9 เรื่องที่คุณควรรู้ ก่อนไปดู American Assassin (กับพ่อหนุ่ม ดีแลน โอไบรอัน ><)

ชีวิตพังๆ ของ มิตช์ แรปป์ (ดีแลน โอไบรอัน) ซีไอเอหนุ่มที่เข้าร่วมหน่วยปฏิบัติการลับภายใต้การนำของอดีตทหารมากประสบการณ์หลังเสียแฟนสาวไปในเหตุการณ์ก่อการร้าย จนต้องปฏิบัติภารกิจที่ต้องร่วมมือกับสายลับตุรกี แอนนิก้า (ชิวา นีการ์) เพื่อหยุดยั้ง วายร้ายปริศนา (เทเลอร์ คิทช์) ที่ต้องการเริ่มสงครามโลกครั้งใหม่ในตะวันออกกลาง

จริงๆ โอไบรอันจาก The Maze Runner และ Deepwater Horizon นี่น่าจะถูกปักหมุดเป็นอีกนักแสดงหนุ่มอนาคตไกลได้แล้วมั้ง คือต่อให้มาสายหนังแอ็คชั่นแต่ท่าทางโคตรดีเลย แล้วหนังแต่ละเรื่องก็ไปได้สวยทั้งนั้นเลยด้วย เรื่องนี้ก็เหมือนกัน

แต่สิ่งที่ทำให้เราสนใจอยากดู American Assassin ไม่ใช่แค่เพราะโอไบรอันเท่านั้น (แต่ถามว่ามีส่วนไหม แน่นอนว่ามี) แต่ยังมีไมเคิล คีตันมาร่วมแสดงด้วย ลุงแกท็อปฟอร์มมาตลอดหลังเล่น Bird Man บทบาทในนี้เลยน่าสนใจว่าลุงจะกราดเกรี้ยวหรืออ่อนโยนใส่ตัวละครอื่นๆ ยังไงบ้าง

และนี่คือเหตุผลว่าทำไม American Assassin ถึงน่าสนใจมากๆ ><


1. หนังดัดแปลงจากนิยายชุดขายดีอันดับหนึ่งในชื่อเดียวกันของนิวยอร์กไทมส์ที่มีออกมาถึง 15 เล่ม แม้ วินซ์ ฟลินน์ ผู้เขียนจะล่วงลับไปแล้ว แต่ภรรยาของเขาที่ดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว ให้ความเห็นอย่างน่าประทับใจว่า “หลังจากได้ดูฉันคงไม่ตื่นเต้นและอิ่มเอมใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว ฉันรู้ว่า วินซ์ ต้องภูมิใจกับมัน เสน่ห์ของตัวละครจากหน้าหนังสือมันถ่ายถอดลงจอได้ไม่มีผิดเพี้ยน”

2. ได้สตีเฟ่น ชิฟฟ์ มือเขียนบทระดับพระกาฬจาก Lolita มาร่วมเขียนบท (!!!) ก่อนหน้านี้ชิฟฟ์หายหน้าหายตาไปเขียนบทให้ฝั่งซีรีส์ฉายทีวีอยู่พักใหญ่ และนี่คือการกลับมาอย่างท็อปฟอร์มของเขามากๆ ขณะที่มือเขียนบทร่วมอีกคนคือ ไมเคิล ฟินช์ เจ้าพ่อมือเขียนบทแอ็คชั่นจาก Predators และ Hitman: Agent 47 อยากรู้ว่าสองคนนี้จะผสมสายดราม่ากับแอ็คชั่นเข้ากันยังไงน้อ


3. หนังกำกับโดย ไมเคิล คูเอสต้า จากซีรีส์ Dexter เลยจ้า แถมกำกับหนังแอ็คชั่นดราม่าคำวิจารณ์ดีถล่มทลายอย่าง Kill the Messenger กับหนังอินดี้ฟอร์มเล็ก L.I.E. กระซิบนิดนึงว่าเรื่องหลังนี่เป็นหนังเรื่องแรกและหนังแจ้งเกิดของเขาเลย เจ๋งแค่ไหนคือบุกไปคว้ารางวัลใหญ่สุดของเทศกาลหนัง Copenhagen Gay & Lesbian Film Festival มาได้

4. อย่างไรก็ดี ก่อนที่บทนำจะตกเป็นของโอไบรอันนั้น มันเคยเกือบเป็นของคริส แฮมสเวิร์ธก่อน แต่นักแสดงหนุ่มชาวออสเตรเลียปฏิเสธไป ขณะที่เมื่อบทตกมาถึงมือของดีแลน โอไบรอัน สตูดิโอก็พอใจไม่น้อยเพราะ “ดีแลน เป็นขวัญใจคนอเมริกันทุกเพศทุกวัย ต่อมาเราได้รู้ว่าเขาแกร่ง เป็นนักกีฬาที่พริ้วใช่เล่นซึ่งสามารถเล่นฉากแอ็คชั่นได้ดีกว่าที่เราคาดไว้”


5. กำกับภาพโดย เอ็นริเก้ ชีไดแอ็ค ที่เอาจริงๆ ก็เป็นผู้กำกับภาพรุ่นกลางที่น่าจะเป็นหนึ่งในคนที่เชี่ยวชาญงานหนังแอ็คชั่นมากที่สุดแล้ว เราล้วนน่าจะเคยผ่านตางานกำกับภาพของเขามาแล้วอย่าง 127 Hours, The Maze Runner, 28 Weeks Later

6. ในการจะรับบทเป็นซีไอเอ โอไบรอันเลยต้องไปสัมภาษณ์พูดคุยกับซีไอเอจริงๆ “ตอนผมเริ่มคุยกับคนที่ทำงานใน ซีไอเอ ผมค้นพบว่าบ่อยครั้งพวกเขามีเรื่องราวคล้ายๆ กัน มีประสบการณ์ร้ายๆ ที่ผลักดันให้เขาทำงานนี้และยังส่งผลเรื่อยมาถึงปัจจุบัน มันอาจมีหนังสายลับอยู่แล้วหลายเรื่องแต่หนังพวกนั้นไม่เคยให้เราได้เห็นจุดเริ่มต้น ก่อนที่เขาจะกลายมาเป็นเครื่องจักรสังหารฝีมือสุดยอด ผมคิดว่ามันน่าสนใจนะที่ได้เห็นเด็กอายุยี่สิบกว่าๆ ที่ต้องเจอเหตุการณ์เลวร้ายซึ่งเปลี่ยนเขาไปตลอดกาล”


7. และทันทีที่รู้ว่าต้องรับบทแอ็คชั่น โอไบรอันก็พร้อมเข้าคอร์สเสริมกล้ามเนื้อให้ดูบึกบึน แต่อนิจจา นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผู้กำกับต้องการ “แน่นอนว่าเราไม่ได้ต้องการให้ ดีแลน กล้ามโตจนเกิดไป เราเห็นตรงกันว่า มิตช์ จะเป็นแอ็คชั่นฮีโร่ที่ต่างจากยุค 80 เราชอบที่ตัวละครของ ดีแลน ดูคล่องแคล่ว พริ้ว และถึงลูกถึงคนกว่าที่จะแคร์ว่าเขาจะยกน้ำหนักได้ขนาดไหน ดีแลน ในหนังเหมือนนักล่าเลย โฟกัสแต่กับเหยื่อจนกว่าเข้าพร้อมจะขย้ำ”

8. ไมเคิล คีตัน ในบทครูฝึกโหดกลับมาพร้อมการแสดงที่นักวิจารณ์ลงความเห็นว่าแสดงได้เป็นระเบิดทำลายล้างมากๆ (ถึงขั้นถามว่า ใครจะทนตาครูฝึกนี่ไหวในชีวิตจริงกันล่ะ) ไมเคิลเดินสายสัมภาษณ์ซีไอเอและสร้างตัวละครของเขาให้สมจริงขึ้นในหัว “ผมเริ่มโดยการถามตัวเองว่านายคนนี้เป็นใครถ้าไม่ได้ทำงานกับซีไอเอ เหมือนกับเขาเป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง เขาไม่มีช่องว่างให้ความผิดพลาดเลย แค่นั้นเอง” (อย่างไรก็ตาม เป็นโชคของเขาที่เรื่องนี้ถ่ายทำหลัง Spider-man: Homecoming ที่ไมเคิล คีตัน (ในบทตัวร้าย) ต้องเฟิร์มร่างกายสำหรับการแสดงอย่างดี ฉะนั้นเมื่อมารับบทครูฝึก เขาเลยสบายตัวนิดหน่อยเพราะออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้ว

9. แต่อย่างไรก็ตาม พ่อพระเอกอย่างโอไบรอัน ต้องฝึกตัวต่อตัวกับผู้ฝึกสอนระดับตำนาน โรเจอร์ หยวน ที่เคยร่วมแสดงกับแอ็คชั่นสตาร์อย่างแจ็คกี้ ชาน และ โจเหวินฟะ เขาเป็นคนเตรียม แดเนียล เคร็ก ให้พร้อมกับบทใน “Skyfall” เป้าหมายของการฝึกซ้อมคือทำให้ โอไบรอัน พร้อมต่อสู้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการจับล็อคสไตล์ MMA ไปจนถึงออกลีลาพริ้วแบบกังฟูและการต่อสู้ด้วยอาวุธ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่