ผมควรจะเลือกเส้นทางไหนดีครับ

เรื่องมีอยู่ว่า ฐานะทางบ้านผมไม่ค่อยดีนัก ผมจึงต้องการอาชีพที่ให้เงินกับผมได้จำนวนหนึ่งซึ่งต้องเป็นอาชีพสุจริต เข้าเรื่องเลยนะครับ

ตัวผมเองมีความใฝ่ฝันอยากเป็นอาชีพตำรวจหรือทหาร เพราะว่า มันมีสิ่งที่มันหาซื้อไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ การฝึก ยุทธวิธี เทคนิค กระบวนการคิด เช่น การแย่งปืน แย่งมีด หรือวิธีการรบ การเอาชีวิตรอดในป่า การซุ่มยิง การถอดประกอบปืน ซึ่งมันหาซื้อไม่ได้ครับ

ถามว่าทำไมถึงชอบ เพราะผมคิดว่า สิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่คุ้มค่าในชีวิตผม ภายในอนาคตต่อให้ผมไม่ได้ทำอาชีพดังกล่าว ผมก็สามารถประยุกต์ใช้ได้ ผมคงจะเสียใจมาก ถ้าสมมติ ผมเป็นพนักงานบริษัทธรรมดา แล้วบ้านผมโดนปล้นแต่ผมไม่สามารถทำอะไรได้เลย หรือ ที่แย่ไปกว่านั้นลูกเมียผมโดนข่มขืนแต่ผมไม่สามารถปกป้องได้ แต่ ถ้าผมเป็นทหารหรือตำรวจผมก็จะสามารถปกป้องได้และผมจะไม่เสียใจเลย

ชีวิตตอนมัธยมต้น
ผมเป็นเด็กที่เรียนวิชา วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ไม่เก่งเลย แต่ชอบในภาษาอังกฤษมากกว่า กับสังคม ข่าวสารบ้านเมือง และชอบอ่านกฎหมาย และผมอยากเป็นตำรวจ จึงมีคนแนะนำให้ผมไปสอบนายร้อยตำรวจ ซึ่งผมคิดว่ามันต้องดีแน่ๆ ประจวบเหมาะกับ ผมชอบกฎหมายและภาษาอังกฤษน่าจะไปได้ดี เพราะ ณ ตอนนั้นผมคิดว่า ตำรวจคงจะต้องทำหน้าที่สอบสวนส่งสำนวนให้อัยการและต้องใช้กฎหมาย หรือตำรวจท่องเที่ยว ตรวจคนเข้าเมืองก็ใช้ภาษาอังกฤษด้วย กองปราบก็ต้องยิงปืนให้แม่น มีทักษะรอบตัว ไหวพริบดี ซึ่งโดยส่วนตัวผมก็ชอบยิงปืนอยู่แล้ว

จุดหักเห ในตอนมัธยมต้น
พอก็ตั้งใจอ่านกฎหมายกับภาษาอังกฤษและฟิตร่างกาย พอผมไปสอบปรากฏว่า ข้อสอบเน้นไปที่คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ผมพอจะจำได้ว่า กฎหมายออกไม่ถึง ห้าข้อซึ่งแน่นอนผมมั่นใจว่าทำถูก ผมแทบจะน้ำตาซึม เพราะรู้อยู่แก่ใจแล้วว่าสอบไม่ติด คิดไม่ถึงเลยว่าต้องเก่งวิทย์ คณิตจึงจะเป็นตำรวจได้
ผมจึงไม่ประสบความสำเร็จในการสอบนายร้อยตำรวจ

ชีวิตมัธยมปลาย
ผมไปเห็นสอบนายสิบตำรวจซึ่งผมก็ได้ไปศึกษาอย่างชัดเจน และหาข้อสอบ แน่นอนครับมันไม่ยากมาก แต่ผมลองย้อนนึกดู ในเมื่อถ้าผมเป็นนายสิบ ผมก็ต้องมาเป็นลูกนน้องนายร้อย ซึ่งผมมั่นใจตัวเองว่า ด้านภาษาอังกฤษ กับกฎหมายผมไม่ได้ด้อยไปกว่าเลย ผมแพ้สองวิชาเท่านั้น และกว่าผมจะไต่เต้าได้ ก็นานโข ไหนจะเรื่องไม่นับรุ่นอีก ผมจึงสองจิตสองใจ

นายสิบทหารบก
ข้อสอบก็ไม่ยากนัก แต่ที่สำคัญคือมีโควตา 10อันดับแรก ไปโรงเรียนนายร้อยจปร. ซึ่งผมคิดว่าเป็นอะไรที่ดีมาก และข้อสอบสำหรับได้โควตานั้นเป็นวิชาทหาร ไม่ใช่อะไรที่นอกเรื่องและไม่ตรงสาย ยกตัวอย่างตำรวจต้องเก่งวิทยาศาสตร์ สงสัยต้องเขียนสูตรเคมีให้อัยการ(อันนี้ความคิด ณ ตอนนั้น) ผมว่าน่าสนใจ แต่ถ้าผมไม่ติดโควตาล่ะ ผมว่าหนักกว่าตำรวจคือ อาจจะแป๊กที่ จ่าสิบเอก หรือร้อยตรี ร้อยเอก แต่ถ้าตำรวจอายุ 53ชัวร์ๆว่าติดร้อยตำรวจตรี

โครงการ MAVNI ทหาอเมริกา
เงื่อนไขง่ายๆคือ ต้องไปอยู่อเมริกา 2ปี โดยไม่ออกประเทศเกิน 90วัน ซึ่งผมก็ยังคิดไม่ออกว่าจะอยู่อย่างไรให้ถึง 2ปีแบบไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งค่าตอบแทนก็คุ้มค่าและอาหารไม่ใช่ผักไร่ไก่โล อยู่กับประเทศที่เป็นมหาอำนาจของโลก ทหารที่เก่งที่สุดในโลกอีกด้วย สวัสดิการดีเยี่ยม ผู้คนให้เกียรติทหารไม่แบ่งชนชั้น

ทหารรับจ้างฝรั่งเศส
ผมเห็นข่าว จากนักวิทยาศาสตร์ไปเป็นทหารรับจ้างฝรั่งเศส และเพจที่พาไปสอบ ซึ่งผมว่าดีมากๆเงื่อนไขง่ายมาก แต่เงินเดือนน้อยกว่าอเมริกา สวัสดิการน้อยกว่านิดหน่อย เงินเดือนประมาณห้าหมื่นบาท กรณีประจำการประเทศฝรั่งเศส แต่นอกประเทศได้หนึ่งแสนห้าหมื่นบาท ซึ่งคุ้มค่าสุดๆ

นิติศาสตร์
เข้ามหาลัยคณะนิติศาสตร์ จบมาไปสอบเนติ ตั๋วทนาย เป็นทนาย2ปี ทำคดี20คดี แล้วไปสอบอัยการ แล้วหาเรียนหลักสูตรป้องกันตัวเอง

ถามทุกๆคนว่าผมควรไปทางใดดีครับ เครียดกับอนาคตมากครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่