Summer Hokkaido + Tokyo สีสันฮอกไกโดหน้าร้อน

Summer Hokkaido + Tokyo !!!



ถ้าพูดถึงหน้าร้อนฮอกไกโด สิ่งที่คิดถึงอันดับแรกก็คงจะเป็นทุ่งดอกลาเวนเดอร์หรือไม่ก็เมลอนหวานๆ สดๆ จากฟาร์ม วันนี้เลยเอารูปรวมทริปฮอกไกโด โตเกียว ทั้งหมด 11 วัน 10 คืน เมื่อกลางเดือนกรกฎาคม 60 ที่ผ่านมานี้เองค่ะ



ตะลุยเดี่ยว เที่ยวตามแพลนบ้าง ไม่ตามบ้าง หลงๆ เหงาๆ แต่ไม่เศร้านะ เพราะได้เจอเพื่อนใหม่ระหว่างทางแทบทุกวันเลย ทริปนี้มันดีต่อใจมาก แต่ติดนิดเดียวคือที่โตเกียวร้อนโคตรๆๆๆๆ เหงื่อนี่แย่งกันออกทุกรูขุมขนจ้าาาา

วันที่ 1 : วันแรกก็หมดเวลากับการเดินทาง ต่อเครื่องต่อรถ กว่าจะถึงซัปโปโรจริงๆ ก็เย็นแล้ว แต่ก็ยังได้ไปเดินเล่นเก๋ๆ แถวซูซูกิโนะ ถนนทานูจิอยู่นะ






วันที่ 2 : อาจจะตื่นสายนิดหน่อย เพราะเมื่อวานเหนื่อยมาก (ข้ออ้างจริงๆ) กว่าจะได้ออกเดินทางไปโอตารุ ก็ครึ่งค่อนวันละ ฝนตกปรอยๆ อากาศนี่กำลังดีเชียวล่ะ ขากลับมานั่งเล่นสวนโอโดริท่ามกลางฝน เพราะคิดว่ามันจะตกไม่นาน นี่ก็กางร่มกลางสายฝนไปอี้กกกก อ่ะยังไม่พออยากกินข้าวแกงกะหรี่ที่เคยเห็นตอนนั่งรถผ่านปรากฎว่าต้องเดินกิโลกว่าๆ ถึงจะได้กิน 😂













วันที่ 3 : วันนี้ก็ตื่นสายอีกเช่นกัน ตื่นมาปุ้ป รีบอาบน้ำปั้ปเพราะเมื่อคืนไม่ได้อาบ อ่ะแฮ่ๆๆ  วันนี้ไปโนโบริเบ็ทสึ เมืองแห่งออนเซ็น ไปหุบเขานกรกตามรอยหนังดัง "แฟนเดย์" จนแทบมโนว่าตัวเองเป็นคุณนุ้ยไปซะงั้น

   





วันที่ 4 : ออกจากซัปโปโรไปฟุระโนะ ไปไม่ทันรถไฟวิ่งตรงฟุระโนะอีก เพราะมัวแต่นั่งคิดนอนคิดว่าจะไปรถไฟไหนดี สุดท้ายไปไม่ทัน แต่ก็ดีที่ได้แวะบิเอะก่อน ไปปั่นจักรยานชมทุ่งสีทอง สีเขียว แล้วค่อยรวดเข้าที่พักที่ฟุระโนะเลย  เวลาลงตัวพอดี๊พอดี  ขอบคุณที่ตื่นสาย ฮ่าๆๆๆ




  

วันที่ 5 : มีรถมาส่งที่สถานีรถไฟฟรี (Complimentary จาก Goryo guesthouse) วันนี้ที่รอคอยมาถึงแล้วค่ะ จะไปวิ่งเล่นท่ามกลางทุ่งลาเวนเดอร์ กินไอติมซอฟท์ครีมกับเมลอน














วันที่ 6 : ยังอยู่ที่ฟุราโนะ เพื่อนก็บอกอยู่ทำไมนานวะ เอาน่ะ กูชอบที่พักมันบ้านนอก อยู่ท่ามกลางป่าเขาดี วันนี้เลยเดินจากที่พักไป-กลับประมาณ 5 กิโล (โคตรไกลลลลล) เพื่อไปกินนมฮอกไกโดกับชีสฟุระโนะ 40 นาที เออดีเนาะกู รถฟรีไม่ไป อยากเดินออกกำลังขาไปอีกจ้าาาา








วันที่ 7 : วันนี้จะเดินทางไกลไปฮาโกดาเตะ ติดรถรูมเมทออกมาสถานีรถไฟ พอถึงสถานีก็เข้าไปให้พนักงานจองที่นั่งรถไฟไปซัปโปโร แล้วให้เค้าจองต่อจากซัปโปโรไปฮาโกดาเตะให้ด้วย แต่....พนักงานบอกว่าเมื่อคืนฝนตกหนัก รถไฟหยุดวิ่งวันนึง เอ้าาาา  นี่กูโดนรถไฟเทเหรอเนี่ยยย  แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้เมื่อมาถึงสถานีซัปโปโรเลยไปถามพนักงานใหม่อีกที ได้ความว่ามีจัดรถพิเศษให้แต่ต้องไปต่อรถบัสแล้วต่อรถไฟอีกต่อนึง เอากับเค้าสิ  ดีกว่าไม่ได้ไปแหละวะ ระหว่างรอก็เลยออกมาเดินเล่นที่ศาลเจ้าฮอกไกโด

การเดินทางวันนี้นานมากก ถึงฮาโกดาเตะประมาณ 2 ทุ่มพุ่นนนจ้า ถึงกระนั้นอิชั้นก็ยังกระโดดขึ้นรถเมลล์พร้อมกับแบกเป้ไปชมวิวบนเขาอีกนะ  เก็บทุกเม็ดค่ะ








วันที่ 8 : ตื่นเช้ามากกก (สงสัยปรับตัวได้ละ) มาเดินตลาดเช้าฮาโกดาเตะ ชิมซูชิซาชิมิสดๆ เจอหนุ่มๆ ญี่ปุ่น (แอบหล่อด้วยนะ) แซวด้วยนะแกกก  ชั้นก็เขินม้วนไปสิ เค้าบอกไอเลิฟยูววววว  แต่พี่เมาแล้วหนูรู้ โถ่วววว  ลืมถ่ายรูปเก็บไว้เลย วันนี้ยังอีกยาวไกล นั่งชินคันเซนมาลงอาโอโมริไปเสาะหาศิลปะบนทุ่งนาที่ฮิโรซากิ แล้วก็กลับมานั่งชินคันเซนไปโตเกียวอีก  หู้วววว  กว่าอีถึงโตเกียวก็สามทุ่มกว่าแน่ะ






  









วันที่ 9 : โตเกียวโคตรร้อนนนนน เหงื่อนี่มาเต็มอ่ะ จริงๆ โตเกียวนี่ไม่มีแพลนแค่มาตามเก็บตกจากครั้งที่แล้ว เช่นตลาดปลาสึกิจิ วัดเซนโซจิอีกรอบ จบท้ายยามเย็นชิบูย่า










วันที่ 10 : โตเกียวโคตรร้อนอีกวันนึง ไปพระราชวังอิมพีเรียลที่ไม่ค่อยมีอะไร แถมร้อนลมแทบจับ นั่งรถไฟโต๋เต๋ๆ ไปเรื่อยๆ คิดอยากลงสถานีไหนก็ลง ตั้งแต่ฮาราจุกุ ชินจุกุ และแวะมาช้อปปิ้งอีกรอบที่ชิบูย่า ได้ของมาพรึ่บบบบ ขากลับยังแวะไปอากิฮาบะระอีกนะ ไปหาร้านขายของเล่นผู้ใหญ่ หายังไงก็ไม่เจอ จนต้องให้เพื่อนช่วยหา แล้วส่งชื่อร้านมาให้ ณ จุดนี้ขำตัวเองมากกก  เดินเข้าร้านนี่ก็สะดุ้งเป็นพักๆ เพราะของมันชี้โด่ชี้เด่มากแก๊ กลับมาเกสเฮ้าส์ Toco ก็ไปลองเหล้าบ้วยซะหน่อย อร่อยมากก เขาให้ฟรีคืนละแก้วแต่เสียดายมาได้แค่คืนเดียว









วันที่ 11 : วันสุดท้ายละ ต้องไปนั่งรถไฟที่อูเอะโนะไปสนามบิน ด้วยความมีเวลาเหลือเลยฝากกระเป๋าแล้วแวะไปเดินแถวอะเมะโยโกะซะหน่อย มีเงินเหลือก็ไปถ่ายสติ้กเกอร์เล่นคนเดียว ทำไม่เป็นอีกจนต้องรบกวนน้องๆ แถวนั้นช่วย เห้อออ  แก่แล้วไม่เจียมมมน้อ แลกเหรียญหยอดตู้กาชาปองได้มาเกือบสิบลูกแน่ะ 😅



ส่งท้าย : ด้วยความที่เราซื้อตั๋วโปรโมชั่นของการบินไทยเลยต้องไปต่อรองที่เค้าน์เตอร์เช็คอินว่าขอเอากระเป๋าลงกรุงเทพได้ไหม แต่พนักงานบอกไม่ได้ค่าาาา ต้องทำตามกฎ เอาแล้วไงกู นี่ต้องตามไปเอากระเป๋าที่กัวลารึป่าววะ จะเอาขึ้นเครื่องก็ไม่ได้หนัก 15 โล แน่ะ งั้นก็ตามน้ำไปก่อนละกัน สรุปกระเป๋าเช็คทรูไปกัวลาพร้อมกับได้บอร์ดดิ้งพาสไปกัวลามาเสร็จสรรพ ตอนนั้นเริ่มหัวร้อนละ เป็นการนั่งกลับบ้านที่ไม่มีความสุขเลย มัวแต่คิดว่าจะเอากระเป๋าออกยังไงดีวะ สุดท้ายมาติดต่อที่กรุงเทพฯ ก็เอาออกได้ แต่ว่ารอนานหน่อยย เห้อโล่งไป จบทริปญี่ปุ่นหน้าฮ้อนกับความหัวร้อนนนนนตอนกลับเบาๆ  😅
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่