ด้วยส่วนตัวผมรู้จักและคุ้นเคยกับ สวนภูดินพรรณไม้ ซึ่งอยู่ที่ ตำบลทาทุงหลวง อ. แม่ทา จังหวัดลำพูนมาเกือบ 30 ปีแล้วก็คือเริ่มต้นมาด้วยกันกับชีวิตการทำงานของผมในวงการ Air Cargo ไปมาหาสู่ในฐานะผู้ให้บริการ กับผู้ใช้บริการมาตลอด
และก็เห็นการเปลี่ยนของกันและกันมาตลอดเช่นกัน หลังๆมีความเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างในชีวิตผมก็เลยทำให้การติดต่อกันในฐานะคู่ค้าห่างหายกันไป แต่ก็ยังไม่ได้ขาดหายไปในฐานะคนที่รู้จักการมานาน
และการปั่นจักรยานไปเที่ยวที่สวนแห่งนี้ก็เคยทำมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน และหลังๆด้วยที่มีภารกิจมากมายรัดตัวการใช้เวลานานๆ นั้นไม่ค่อยอำนวยเลยไม่ได้ไป เยี่ยมเยือนสวนแห่งนี้ ซึ่งช่วงนี้ของทุกปีก็จะเป็นช่วงที่ ผลิตภัณฑ์หลักที่เป็นจุดเริ่มต้นของสวน คือ ดอกปทุมมา และกระเจียวสีต่างที่เขาปลูกเพื่อจะขาย หัวพันธุ์ไปต่างประเทศ ออกดอก ปกติก็จะมีคนไปชมอยู่เป็นประจำในลักษณะ ของเพื่อนฝูง ปากต่อปาก และด้วยกระแสของ Social Network ก็ยิ่งทำให้คนรู้จักมากขึ้น
ประมาณอาทิตย์ก่อนๆเห็นเขาโพสต์ ลงให้เฟสฯ ก็เลยได้คุยกันกับเจ้าของสวนเขาก็ชวนให้ไปชมเพราะว่าไม่ได้เจอกันนานแล้ว พอดีช่วงนี้ยังเป็นช่วงพักจากงานส่วนตัวอยู่ ก็เลยมีเวลาปั่นจักรยานมากหน่อยก็เลยรับปากเขาวาจะไปเยี่ยมชมด้วยการปั่นจักยานไป
ปกติที่ผ่านมาผมใช้เส้นทาง เชียงใหม่-ลำปาง แล้วเลี้ยวขวาตรงโรงพยาบาลแม่ทา เขาไปอีกประมาณ 10 กม. แต่เมื่อเปลี่ยนเส้นเพราะออกเช้าคือ ตี 5 ไม่อยากใช้เส้นทางดังกล่าว เพราะเช้าๆ รถเยอะ และขับเร็ว เลยใช่เส้น เชียงใหม่-ลำพูน สายเก่า(106) ผ่านตัวเมืองลำพูนแล้วไปตัดออกทางจะไปดอยติ แล้วไปเลี้ยวขวาทีทางไป ป่าซาง(116) ผ่าน นิดาเข้า ตัว อำเภอแม่ทาแล้วไปถึงสวน
แต่ปรากฏว่า ออกบ้านไปประมาณ ครึ่ง ชั่วโมงฝนเริ่มลงเม็ด และเป็นประเภท จะหนักก็ไม่หนัก จะหยุดก็ไม่หยุด ผมก็เลยตัดสินใจปั่นไปเรื่อยๆโดยไม่หยุด จนถึงเลยนิคมสหพัฒน์ ไปรู้สึกจักรยาน เป๋ๆ เลยจอดลงดู เป็นว่ายางอ่อนมาก เลยสูบยาง แล้วก็ไปต่อ ได้อีก ประมาณ 5 กม. เป๋อีกจอดสูบอีกรอบ ปั่นไปได้อีกประมาณ 3 กม.เป๋อีก ทีนี่ก็ค่อนข้างแน่ใจว่าคง แผลใหญ่แน่ ถอดล้อแกะยางเก่าออก เอาเส้นใหม่ใส่แทน กะว่าจะเอาเส้นเก่ามาปะที่บ้านแล้วเก็บไว้เป็นอะหลั่ย พอเช็คดูแล้ว เป็นว่า รั่วตรงจุกลม ปะต่อไม่ได้แน่เลยต้องทิ้งไป แล้วก็ปั่นต่อไปจนถึงสวนในเวลาประมาณ 08:30 น.ซึ่งถ้าไม่เสียเวลากับยางก็น่าจะถึงประมาณ 7 โมงไม่เกินครึ่ง
ใช่เวลา ชมสวน พูดคุย สนทนากันนานพอดู จนเกือบๆ 10 โมงก็เดินทางกลับโดยออกมาทางโรงพยาบาลแม่ทา แล้วใช้ถนน เชียงใหม่-ลำปาง มาตัดเข้าถนนเลียบทางรถไปตรง ดอยติ แวะกินก๋วยเตี๋ยวหมูตรง ข้างสถานีรถไฟ ลำพูนแล้วตรงดิ่งกลับบ้าน
ถึงบ้านประมาณ เที่ยงครึ่ง และก็น่าจะเป็นการปั่นจักรยานที่ มอมแมมที่สุด และยาวนานที่สุดในรอบปี คือ กว่า 7 ชั่วโมงครึ่ง.....
ทริปวันอาทิตย์ ธรรมดาๆ
และก็เห็นการเปลี่ยนของกันและกันมาตลอดเช่นกัน หลังๆมีความเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างในชีวิตผมก็เลยทำให้การติดต่อกันในฐานะคู่ค้าห่างหายกันไป แต่ก็ยังไม่ได้ขาดหายไปในฐานะคนที่รู้จักการมานาน
และการปั่นจักรยานไปเที่ยวที่สวนแห่งนี้ก็เคยทำมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน และหลังๆด้วยที่มีภารกิจมากมายรัดตัวการใช้เวลานานๆ นั้นไม่ค่อยอำนวยเลยไม่ได้ไป เยี่ยมเยือนสวนแห่งนี้ ซึ่งช่วงนี้ของทุกปีก็จะเป็นช่วงที่ ผลิตภัณฑ์หลักที่เป็นจุดเริ่มต้นของสวน คือ ดอกปทุมมา และกระเจียวสีต่างที่เขาปลูกเพื่อจะขาย หัวพันธุ์ไปต่างประเทศ ออกดอก ปกติก็จะมีคนไปชมอยู่เป็นประจำในลักษณะ ของเพื่อนฝูง ปากต่อปาก และด้วยกระแสของ Social Network ก็ยิ่งทำให้คนรู้จักมากขึ้น
ประมาณอาทิตย์ก่อนๆเห็นเขาโพสต์ ลงให้เฟสฯ ก็เลยได้คุยกันกับเจ้าของสวนเขาก็ชวนให้ไปชมเพราะว่าไม่ได้เจอกันนานแล้ว พอดีช่วงนี้ยังเป็นช่วงพักจากงานส่วนตัวอยู่ ก็เลยมีเวลาปั่นจักรยานมากหน่อยก็เลยรับปากเขาวาจะไปเยี่ยมชมด้วยการปั่นจักยานไป
ปกติที่ผ่านมาผมใช้เส้นทาง เชียงใหม่-ลำปาง แล้วเลี้ยวขวาตรงโรงพยาบาลแม่ทา เขาไปอีกประมาณ 10 กม. แต่เมื่อเปลี่ยนเส้นเพราะออกเช้าคือ ตี 5 ไม่อยากใช้เส้นทางดังกล่าว เพราะเช้าๆ รถเยอะ และขับเร็ว เลยใช่เส้น เชียงใหม่-ลำพูน สายเก่า(106) ผ่านตัวเมืองลำพูนแล้วไปตัดออกทางจะไปดอยติ แล้วไปเลี้ยวขวาทีทางไป ป่าซาง(116) ผ่าน นิดาเข้า ตัว อำเภอแม่ทาแล้วไปถึงสวน
แต่ปรากฏว่า ออกบ้านไปประมาณ ครึ่ง ชั่วโมงฝนเริ่มลงเม็ด และเป็นประเภท จะหนักก็ไม่หนัก จะหยุดก็ไม่หยุด ผมก็เลยตัดสินใจปั่นไปเรื่อยๆโดยไม่หยุด จนถึงเลยนิคมสหพัฒน์ ไปรู้สึกจักรยาน เป๋ๆ เลยจอดลงดู เป็นว่ายางอ่อนมาก เลยสูบยาง แล้วก็ไปต่อ ได้อีก ประมาณ 5 กม. เป๋อีกจอดสูบอีกรอบ ปั่นไปได้อีกประมาณ 3 กม.เป๋อีก ทีนี่ก็ค่อนข้างแน่ใจว่าคง แผลใหญ่แน่ ถอดล้อแกะยางเก่าออก เอาเส้นใหม่ใส่แทน กะว่าจะเอาเส้นเก่ามาปะที่บ้านแล้วเก็บไว้เป็นอะหลั่ย พอเช็คดูแล้ว เป็นว่า รั่วตรงจุกลม ปะต่อไม่ได้แน่เลยต้องทิ้งไป แล้วก็ปั่นต่อไปจนถึงสวนในเวลาประมาณ 08:30 น.ซึ่งถ้าไม่เสียเวลากับยางก็น่าจะถึงประมาณ 7 โมงไม่เกินครึ่ง
ใช่เวลา ชมสวน พูดคุย สนทนากันนานพอดู จนเกือบๆ 10 โมงก็เดินทางกลับโดยออกมาทางโรงพยาบาลแม่ทา แล้วใช้ถนน เชียงใหม่-ลำปาง มาตัดเข้าถนนเลียบทางรถไปตรง ดอยติ แวะกินก๋วยเตี๋ยวหมูตรง ข้างสถานีรถไฟ ลำพูนแล้วตรงดิ่งกลับบ้าน
ถึงบ้านประมาณ เที่ยงครึ่ง และก็น่าจะเป็นการปั่นจักรยานที่ มอมแมมที่สุด และยาวนานที่สุดในรอบปี คือ กว่า 7 ชั่วโมงครึ่ง.....