73 Mbps
มาต่อกันในโตเกียวกันบ้างครับ
แถวสถานีชิจุกุ Download 13.79 Mbps, Upload 4.82 Mbps
แถวที่พักย่านอุเอโนะ Download 22.14 Mbps, Upload 5.33 Mbps
แถววัดอาซากุซะ Download 12.16 Mbps, Upload 5.12 Mbps
ในรถไฟใต้ดินสถานนีโตเกียว Download 11.75 Mbps, Upload 5.59 Mbps
จะสังเกตุได้ว่าพออยู่ในเมืองโดยเฉพาะเขตชุมชน สัญญาณก็จะดรอปลงไปหน่อยนึง อาจจะเป็นเพราะคนแย่งกันใช้สัญญาณรึเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ แต่ส่วนตัวผมคิดว่าสัญญาณแค่นี้ก็เกินพอละครับที่จะเล่นเฟส, อัพรูป, คุย video call แบบไม่สะดุด
ตอนกลับก็แวะคืน wifi ที่บูธที่ไปเอามาได้เลยครับ บูธจะเปิดตลอด 24ชม พนักงานจะเช็คของแล้วก็ให้เซ็นชื่อรับของคืน ส่วนคนที่รีบกลับบ้านจนลืมคืนก็ไม่เป็นไรนะครับ เพราะผมก็เคยเป็นมาเหมือนกัน 5555 โดยทางร้านจะให้เราส่ง ems กลับไปที่สำนักงานใหญ่โดยไม่มีค่าปรับถ้าส่งคืนภายใน 1 วัน แต่ถ้าคืนช้ากว่านั้นก็อาจจะโดนปรับนะครับ
ผมขอจบรีวิวเพียงแค่นี้ หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำครับคนที่กำลังตัดสินใจนะครับ