dwell on sth (พิเศษ ถึงคุณป้าสาวเหลือน้อย)

กระทู้คำถาม
พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ว่า     เม่าฝึกจิต

อย่าจมกับอดีต  อย่าเพ้อฝันถึงอนาคต  ทำวันนี้ให้ดีที่สุด


ต่อมาก็เกิดภาษิตภาษาอังกฤษว่า   don't  dwell  in  the  past, don't  dream  of  the  future.



วันนี้   สังคมไทย  เหมือนเป็นสังคมหยุดเวลาถวิลหาอดีต  เป็นอดีตอันหอมหวานของใครไม่รู้
แม้วิทยาการ  เทคโนโลยี  ความคิด  สภาพการณ์  ฯลฯ   จะเปลี่ยนแปลงแตกต่างไปจากอดีตมากก็ตาม
แต่ดูเหมือนมีความพยายามทำให้สังคมไทยโดยรวม  ย้อนกลับไปอยู่ในกาลอดีต

ผลก็คือ   กลายเป็นสังคมติดหล่มแหง่กอยู่กับความย้อนแย้งไปซะแล้ว  
ย้อนแย้งแฝงฝังความแตกต่างทางความคิดอย่างหนัก

ดูสิ  เนติวิทย์แค่ขยับ   ก็สั่นสะเทือนไปครึ่งสังคม

จึงรู้สึกว่า  สังคมไทยเรากำลังนั่งทับระเบิดเวลา  รอวันที่จะตูม ระเบิดระบายความอัดอั้น
ทำลายความย้อนแย้งที่รัดรึงให้แตกกระจาย    มาแน่  ไม่นานเกินรอ     


ขณะเดียวกัน  ก็ฝันเฟื่องถึงอนาคต
ทั้งที่แนวทางสู่อนาคตนั้น   เป็นการใช้ระบบอนาล็อกล็อคแนวทางสู่ระบบดิจิตอลยังไงยังงั้น   รุ่งริ่งเห็น ๆ

และวันนี้   ไม่ใช่ช่วงเวลาเป๊บซี่ซะอีก
แต่เป็นช่วงเวลากล้ำกลืนฝืนเฝื่อนกับบรเพ็ดเข็ดขม


เรียกว่า  พุทธพจน์     อย่าจมกับอดีต  อย่าเพ้อฝันถึงอนาคต  ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
ใช้ได้ในทุกสถานที่  ทุกสภาวะ  ทุกกาล     ยกเว้นไต๊แลนด์



ขี้เกียจคิด
คือเยอะ  ทั้งความคิด  ทั้งเนื้อหา  ทั้งเหตุผล  มูลเหตุของสถานการณ์ และสภาวการณ์

แต่ขี้เกียจคิด ที่จะถ่ายทอดโพสต์ออกมาแบบเนียน ๆ เพื่อให้ทู้อยู่ได้



สังคมไทยวันนี้   เป็นสังคม จ่ม         

ไปไหนมาไหน  ก็ได้ยินแต่เสียง  จ่ม
ตั้งแต่ระดับแม้ค้าแผงพื้นตลาดเช้าเย็น  ถึงร้านค้าร้านขายทุกประเภท   หน้าผากย่นคิ้วขมวดกันไปหมด

จ่มกันตรึม
สู้ร้านแกแฟเสี่ยเกียนไม่ได้สักเจ้า  




กระทู้นี้   จึงไม่มีอะไร   นอกจากอินเทรนด์อาการ  dwell  on  sth  เท่านั้นครับ

เด๋วจะหาว่าหล่อไม่ 4.0   หรือไม่เป็น  active  citizen
OK




[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่