ประสบการณ์ตรงจากโครงการ IM JAPAN

สวัสดีครับทุกท่าน หลายคนหลังไมค์เข้ามาถามไถ่เรื่องโครงการนี้หลายท่าน ซึ่งผมคิดว่าน่าจะตั้งเป็นกระทู้เพื่อตอบทุกคำถามคาใจในกระทู้เดียวนี้เลย ซึ่งอยากตั้งกระทู้นานแล้วแหละ... ไม่เคยตั้งกระทู้เป็นเรื่องเป็นราวหาก เว้นวรรค อ่านไม่สะบายตา และ หากภาษาไทยผมขาดตก บกพร่องไปก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ..

      เกริ่นก่อนเข้าเรื่องนะครับ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 ประมาณปลายๆปี ผมเป็นเด็กจบใหม่หมาดๆ ขณะนั้นจบปุ๊บก็ไม่รู้จะทำงานอะไร เลยเป็นพนักงานต้อนรับที่โรงแรมแห่งนึงแถวบ้าน ซึ่งเงินเดือนประมาณ 7-8พันบาท ก็ทำได้สักประมาณ 2เดือน ก็มาถึงจุดเปลี่ยนของชีวิต...
ประมาณว่า อยู่ๆก็นึกถึงความฝันตั้งแต่เด็กแล้ว (โดยส่วนตัวผมชอบดู อนิเมะ มากๆ) ขณะกลับบ้านก็มีความคิดว่า ทำไงดี อยากไปใช้ชีวิตที่ประเทศ ญป อยากไปดูสถานที่ดังๆ อยากไปลิ้มรสวิถีชีวิตแบบคนญป ดูสักครั้งในชีวิต ซึ่งตอนแรกนั้นผมก็คิดไม่ออกเลยว่า จะทำอย่างไร เพราะความสามารถที่มีนั้น โอกาสแทบเป็นศูนย์ จนคิดไปถึงขั้นที่ว่าจะยอมเสียเงินแสน เพื่อไปกับบริษัทจัดหางานดู ผมก็คิดหาวิธีหลายๆอย่าง หากเข้าไปดูในประวัติการตั้งกระทู้ผม ผมเคยถามไปรอบนึงในพันทิป ฮ่าๆ จนมาจบที่ Google นี่ละครับ ทำให้พบกับโครงการ IM JAPAN ผมลองเข้าไปอ่านในเว็ปดู ปรากฏว่าหมดเขตสมัครอาทิตย์หน้านี่เองงง ผมแทบไม่มีเวลาหาข้อมูลเลยว่า โครงการนี้มันมีจริงมั้ย จะโดนหลอกมั้ย เพราะสมัยก่อนไม่มีข้อมูลอะไรเลยครับ ทั้งพันทิปหรืออะไร แต่ด้วยความที่อยากเสียงดูสักตั้ง เพราะเงื่อนไขการมานั้น ง่ายมาก ทำให้คนอย่างผมมีความหวังที่จะได้มาใช้ชีวิตที่ประเทศที่ตัวเองใฝ่ฝันจริงๆก็คราวนี้แหละ ในตอนนั้นคิดแค่นั้นจริงๆ เลยตัดสินใจสมัคร.... และปัจจุบัน ณ วันนี้  2017-09-10 ผมเหลือเวลาอีก 1เดือนก็ครบสัญญา 3ปีที่ได้อยู่ที่นี่แล้วครับ ^^
      เอาหล่ะเกริ่นมานานเข้าเรื่องเลยนะครับ จะพยายามรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์และตอบหลายๆคำถามยอดฮิตคาใจเหล่ารุ่นน้องที่สอบติด หรือกำลังสนใจหาข้อมูลทางนี้อยู่ จะอยู่ล่างสุดนะครับ

      ***** การเข้าโครงการ IM JAPAN *****
- การที่คุณจะเข้าโครงการนี้ ต้องสมัครผ่านกรมแรงงาน นะครับ ซึ่งจะมีประกาศรับสมัครเรื่อยๆ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรอบ ผู้ชาย ซึ่ง ผู้หญิงนั้น 1ปี จะรับสมัครประมาณ 2-3 รอบนะครับ เท่าที่สังเกตุ ด้วยสาเหตุที่โรงงานที่ญี่ปุ่นไม่ค่อยรับสมัครพนักงาน ผู้หญิงสักเท่าไร
- หากคุณสมัครเสร็จแล้ว คุณจะต้องผ่านด่านการทดสอบซะก่อน ไม่ใช่ว่าสมัครแล้วได้มาแน่นอนนะครับบ ด่านที่ว่านั้นคือการสอบเข้าโครงการนี้นั่นเองงง ซึ่งจะแบ่งเป็น 3อย่างนั้นก็คือ สอบข้อเขียน - สอบพละ - สอบสัมภาษณ์ เมื่อผ่านสอบทั้งสามด่านแล้ว ก็เตรียมตัวเข้าเรียนภาษาได้เลยยย
- มาถึงจุดนี้ คุณจะได้อยู่ในศูนย์ฝึกภาษาที่กรมแรงงานจัดไว้ให้นะครับ ซึ่งสมัยผมเรียน ที่จ.ปทุมธานี ซึ่งการเรียนนั้นทุกคนไม่ต้องกังวลนะครับ ทุกคนจะได้เรียนเริ่มจาก 0   หมดทุกคน เรียกได้ว่าปูพื้นฐานให้หมดทุกคน ส่วนใครที่เคยเรียน หรือมีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นก็จะได้เป็นหัวหน้าห้อง แค่นั้นเอง ^^ (ไม่ต้องห่วงว่าใครเก่งภาษากว่าจะได้งานดีนะครับ ใครไม่เก่งจะได้งานไม่ดี ไม่ต้องห่วงนะครับ เดี๋ยวจะบอก)
- ขณะที่ท่านเรียนอยู่นั้นจะมีการสอบระหว่างบทเรียนตลอดด้วยนะครับ ใช่ว่าท่านมาถึงจุดนี้แล้วจะได้บินทุกคน คิดผิดนะคับ เพราะหากท่านเรียนไม่ไหว สอบตกบ่อยๆ ทางผู้ดูแลก็จะเชิญท่านออกได้เช่นกัน ไม่แคร์ด้วย ระวังเรื่องการเรียนให้ดี แต่ถ้าตั้งใจ การสอบก็จิ๊บๆ เพราะเนื้อหามีในบทเรียนอยู่แล้ว มีเล่มเดียวเรียนจนบิน ไม่ต้องห่วง
- การเรียนภาษาญี่ปุ่นนั้นจะแบ่งเป็น 2ช่วงนะครับ ซึ่งเราๆจะเรียกกันว่า Part1 Part2 ซึ่งพาร์ทวัน จะเป็นการเรียนเต็มกัน 3เดือน แล้ว พาร์ททู จะเป็นการทบทวนบทเรียน 1เดือนก่อนบินนั่นเอง... มาถึงจุดนี้ท่านอาจจะคิดว่า อ่อ สรุปเรียน4เดือน แล้วบินเลยใช่ปะ??.. ความจริงก็ใช่ครับ ตะตะแต่ มันจะมีปัญหากันก็ช่วงรอยต่อระหว่าง Part1 และ 2 นี่แหละครับ ปัญหาที่ว่าคือการออกเอกสารยืนยันการไปทำงานที่ญป ซึ่งทางบริษัทที่ญป จะเป็นคนดำเนินการออกเอกสารให้เรา (คิดง่ายๆก็คือใบยืนยันว่าบริษัทที่ญปเดินเรื่องกับทางรัฐบาลญป ว่าจะจ้างเราไปทำงานที่นั่น) ซึ่งบริษัทใหญ่ๆที่เคยมีพนักงานต่างชาติโดยเฉพาะคนไทยอยู่แล้ว ก็จะออกเอกสารได้ง่ายและไวครับ ส่วนบริษัทใหม่ ที่อยากลองจ้างชาวต่างชาตินั้นก็จะต้องดำเนินการมากมาย ซึ่งใช้เวลาในการรอนานมากมาย ซึ่งผมก็เรียนจบ Part 1ได้ประมาณ 3เดือนกว่าจะได้เข้า Part 2 ใช้เวลานานซะจนเกือบลืมภาษาที่เคยเรียนเลย แหะๆๆ
- เอาละครับ เมื่อทุกท่านผ่านด่านต่างๆมากมายจนได้บินมาแล้วไม่ใช่ว่าจะได้เข้าทำงานเลยนะครับ จะต้องเรียนการใช้ชีวิตที่ญป อีก1เดือน !! ที่ประเทศญป ถึงจุดนี้จะไม่มีSensei (อาจารย์) ที่พูดไทยให้เราๆ แล้วนะครับ ทุกอย่างต้องภาษาญี่ปุ่นเท่านั้นนน ซึ่งการเรียนนั้นก็จะทบทวนเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมารยาทต่างๆ การทิ้งขยะ การรับมือกับภัยพิบัติ บลาๆ ระหว่างเรียน จะไม่ได้รับอนุญาติให้ออกนอกสถานเรียนเด็ดขาดนะครับ (โดนขังก็ว่าได้)
- Final Chapter เมื่อท่านเรียนจนจบครอส ท่านก็จะได้รับเงินเดือน หักลบค่าสถานที่ ค่าอาหาร บลาๆ ก็จะเหลือ ประมาณนี้นะครับ แหะๆ

จากนั้นท่านก็จะได้เข้าบริษัทของท่าน และขอต้อนรับสู่ประเทศญี่ปุ่นครับ ^w^

      ***** คำถามสุดฮิต *****
1. ค่าใช้จ่าย  (((โดยส่วนตัวผมนั้นเสียทุกอย่างไม่ถึง 2หมื่นบาท)))
    เริ่มจากเรียนฟรี ตอนเรียนมีเหมือน รร ประจำ  ทุกคนที่สอบผ่าน เข้าไปเรียนต้องพักที่ศูนย์ฝึกภาษา มีอาหารให้ เช้า เที่ยง เย็น ขณะเรียน ก็จะมี ออกกำลังกาย เช้า 7โมง ละก็หลังเลิกเรียน ออกกำลังกาย จ-ศ   ส่วน เสาร์ อาทิตย์ ไม่มีเรียนสามารถออกไปข้างนอกได้ (ระหว่าง จ-ศ ห้ามออกนอกศูนย์เรียนภาษา)
สำหรับเรื่องค่าใช้จ่ายนั้น จะขอนับตั้งแต่เริ่มสมัครเลยนะครับ ตลอดจนได้มาญป เลยนะครับ ก็จะมีเรื่อง
- ค่าทำพาสปอร์ต
- ค่าตรวจประวัติอาชญากรรม
- ค่าตรวจโรค (สามอย่างนี้ผมลืมเรื่องราคาแล้วนะครับขออภัย พาสปอร์ตน่าจะ 1500 ประวัติอาชญากรรม500 ตรวจโรค 800 มั้ง หากผิดพลาดก็ขออภัยจริงๆ นานมากแล้ว ;w; )
- ส่วนที่เหลือ ก็จะเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวนะครับ

2. ทำงานหนักมั้ยครับ มีโอทีเยอะมั้ยครับ??
    ต้องบอกเลยว่า การทำงานนั้นก็ต้องเตรียมใจมาทำนะครับ จริงๆแล้วงานไม่หนักหรอก อยู่ที่ตัวเรามากกว่า เพราะหากเราไม่ตั้งใจทำงาน งานก็พลาดง่าย งานช้า โดนด่าแน่นอน แต่ส่วนใหญ่แล้ว การทำงานที่ญป นั้นเขาจะทำงานเป็นขั้นตอนๆ ซึ่งหากเราทำตามคำสั่งได้ ก็ไม่มีปัญหาครับ ^^
    ส่วนเรื่องโอที บริษัทผมมีวันละ2ซม ตกเป็น ซม ละ พันกว่าเยน(300กว่าๆบาท) แล้วแต่ช่วง บางเดือนก็ไม่มี บางเดือนก็เต็มเดือน แล้วแต่ว่างานเร่งไหม ส่วนบริษัทอื่นผมไม่รู้นะครับ ของเพื่อนผมบางคนก็ได้ทำวันเสาร์ด้วย ได้เป็นโอที ทำงานเยอะจนแทบไม่มีเวลาไปช๊อป (แอบอิจ)

3. การใช้ชีวิตที่นั้นลำบากมั้ยครับ ??
    อาหารการกิน----  จะขอพูดเรื่องที่ลำบากหน่อยแล้วกัน (เหมือนบ่น) ในช่วงแรกๆ แถวที่ผมอาศัยอยู่นั้นไม่มี Store Thai Foods เลยยยยยยยยยย โหยหาวัตถุดิบอาหารไทยมากกกกก มาใหม่ๆภาษาก็ไม่คล่อง โหยหาทั้ง น้ำปลา น้ำมันหอย พริกเผา พริกเผ็ดๆ (พริกที่ญป ไม่เผ็ดเลย) ผักต่างๆที่บ้านเราเคยกินอย่าง กะเพรา โหระพา ฯ ไม่มี !! ญป ไม่มีห้างไหนขาย แทบจะร้องไห้ แถมสกิลการทำอาหารของผมต่ำมากๆ ในช่วงแรกนั้นลำบากสุดๆ  จนเคยตั้งกระทู้ถามการหาวัตถุดิบทดแทน 555+ ตอนนี้ก็ได้รู้จักคนไทยในญป หลายคนคอยช่วยเหลือ ได้รู้จักการสั่งของจากร้านอาหารไทยมา ตอนนี้ก็ไม่มีปัญหาเรื่องการกินแล้วคับ
    การแยกขยะ----  ช่วงแรกงง มากๆ พนักงานเก็บขยะไม่รับขยะบ้านผม 2-3รอบ 555+ เพราะแยกขยะไม่ถูกบ้าง ใส่ถุงไม่ถูกชนิดบ้าง แปะตัวอย่างนะครับ เช่นขยะเผาได้ พวกเศษอาหารใส่ถุงสีเหลือง ทิ้งเฉพาะวันอังคารกับวันศุกร์ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บขยะช่วง 7:30 - 9:00 (ปกติก็จะไปวางไว้ที่ทิ้งขยะในช่วงเย็นหลังเลิกงานไว้พรุ่งนี้เช้าเค้ามาเก็บ)
    การไปทำงาน---- ส่วนใหญ่นั้นเราจะได้รับจักรยานมาคนละคัน ซึ่งเค้าจะไม่อนุญาติให้เราใช้มอไซค์ หรือรถยนต์ส่วนตัวเด็ดขาด เพราะหากเกิดอุบัติเหตุมา มันจะส่งผลเสียหลายๆอย่าง เขาเลยตัดปัญหาไปคับ  3ปีนี้ ปั่นอย่างเดียวว
ปล.คิดออกเท่านี้หากมีคำถามเพิ่ม เดี๋ยวจะ edit เพิ่มในภายหลังนะครับ ^^

4. ในช่วงเวลา3ปี เราจะขอลากลับไทยได้มั้ย
    โดยที่ทราบกันดีว่า ญป จะมีช่วงหยุดยาว 3ช่วงนั่นคือ NewYear(1) - Golden Week(ต้นเดือน5) - Summer(เดือน8) ซึ่งจะได้หยุดยาวกันประมาณอาทิตย์นึง หลายคนก็คิดอยากกลับ... คำตอบคือได้ครับ แต่อยู่ที่เหตุผลด้วย ส่วนมากแล้วหากขอทางบริษัทแล้วทางบริษัทอนุญาติก็จะสามารถกลับได้ครับ แต่โดยส่วนตัวแล้ว กว่าจะได้มา หรือมาญป ทั้งที ก็เที่ยว ญป สิ !! ไทยตอนไหนก็ได้ !!

5. ค่าแรง หรือเงินเดือน
    โดยส่วนใหญ่นั้นทุกบริษัทจะต้องให้ค่าแรงตามที่กฏหมายญป กำหนดคือ ประมาณ 15x,xxxYen แต่ๆๆ คุณจะต้องจ่าย(หลายคนเรียกโดนหัก) แล้วจะเหลือเงินได้ หรือได้รับจริงๆคือ ประมาณ 100,000 Yen หรือประมาณ 3หมื่นบาท ณ เรท ปัจจุบัน 0.3 (ไม่รวมโอที) ซึ่งสิ่งที่คุณจะต้องจ่ายแต่ละเดือนมีอะไรบ้าง นั้นคือ
- ค่าหอพัก
- ค่าน้ำ+ไฟ+แก๊ส บริษัทผมนั้นให้ผมจ่าย 1หมื่นเยน คือบุฟเฟ่ไป เกินนั้นบริษัทออกให้
- ประกันต่างๆเช่น ประกันชราภาพ(เป็นเบี้ยที่เราจะได้รับคืนเมื่อกลับไทย แต่ก็ต้องจ่ายไปก่อน เป็นกฏหมาย) ,ประกันว่างงาน,ประกันรายได้
- ภาษีท้องถิ่น  ..... ประมาณนี้

6.  เมื่อเราทำได้เข้าปีที่ 2-3 เงินเดือนเขาขึ้นให้บ้างมั้ยครับ หรือเท่ากันตลอดระยะเวลา 3 ปี
    แต่ละปีนั้น เพิ่มครับ แต่เพิ่มไม่มากเท่าไร ผมก็ลืมแล้วว่าเพิ่มให้เท่าไร ขออภัยด้วยนะครับ ;w;

7. สถาพหอพักเป็นอย่างไร
    โดยปกติทั่วไปนั้น ก็จะเป็นห้องพักเหมือนตึกแถวทั่วๆไป แต่บริษัทผมนั้น พิเศษกว่าใครจะขออวดหน่อยในภายหลังนะครับ หารูปก่อน

ไม่แน่ใจว่าจะมีคำถามไหนคาใจท่านๆอีก หากมีคำถามไหนคาใจก็ถามเข้ามาได้เลยนะครับ ยินดีตอบให้คลายกังวล

ท้ายนี้ ขออนุญาติแชร์ความคิดส่วนตัวที่มีต่อโครงการนี้หน่อยนะครับ
     หากท่านๆไหนบอกว่า เงินแค่นี้อยู่ ญป ได้ยังไง ค่าใช้จ่ายเยอะแยะ ไม่พอเหลือพอเก็บหรอก ทำที่บ้านเราดีกว่า ทำที่นั้น นี่ดีกว่า...
โดยส่วยตัวนั้น ผมก็เด็กธรรมดา เรียนจบมาไม่มีความสามารถอะไรจะไปสมัครงานที่เงินเดือนดีๆ อย่างใครเขา ภาษาที่สอง อย่างภาษาอังกฤษนั้น ฝรั่งไม่เดินผ่านหน้าบ้านเลยครับ ต้องขอขอบคุณโครงการนี้มากๆ ที่ทำให้ผมสามารถมีเงินเก็บได้ขนาดนี้ จากเด็กพนักงานโรงแรมเงินเดือน 7-8พัน ไม่รุ้ชาตินี้จะได้มีเงินแสนเก็บมั้ย แต่ ณ ตอนนี้เงินเก็บผมมีพอสมควร หากครบสัญญา กลับไทยคงได้เปิดธุรกิจของตัวเองอยู่ที่บ้าน
    
      อีกอย่างที่มีค่ามากกว่าเงิน นั้นคือประสบการณ์ต่างๆที่นี่ ผมได้รับมากมาย ทำให้เติบโตขึ้นมากจริงๆ และได้เพื่อนใหม่มากมาย เปิดโลกให้ผมกว้างขึ้นมาก การได้ใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ ในประเทศที่ผมใฝ่ฝันเป็นฐานเดิมอยู่แล้ว บอกเลยว่าฟินมากๆ ได้เที่ยวเทศกาลต่างๆ ตามงานท้องถิ่นบ้าง งานใหญ่ที่โตเกียวบ้าง เรื่องการคมนาคม สะดวกรวดเร็ว ไปไหนมาไหนสะดวกสบายมากๆ  ผมเคยคิดว่าเมื่อเรา 30+แล้ว ชีวิตคงวนอยู่แค่กับเรื่องงาน และครอบครัว ชีวิตคงน่าเบื่อมาก ดังนั้นการที่ผมได้รับโอกาสครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณโครงการนี้จริงๆครับ เป็นประสบการณ์ชีวิตที่มีค่ามากๆครั้งนึงในชีวิตผู้ชายคนนี้ ขอขอบคุณจริงๆครับ หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมถามมาได้เลยนะครับ ยินดีแชร์ประสบการณ์ให้ทุกท่านครับ..

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่