[CR] รีวิว เมื่อเราได้ไปวิ่งอยู่ที่หลังเวที Festival of the Lion King @Disney's Animal Kingdom in Walt Disney World

รีวิว เมื่อเราได้ไปวิ่งอยู่ที่หลังเวที Festival of the Lion King @Disney's Animal Kingdom in Walt Disney World



Once upon a time...at Festival of the Lion King


สวัสดีค่ะ  ^^ เราจะมาขอรีวิวประสบการณ์ ส่วนหนึ่งก็เพื่อบันทึกความทรงจำดีๆที่ได้ไปเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานที่ Disney ค่ะ
เริ่มมาจาก โครงการนี้คล้ายๆกับ work and travel เลยค่ะ แต่เป็นของ ดีสนีย์โดยเฉพาะ จะเรียกว่า International College Program (ICP)  ที่ Walt Disney World เมือง Orlando, Florida, USA ซึ่งเราไปในปี 2016 อาจจะผ่านมาพอสมควร แต่ก็เป็นหนึ่งในความทรงจำที่ดีมากๆที่สุดจริงๆค่ะ^^

เริ่มแรกในการเข้าร่วมโครงการ
- มาจากการที่เราเรียนอยู่ปีสุดท้ายแล้ว และก็ฝันมาตลอดว่าอยากลองไปใช้ชีวิตที่อเมริกาดูบ้างสักครั้ง อยากไปเวิร์กมากๆก่อนจะเรียนจบค่ะ แต่ว่าเราตั้งใจกับตัวเองว่าจะไม่ขอเงินจากครอบครัวเลย  เราจึงเริ่มหาข้อมูลทั้งหมดในตอนปิดเทอมปีสี่ก่อนขึ้นปี5 จึงได้มาเจอโครงการนี้ค่ะ ตาลุกวาวเพราะว่าไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆเลยในการสมัคร แต่ก็ต้องแลกมากกับการสอบที่ยากเย็น (สำหรับคนภาษาไม่แข็งแรง)  รายละเอียดสามารถ ติดตามและหาได้จากทางลอนดอนเฮ้านะคะ (เดี๋ยวจะหาว่าโฆษณา อิอิ)  เรามีเงินเก็บก้อนหนึง + กับทำตารางฝากเงินประจำ แต่สิ่งที่สำคัญคือ ภาษา! เราอ่านรีวิวว่าสอบสัมภาษณ์ 2 รอบแอบยาก สำหรับคนที่ไม่ได้เรียนด้านภาษา แต่เราก็ต้องสู้ตาย จะพลาดไม่ได้ เราบอกตัวเองแบบนี้ค่ะ  แม้ตอนไปสมัครจะโดนดูถูกว่าภาษาสู้คนอื่นไม่ได้ จำฝังใจมากว่าพยามหน่อยนะคณะนี้ยังไม่ได้ไปสักคน (เงิบค่ะ! แต่ก็ขอบคุณที่ทำให้เราได้พัฒนาตัวเอง! ^^ )
- เมือข้อมูลพร้อมแล้ว เงินก็พร้อมแล้ว  เราก็พัฒนาตัวเองด้านภาษาเพิ่มเติม เอาแบบเพื่อไปสัมฯให้ได้ก่อน แล้วไปตายเอาดาบหน้า555 เมื่อผ่านรอบแรก คือดีใจมากๆที่รอดมาได้ รอบ2 จะมี HR ของดีสนีย์มาสัมฯค่ะ เป็นลุง กับป้า  ใจดีทั้งคู่ มีคนบอกว่าป้าดุ เราว่าไม่ดุนะคะ^^ เราได้สัมฯ กับป้าคนสุดท้ายวันสุดท้ายค่ะ ตื่นเต้นมากๆ แต่เราก็พยายามเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด และนี่ก็คือจุดเปลี่ยนเลยค่ะ
- คือเราจะต้องเลือกงานที่อยากทำจะมี Role Jobs หลักๆ 3 งานคือ
         Lifeguard
         Merchandise (ขายของ)
         QSR (ฟู๊ดนั่นแหละ)
แต่รุ่นเราเริ่มมีงานอื่นๆให้เลือกอีกหลายงาน ทั้งคาแลกเตอร์เอย คอสตูมเอย  บลาๆ เราก็เลยเลือกสมัครคอสตูมไปค่ะ  ตอนสัมฯ ก็พยายามบอกเหตุผลให้คุณป้าสนใจและเงยหน้ามองเรา โดยไม่สนใจสำเนียง หรือภาษา เอาที่สื่อสารได้ เราบอกไปตรงๆเลยค่ะ ว่าเราเรียนออกแบบมา เรารักคอสตูมมาก และเราคิดว่าในการต่อยอดอาชีพในอนาคตเค้าจะไม่มาโฟกัสว่าเราจบอะไรมา หรือเกรดเราเท่าไหร่...เค้าสนว่าเราทำอะไรได้บ้างต่างหาก ประสบการณ์ที่ได้จากที่นี่จากองค์กรระดับโลก ได้ทำคอสตูมร่วมกับดิสนีย์ที่ถือว่าครีเอทิฟและหลากหลายนั่นแหละคือสิ่งที่เราต้องการ บลาๆ คือเล่นใหญ่ๆไปเลย ป้าก็ถามว่าเรามีประสบการณ์ด้านนี้หรอ เราบอกว่าเราไม่ได้เรียนแฟชั่นก็จริงแต่เราเคยร่วมงาน เคยประกวดแบบแฟชั่นมาก่อน บลาๆ เราแบบมีอินเนอร์เล่นใหญ่สุดๆ ป้าก็สนใจมากคุยกันนานมากๆ จนคุณป้าบอกว่า คือ ตำแหน่งคอสตูมของเรามันมีสองแบบนะ มันมีครีเอทีฟคอสตูมทำในสเตจ (ไม่ได้เคยรับเด็กไทยทำ) กับคอสตูมเฉยๆ(เตรียมชุดให้พนักงาน ตำแหน่งนี้แหละที่รับ) ป้าจะเขียนไปให้นะว่าจะส่งยูไปครีเอทีฟคอสตูม ! อันนี้คือพีคมากค่ะ (เข้าใจแล้วว่าการพรีเซนต์ตัวเองเป็นการเปิดโอกาสให้ตัวเอง อันนี้สำคัญมาก อย่ามองว่าคนนี้ขี้อวดจัง มันไม่ใช่ค่ะ สังคมฝรั่งเค้าไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยตรงนั้นสำหรับเรา เราพยามที่จะไปให้ได้ เพราะฉะนั้นเราต้องทำทุกอย่าเพื่อให้ได้ไป)

ในที่สุดก็ประกาศผล ผ่านนนนค่ะ ! เย้ๆ เราได้ไปทำคอสตูมที่ดิสนีย์แล้ว ตอนนั้นใจไม่อยู่กับทีสิสล่ะค่ะ อยากจะเก็บกระเป๋าอย่างเดียวเลย

การเดินทาง
สามารถเลือกซื้อตั๋วกับเอเจนซีก็ได้ แต่เรางกค่ะ เพราะแพงกว่ามากก เลยไปกันเอง  เราต้องบอกกก่อนว่าเราโชคดีมากๆ เราไปคนเดียวไม่มีเพื่อน แต่ได้มารู้จักกับเพื่อนๆซึ่งทุกคนน่ารักมากๆ และกลายเป็นเพื่อนกันจนถึงตอนนี้  เค้ารักตัวเน้อ อิอิ ^^ เลยเป็นรูมเมท และเที่ยวด้วยกันค่ะ

สวัสดิการ

- บ้าน ที่ดิสนีย์สวัสดิการจะดีมาก ถึงมากที่สุด มีบ้านดีๆ 4 หมู่บ้าน 5555 ฟิลแบบฮอกวอสต์มากได้เลื่อกบ้าน เราอยู่ชาร์ทั่มค่ะ อิอิ มีสระว่ายน้ำ (ที่ไม่เคยใช้) มีฟิตเนส (ที่ไม่ได้ไปเล่น) 5555 ครบเลยพร้อมมากๆ  ราคาจะประมาณวีคละ $108 อยู่กัน 6 คนสบายๆเลยค่ะ


-Bus ฮัลโหลล ต้องมีให้สิคะที่ทำงานคือไกลมากก บัสจะมาตรงเวลาจะเป็นบัสของเด็กๆแลกเปลี่ยนค่ะที่จะเวียนไปส่งตามปาร์คต่างๆ รวมถึงวอร์มาร์ทและเอ้าเลทด้วยนะคะ  สบายไปอีก  แต่ก็ต้องตื่นไปทำงานแต่เช้าเพื่อเวลาเยอะๆ บอกตามตรงแต่ละที่มันไกลมากกก ชอบตรงที่ทุกคนจะใส่ชุดน่ารักๆกันตามโลเคชั่นของงาน ฮืออ  เราชาวคอสตูมมิ่งหมดสิทธิ์จ้า มีแบบเดียวเท่านั้นแหละ


นอกจากนั้นก็จะมีอีเว้นต่างๆเยอะแยะไปหมด เป็นฟิลแบบไฮสกูลเมืองนอกค่ะ ปาร์ตีฟรีฟู๊ด (เราชอบมมากชอบไปขนขนมมาตุนไว้) พูลปาร์ตี้ที่จะแยกออกเลยว่านี่คือเด็กไทย 555 เพราะเป็นกลุ่มเดียวที่ไม่ใส่บิกินนี่จ้าาา  

และสำหรับวันหยุดเราก็จะไปเที่ยวเล่นในปาร์คได้ฟรีๆทุกปาร์ค ต้องเก็บให้ครบนะคะ อันนี้แหละที่เราว่าคุ้มมากๆ ถึงมากที่สุด ช้อปของดิสนีย์ก็มีส่วนลดอีก 10% นะจ๊ะ แค่ลองคิดราคาค่าเข้าแล้วโอโห้คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ถ้าทำงานได้ครบชมที่กำหนดก็จะได้บัตรให้พาใครเข้าได้ฟรีอีก อันนี้เราได้มาแต่เสียดายไม่ได้ใช่เลย ฮือๆเพราะไม่รู้จักใคร ที่สำคัญเค้าห้ามขายค่ะ ผิดกฏ! ส่วนตัวนี่ชอบ Animal Kingdom ที่สุดค่ะ เราเป็นพวกนอกจากินแล้ว ชอบเสียงเพลงชอบเต้น นี่เต้นตลอดทาง ตลอดเวลาเพราะมันจะมีเพลงแล้วชวนทุกๆคนมาเต้นกัน สนุกมากก เต้นจน ช่างกล้องยัดบัตรถ่ายรูปใส่มือ 5555 เอาภาพมาให้ดูตลกจริงๆจอยยมาก มีความสุข!! แล้วเราก็ชอบดูโชว์ที่สุด คือว่างเป็นต้องไปดูไลอ้อนคิง ไปดูนีโม่ ไปดูจังเกิ้ลบุ้ค โอ้บบบ คิดถึงงคิดแล้วฟิน




เข้าเรื่องดีกว่า
มาต่อกันเรื่องงาน  เราก็ไม่ได้ฟันธงว่าจะไปครีเอทิฟ เพราะตอนไปเทรนก็คือเราจะได้เทรนเรากันกับเพื่อนๆหลายเชื่อชาติเลยค่ะ ซึ่งคอสตูมเด็กไทยตาดำๆนี่ถือเป็นชนกลุ่มน้อยสุดๆมีกันแค่ 3-4 คนเองค่ะ ฮือๆ  พอวันสุดท้ายที่เทรนเสร็จ เค้าจะแจกตารางให้เรานะคะ ว่าได้ทำงานที่ไหน เพื่อนๆต่างแยกย้ายไปตามคาแลกเตอร์รูม แต่ของเราได้ไปที่ Festival of the Lion King!! กรี๊ดดดดดดดดด ความฝันวัยเด็กมากๆ คือเราชอบLion king มากดูจนวีดีโอขาดเลยค่ะ! ฉีกเดี๋ยวไปกับเพื่อนฝรั่งของเราอีกคนค่ะ แต่ว่าเราสลับกันไป เพราะฉะนั้นตารางไม่เหมือนกันจ้า  นี่ได้ไปคนเดียวก่อนเลย และเนื่องจากว่าเป็นโชว์ตารางจึงตายตัวมากๆ เราจะเฉลี่ยอยู่ที่ 48 ชมค่ะ ค่อนข้างดีเลยได้ OT ทุกวัน เพราะทำงาน 8โมงเช้า เลิก 3ทุ่มครึ่งค่ะขุ่นแม่!

เรื่องพีคๆในวันแรกคือ เราไม่รู้ว่าที่ทำงานเราอยู่ที่ไหน พยายามถามทุกคน ถามเพื่อนที่เทรนก็ไม่มีใครรู้เพราะว่าอย่างที่บอกค่ะส่วนใหญ่จะทำงานที่ห้องคาแลกเตอร์รูม หรือคอสตูมของแคชเมมเบอร์ จึงทำให้เทรนเนอร์ไม่ได้พาไปดูสเตจเลย  เราก็เอาวะนั่งรถไปสุดท้ายจนย้อนกลับมาลงที่ไพร้ร็อกซึ่งเราลงถูกที่ 555 เพราะแอบมองหาคนที่แต่งตัวเหมือนกัน  เราไม่รอช้ารีบวิ่งไปถามเค้าค่ะว่าจะไปที่ไลอ้อนคิงไปทางไหน ถามสาวฝรั่งผมทองนามว่าฟาวลอน (ชื่อเพื่อนคนแรกของเรา) หันมาบอกว่าอ๋อ เรากำลังไปพอดีไปด้วยกันสิ เราเลยรับจ้ำตามเค้าไป  ถือว่าโชคดีไป อิอิ




เราอยู่ที่นี่ค่ะ นี่คือบ้านหลังใหม่ที่แสนอบอุ่นของเราค่ะ

ปล คิดว่ารายละเอียดหลักๆกับ รุปเบื้องหลังไม่สามารถเปิดเผยได้ เค้าห้ามถ่ายรูป จะขอเราแบบรวมๆ คร่าวๆ พร้อมทั้งบันทึกความทรงจำดีๆแทนนะคะ ^^
ชื่อสินค้า:   Festival of the Lion King @Disney's Animal Kingdom in Walt Disney World
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่