[CR] เที่ยวเชียงใหม่ #สายชิล [Review]

จริง ๆ เป็น SR นะคะ (แก้ไขชื่อเรื่องไม่ได้ มีความมึนงงในกระทู้แรก) ร้องไห้พาพันเศร้า



ทริปนี้มันก็จะชิลมากหน่อย เพราะขึ้นชื่อว่า #สายชิล มันคือโนแพลน แม้กระทั่งแผนล่วงหน้ายังไม่มี ว่างปุ๊บ เพื่อนชวนปั๊บ (หลอกล่อด้วย Voucher ที่พักฟรี 1 คืน) จะรออะไร เก็บกระเป๋า จองตั๋ว รู้ตัวอีกทีก็มายืนอยู่หน้าสนามบินเชียงใหม่



เชียงใหม่ฤดูฝน คือดีไปอีกแบบ เรามาถึงแต่เช้าอากาศไม่ร้อนมากนัก ฟ้ายังสวยแต่แอบมีมืดครึ้มอยู่ไกล ๆ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับสายชิลอย่างพวกเรา ชิลไปๆ วันนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะไปไหน ทำอะไร เพื่อนบอกแค่ว่าที่พักสะดวกดี อยู่ในห้าง เดี๋ยวหาจักรยานปั่นไปเที่ยวใกล้ ๆ แถวนั้น แต่ก่อนอื่นเราต้องเข้าที่พักก่อน "บ้านดินกี่" คือที่พักของเราในทริปนี้




การเดินทางไปบ้านดินกี่ก็ง่ายมาก เดินออกมาตรงประตูทางออกที่ 2 ก็เจอกับพี่ ๆ TAXI ใครสะดวก TAXI  Meter ก็สอบถามได้เลย เป็นราคาเหมา 150 บาท/คัน หรือจะเดินออกมาตรงประตูทางออกที่ 1 จะเจอพี่ ๆ AIRPORT  TAXI  LIMOUSINE
เป็นราคาเหมาเช่นกัน 160/คัน ถ้ามาเป็นกลุ่มก็คุ้มอยู่นะ แต่ถ้ามาไม่กี่คนแบบเราก็เดินเลยมาอีกนิดจะมี "รถแดง" วิ่งผ่านมา ต้องบอกก่อนว่าในสนามบินไม่มีคิวรถแดงนะคะ ใช้วิชาโบกอย่างเดียว ถือว่าได้สัมผัสวิถีเชียงใหม่ จัดไปคนละ 50 บาทค่ะ






รถแดงพาเราออกเดินทางจากสนามบินผ่านไปตามคูเมืองชั้นนอก สำหรับคนที่ไม่เคยมาเชียงใหม่อย่างเราเรียกว่าไม่อยากละสายตาจากวิวข้างนอกหน้าต่างรถแดงเลยทีเดียว ถึงแม้รถจะเยอะ แต่ความสวยงามของกำแพงเมือง ประตูเมือง ต้นไม้ ก็ทำให้เพลินมากทีเดียว







ลืมบอกไปค่ะมีทริคนิดนึง เพื่อนเราบอกว่ามีคนชอบหาทางเข้าบ้านดินกี่ไม่เจอ นางบอกว่าให้ย้ำกับคนขับรถให้ดีว่า เข้าทางหน้ากาดสวนแก้วเท่านั้น เพราะบางทีเขาจะให้ลงหน้าห้างแล้วให้เดินเข้าไปบ้างล่ะ หรือลงหน้าโรงแรมโลตัส ปางสวนแก้ว บ้างล่ะ ด้วยความที่ตึกเชื่อมต่อกันเลยเข้าได้หลายทาง แต่ถ้าเข้าทางอื่นความมึนงงจะมาทันที ต้องเข้าทางนี้เท่านั้นนะจ๊ะ ทางเราขอเตือน !!





ถึงแล้วหน้าบ้านดินกี่ เป็นตึกอิฐสวย ๆ แบบนี้ค่ะ








กดลิฟต์ขึ้นไปชั้น 4 เลยจ้าาาาา
ประตูลิฟท์เปิดออกมาเจอแบบนี้ คือมาถูกทางแล้ว เดินตรงไปก็เจอเคาน์เตอร์เช็คอิน มีพนักงานต้อนรับเป็นคนเหนือแต้ ๆ เจ้า น่าฮักขนาด





เราได้ห้องพัก ชั้น 5 ฝั่งดอยสุเทพ เพื่อนบอกโชคดีมาก วิวจะเทพแค่ไหนเดี๋ยวได้รู้กัน แต่ก่อนจะกดลิฟท์ขึ้น ชั้น 5 เพื่อนแนะนำให้เดินขึ้นบันได จ้าาาา ชิลไปมั้ย แต่ก็เดินตามเพื่อนไปติด ๆ โถงแต่ละชั้นจะมีการตกแต่งที่ไม่เหมือนกัน สวยไปคนละแบบ และแน่นอนว่าละมุนแบบล้านนา ต๊ะต่อนยอนมาก ๆ กดชัตเตอร์ไม่หยุดเลยทีนี้









และนี่คือห้องพักพร้อมวิวดอยสุเทพ วันนี้เมฆลอยลงมาคลุมดอยจนแทบมองไม่เห็น ซักพักฝนก็ปรอยลงมา ได้นั่งโง่ ๆ มองดอยไกล ๆ ชิลไปอีก




พอฝนหยุดตกก็ได้เวลาออกไปดูข้างนอกกัน จักรยานที่เห็นคือเป็นของเพื่อนของเพื่อนอีกที เค้าใจดีให้เรายืม ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าถ้าอยากหาเช่าจักรยานจะหาเช่าได้ที่ไหน แต่คิดว่าน่าจะมีค่ะ

ถนน ต้นไม้ ใบหญ้า ฉ่ำไปด้วยฝนที่เพิ่งหยุดตก อากาศเย็นสบาย เราพากันปั่นจักรยานไปเที่ยวใกล้ ๆ ดูบ้านดูเมือง ดูผู้คน และไปนั่งชิลร้านน่ารัก







ค่อย ๆ ปั่นมาบนถนนศิริมังคลาจารย์ แปป ๆ ยังไม่ทันจะเหนื่อยก็เจอกับร้านน่ารัก "ไอติมบ้านยาย" อยู่ศิริมังคลาจารย์ ซอย 3 มีไอติมโฮมเมด และเครื่องดื่มสมูธตี้เย็นชื่นใจ ทางเรานั้นรักไอติมกะทิสดใบเตยทานคู่กับวุ้นมะพร้าวน้ำหอม โรยดอกมะลิน้อย ๆ ห๊อมหอม




ปั่นเรื่อยเปื่อยไปบนถนนศิริมังคลาจารย์




ปั่นงง ๆ มาโผล่ถนนนิมมานเหมินท์ ใกล้แค่นี้เอง ถนนที่ได้ยินมาตลอดว่าเต็มไปด้วยร้านสวย ๆ งานไอเดีย และงานศิลปะ เราแวะ Gallery Seescape นิมมานเหมินท์ ซอย 17




ปั่นต่อไปบนถนนนิมมานฯ ขอแนะนำว่าอย่ามองร้านรวงจนเพลิน โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยมาอย่างเรามันจะยิ่งตื่นตาตื่นใจ อะไรก็แปลกตาไปหมด
แต่ถนนนิมมานฯ มีทั้งรถวิ่ง คนเดิน ต้องปั่นแบบระมัดระวังกันหน่อยนะ >>>> ปั่นมาถึงนิมมานฯ ซอย 5 นี่ไง ! "ไอศกรีม กดกริ่ง" ได้ยินมานานมันต้องลอง ร้านนี้เป็นไอติมโฮมเมดเช่นกัน กินไอติมแล้วกินอีกได้ไม่ใช่ปัญหา เพราะทางเรานอกจากสายชิล ยังเป็นสายกินด้วย กินกันไปยาว ๆ เราว่าน่าจะเปลี่ยนจากชื่อ "ไอศกรีม กดกริ่ง" เป็น "ไอศกรีม ซื่อสัตย์" น่าจะเหมาะกว่า เพราะจะกินไอติมร้านนี้ต้องซื่อสัตย์นะ หยิบเอง จ่ายตังเอง ทอนตังเอง เท่ห์ป่ะล่ะ







"ร้านเล่า" อยู่ต้นซอย 2 ถนนนิมมานฯ มีทั้งหนังสือน่าอ่าน งานทำมือ เราก็จะหายเข้าไปในร้านนี้นานหน่อย




เรากลับมาหามื้อเย็นกินใกล้ ๆ ที่พัก ทุกวัน พฤ. ศ. ส. จะมี "กาดซุ่มมืด" บริเวณหน้าห้างกาดสวนแก้ว ของกินเยอะ ราคาไม่แพง จัดกันไปเต็มคราบ คืนนี้หลับสบายยยยย




ตั้งใจไม่ตั้งนาฬิกาปลุก ตื่นเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะสะดุ้งตื่นเช้าขนาดนี้ >>> 7 โมง เราพร้อมลงไปกินอาหารเช้า กดลิฟท์ลงมาชั้น 1 จะเห็นป้ายบอกทางชัดเจน ปล. อาหารเช้าต้องจ่ายตังเพิ่มนะ สอบถามได้ที่เคาน์เตอร์ตอนเช็คอินเลยจ้า อาหารเช้ามีให้เลือกทั้งขนมปังปิ้ง ไข่ดาว ไส้กรอก หรือจะเป็นกับข้าว กินกับข้าวสวยร้อน ๆ หรือจะเป็นสลัดเบา ๆ ก็มี แต่ความฟินมันอยู่ที่วิวข้างนอกหน้าต่างนั่นมากกว่า








เรามีเวลาชิลวันนี้อีกทั้งวันก่อนกลับ ไม่รีบไปไหน เดินเล่นสบายสบายสไตล์สายชิล ลงมาเจอร้านกาแฟโบราณ อยู่ชั้น G ห้างกาดสวนแก้ว พี่เจ้าของร้านทักทายอย่างอารมณ์ดี แม้ว่าจะยังอิ่มอยู่แต่ก็อดไม่ได้ที่จะสั่งชาโบราณมาจิบแกล้มกับวิวดอยที่เหมือนจะตามเราไปทุกที่ ซึ่งเราก็ยินดีให้ตาม




"CAFE RACER" อีกหนึ่งร้านที่เดินมาจากที่พักได้เลย เพราะอยู่ข้างกาดสวนแก้ว ติดกับโชว์รูมรถยามาฮ่า ที่นี่ไม่มีวิวดอย แต่มีอย่างอื่นที่แจ่มไม่แพ้กัน (ให้โฟกัสที่บาริสต้า ฮ่า ๆ ๆ) ถือว่าปิดทริปได้อย่างสวยงาม




การเที่ยวแบบสายชิลอย่างเรา คือมักไม่คาดหวังว่าจะต้องเจอกับอะไร และไม่กะเกณฑ์ว่าแต่ละวันจะเป็นยังไง ทริปนี้เราอาจไม่ได้เห็นเชียงใหม่ในแบบที่ต้องเห็น แต่เราได้เห็นเชียงใหม่ในแบบที่มันเป็น และทางเราก็สบายใจแบบนี้ ไว้จะมาใหม่นะจ๊ะ หัวเราะ


ชื่อสินค้า:   รีวิวเชียงใหม่
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่