ถึงช่วงนี้จะเป็นฤดูล่าหมอก... แต่ #ทีมทะเล อย่างเราก็อดไม่ได้
ที่จะแว๊บมาสัมผัสไอทะเลให้หายคิดถึงสักนิดที่ D Varee Jomtien Beach, Pattaya

ทำไมต้องที่นี่?

อ่ะลอง คลิก กดดูคลิปนาทีกว่าๆ
หรือ ลองมาอ่านไปพร้อมกันนะ กับ...

"สิ่งดีงามทั้ง 7 ที่ทำให้เราชอบดี วารี จอมเทียนบีช พัทยา"

ใครชอบแบบกดดูรูปไปเรื่อยๆ เนื้อหาไม่แน่นมาก ตามไปได้ที่นี่นะจ๊ะ
www.facebook.com/bestiewanderer



1. ห้องวิวทะเล

การันตีเลยว่าถ้าใครชอบฟิลแบบตื่นขึ้นมาแล้วได้เห็นวิวทะเลจากเตียงเลยจะต้องร้องว้าว!

ที่โรงแรมมีถึง 38 ชั้น ห้องพักเริ่มต้นมีตั้งแต่ Superior, Deluxe, Executive Club, Executive Suite, Family Suite และ Jacuzzi Suite...ครั้งนี้เราได้พักห้อง Deluxe ที่ชั้น 25 กันค่ะ มาดูกันภายในห้องเป็นยังไง....




เข้ามาในห้อง เราจะมองเห็นวิวทะเลพัทยา แบบนี้เลยค่ะ
ต้องบอกเลยว่า ห้องของที่นี่ วิวปังจริงๆ กับราคาเพียงไม่เท่าไหร่
ด้านนอกของระเบียงก็จะมีเก้าอี้ไว้ให้นั่งชิล จิบกาแฟรับลมทะเลชิลๆ




ภายในห้องก็ดูสะอาดตา จัดสรรปันส่วนได้ดีค่ะ เปิดประตูห้องเข้ามา
ด้านขวามือของห้องเราจะเป็น ห้องน้ำ ซึ่งมีทั้งอ่างอาบน้ำและ shower ในตัว
Amenities ก็ครบครัน ทั้ง เจลอาบน้ำ แชมพู โลชั่น มีพร้อมค่ะ ไม่ต้องห่วง



ด้านซ้ายจะเป็น ตู้เสื้อผ้า และ ตู้เย็น (แถมน้ำเปล่า 2 ขวด) มีกาแฟ ชา ชงกินได้โลดดด



เตียงนอน Twin Bed เด้งดึ๋งง... นอนดูทีวีสบายค่ะ
ใครอยากได้เตียงแบบเตียงเดี่ยว King Size ก็รีเควสตอนจองได้นะคะ



ข้อด้อยนิดหน่อยที่เราเห็นคือ ห้องที่เรานอนแอร์มีความเสียงดังอยู่บางช่วง และเฟอร์นิเจอร์ในห้องที่เป็นไม้เช่น ตู้ ประตูภายในห้อง จะเริ่มเก่าบ้างแล้ว แต่เรื่องความสะอาดนี่หายห่วงจ้า สะอาดมาก และไม่มีกลิ่นอับใดๆถึงจะเป็นโรงแรมที่เปิดมานานแล้วก็ตาม


2. โลเคชั่นสะดวกสบายแต่ไม่วุ่นวาย

โรงแรม ดี วารี จอมเทียนบีช พัทยา อยู่ซอยจอมเทียน 14 บริเวณหาดจอมเทียน อยู่ห่างจากตัวกรุงเทพฯ ประมาณ155 กิโลเมตร และตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองพัทยาประมาณ 2 กิโลเมตร บริเวณนี้หาดสงบ เหมาะแก่การมาพักผ่อน แต่ก็มีเซเว่นอยู่หน้าโรงแรมด้วยนะ



บริเวณล้อบบี้ด้านในโรงแรมเป็นโทนสีขาว น้ำตาล ทอง ดูสะอาดตา และหรูหรา
มีนักเปียโนเล่นเปียโนให้ฟังเคลิ้มๆเพลินๆ ท่ามกลางแอร์เย็นฉ่ำ



เวลาเช็คอินคือ 14.00 น. และเช็คเอ้าท์ ตอนเที่ยงตรง นะคะ



3. มีสระว่ายน้ำ 2 สระ

สระนึงอยู่ที่ชั้นล่างสุด อีกสระอยู่ที่ชั้น 5 ไม่มีสระเด็กแยกออกไปต่างหาก แต่มีกั้นโซนลึกโซนตื้นอยู่ด้วย
ถ้ามีเด็กๆมาด้วยให้น้องเล่นโซนตื้นกันได้จ้า ว่ายวนไปค่ะ ว่ายให้ตัวเปื่อยกันได้เลย



สระว่ายน้ำชั้น 1 มีทั้งสระว่ายน้ำกว้างขวางให้แวกว่ายสบายอารมณ์
หรือจะผ่อนคลายตัวเองด้วยการไปแช่บ่อจากุชซี่ ให้น้ำนวดตัว relax ได้มากเลยค่ะ



สระว่ายน้ำชั้น 5 วิวงามมมม.... จะว่ายหรือจะนอนอาบแดด ทำตัวแทนเบาๆก็ฟินไม่แพ้กันเลยค่ะ
ตรงนี้มีความเป็นส่วนตัวกว่าสระที่อยู่ด้านล่าง



4. รูฟท็อปบาร์ชั้น 38 บรรยากาศดีเวอร์

ช่วงเช้าจะเป็นที่ทาน Breakfast อาหารเช้าที่ชั้น 38 เป็นสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองมาในห้องพักแบบ Executive Club ขึ้นไปค่ะ ซึ่งต้องบอกเลยว่าวิวก็ Exclusive จริงๆ น้อยมากที่ทางโรงแรมจะจัดให้ทานอาหารเช้าบนรูฟท็อปขนาดนี้

ปกติถ้าจองห้องพักแบบ Superior และ Deluxe จะให้บริการอาหารเช้าที่ชั้น 1 นะคะ
ครั้งนี้ทางโรงแรมเชิญเรามารีวิว ทางโรงแรมจึงอนุญาติให้ขึ้นมาถ่ายภาพค่ะ



ไลน์อาหารเช้าที่นี่ถือว่าโอเค ไม่ได้หวือหวามีอะไรเป็นพิเศษมากนัก แต่ว่าแต่ละเมนูที่ทางโรงแรมจัดมาให้ก็ถือว่ามีความหลากหลายทั้งไทยและเทศ ถูกปากคนไทยเราแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นพาสต้า ขนมปังชุบไข่ ผัดกะหล่ำปลี ผัดหมู ข้าวสวย ข้าวต้มทรงเครื่อง ฯลฯ



ที่นี่ไม่มี Egg Station ออกมาตั้งโชว์ แต่เราก็สามารถสั่งเมนูไข่ต่างๆได้กับพนักงาน
อย่างในรูปด้านล่างนี้คือ ไข่กระทะทรงเครื่อง รสชาติดี กลมกล่อม อร่อยเลยค่ะ แนะนำว่าต้องลองทาน



Waffle ที่นี่เค้ามีเครื่องทำ Waffle ให้เราได้ทำกันเองแบบสดๆ แป้งนุ่ม หอม และอร่อยมาก
วิปครีมและเครื่องต่างๆใส่ได้ตามชอบเลย ขนาดปกติเราไม่ค่อยชอบทาน Waffle พอลองทานที่นี่แล้วยังต้องเบิ้ล!



ซีเรียลต่างๆ น้ำผลไม้ รวมถึงซูชิโรล กิมจิ และสลัดบาร์ก็มีให้ได้เลือกทานกันด้วนนะ



อย่าลืมตบท้ายด้วยกาแฟร้อนหอมกรุ่นสักแก้วนะคะ
เราลองสั่ง Mocha และ Latte มาชิมการันตีว่ารสชาติดีใช้ได้เลย



ช่วงเย็นจะเป็นบาร์นั่งดื่มเก๋ๆ DIB D Varee Inspiration Bar
มีโปรโมชั่น Happy Hour เครื่องดื่มซื้อ 1 แถม 1 ทุกวัน 18.00 - 20.00

เสียดายมากที่วันที่เราไปทางโรงแรมดันมีกรุ๊ปปาร์ตี้ส่วนตัวพอดี
เราเลยอดไปนั่งดื่มชมวิวยามเย็นด้านบนนี้เลย ได้แต่ถ่ายรูปบรรยากาศช่วงกลางวันมานิดหน่อย ครั้งหน้าถ้าไปพัทยาอีกจะไม่พลาดแน่ค่ะ!



เดี๋ยวมาต่อกันอีกด้านล่างนะค้า : )