เรื่องมีอยู่ว่า คุณพ่อผมได้เสียชีวิตลงเมื่อปี 2548 โดยทำพินัยกรรมไว้แต่งตั้งคุณแม่ผมเป็นผู้จัดการมรดก พร้อมทั้งระบุในพินัยกรรมว่า ให้ยกบ้านพร้อมที่ดิน ที่หมู่บ้าน แกรน คาแนลประชาชื่น พร้อมเงินสดอีก 20ล้านบาทให้กับน้องสาวต่างแม่ของผม ส่วนเหลือให้ยกให้คุณแม่ผมจัดการตามเห็นสมควร ซึ่งคุณแม่ได้จัดการตามพินัยกรรมครบถ้วนแล้ว โดยยกบ้านใหญ่ ตึกแถวที่สมุทรปราการ และเงินสดอีกจำนวนหนึ่งให้ผมโดยยังเหลือตึกแถวที่ถนนเจริญนคร ที่ดินที่หัวหิน ที่ดินที่ภูเก็ต ที่ดินที่ซอยอุดมสุข ที่ดินที่รังสิตคลอง 12 ที่ดินริมถนนกาญจนาที่ดินที่บางใหญ่ บ้านที่พัทยา บ้านที่ชะอำ ทองคำแท่งอีก20กิโลและเงินสดในบัญชีต่างๆอีก 167ล้านบาท

ต่อมาคุณแม่ผมป่วยด้วยโรคหัวใจและเสียชีวิตลงในวันที่ 9กันยายน 2558 หลังจากอยู่ในห้องไอซียูตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน โดยไปหมดสติอยู่ที่สำนักงานทนายความย่านถนนสุขุมวิท โดยมีพินัยกรรมออกมาว่า ยกที่ดินที่หัวหินจำนวน 2 แปลงและทองคำแท่งในตู้นิรภัยของธนาคารแห่งหนึ่งเป็นค่าจ้างทำพินัยกรรม และให้ค่าดำเนินการจัดการขายมรดกอีก 30ล้าน ซึ่งทนายคนนี้พลาดอย่างแรง โดยการลงบันทึกว่าพินัยกรรมฉบับนี้ทำขึ้นในวันที่ 5 กันยายน 2558 ทั้งๆที่คุณแม่ผมนอนอยู่ในห้องไอซียูตั้งแต่วันที่ 4 ผมสามารถทำอะไรได้บ้างครับ