#ช่วงคิดวิเคราะห์แยกแยะ #XfactorThailand
1. ผมเพิ่งดูคลิปจบ ได้แต่ละเหี่ยใจ ถ้าเทียบกับ UK ถือว่าห่างชั้นกันมาก ขนาด TheStars ยังสนุกกว่าในบางจุด เวอร์ชั่นไทยยังขาด factor อีกหลายอย่าง อาทิเช่น
2. ที่สะดุดสุด คงเป็นเพลงประกอบรายการ ที่เวอร์ชั่น uk จะเลือกเพลงสรุปของผู้แข่งแต่ละคนดีกว่า ใช้เพลงฮิตให้กำลังใจฮึกเหิมจากศิลปินดังมาสรุป แต่เวอร์ชั่นเมืองไทย ใช้เพลงประกอบทำเองสไตล์got talent จ้า เลยไม่ peak (อาจจะประหยัดงบค่าลิขสิทธิ์มั้ง) ฟังเผินๆผมว่า super10 ยังสรุปได้ peak กว่าด้วยซ้ำ
3. รายการไม่ได้พยายามเฟ้นหานักร้องเพื่อออกเทปจริง อย่าง uk แม้ไซม่อนจะโหด แต่จุดประสงค์คือเพื่อเฟ้นหานักร้องที่ออกเทปได้ อันนี้แม้แต่เมืองนอกเมื่อเทียบกับ the voice ผู้ชนะเลิศจึงมีเส้นทางที่ต่างกันชัดเจน เพราะ the voice เน้นเป็นแค่เกมโชว์ จบซีซั่นก็จบกัน ซึ่งแตกต่างจาก x factor ที่ตั้งใจหาศิลปินตัวจริง
4. อันนี้รวมถึงอำนาจการตัดสินใจของกรรมการด้วย ที่เมืองนอก แม้จะโหด แต่ถ้าใครใช้ได้ จะไม่ทิ้งเด็ดขาด (ขนาด 1d ยังเกิดจากนักร้องเดี่ยวเอามารวมกลุ่มกันเฉยเลย คือไซม่อนตาถึงมาก) ผมนึกถึงสมัย the stars กรรมการอย่างเพชร มาร์ พี่โจ้ หรือแม้แต่พี่ม้า เขายังสามารถมองก้อนหินว่า คนไหนพอจะเจียระไนเป็นเพชรได้ ผลงานก็เห็นหลายคน อย่างบี้ โตโน่ ริท เป็นต้น
5. ผมไม่มั่นใจว่า x factor เมืองไทย เอา know how อะไรจากเมืองนอกมาบ้าง แต่เท่าที่ดู ผมว่ารายการมีภาพลักษณ์ของ got talent มากเกินไป ซึ่งของ uk เขาสามารถก้าวข้ามจุดนั้นมาได้ (ทั้งๆที่คอนเซปต์ก็คล้ายกันมากๆ) ไม่รู้เพราะพิธีกร หรือเพราะทีมงานที่น่าจะชุดเดียวกับ workpoint got talent รึเปล่า จนผมคิดว่าจะเสียค่าลิขสิทธิ์ทำไมนะถ้าจะทำแบบนี้
6. การเตรียมศิลปิน คือบางคนคุณปล่อยให้เขาขึ้นเวทีแบบไม่จัดเต็มเท่าที่ควร บางคนหน้ามัน หน้าเยินมากกก คือไม่ใช่ว่ารายการต้องแต่งหน้าทำผมให้ แต่ทีมงานสามารถแนะนำ หรือ motivate ให้คนแข่งทุ่มเทกับภาพลักษณ์ให้มากกว่านี้ เพราะนี่คือ first impression ของกรรมการกับผู้แข่งเลยนะ (คือของ uk หรือ the stars af ของไทย คนแข่งรอบแรกแม้บางคนจะแต่งออกมาหัวมังกุดท้ายมังกร แต่รู้เลยว่าพยายาม ไม่มักง่ายเกินแบบนี้)
7. ผมไม่แน่ใจว่า x factor thailand จะจัดทีมแบบเมืองนอกรึเปล่า ที่แบ่งเป็น 4 ทีม ชาย หญิง กรุ๊ฟ และกลุ่มผู้ใหญ่ แต่ถ้าแบ่งจริง ผมไม่แน่ใจว่าจะตอบโจทย์กับวงการเพลงเมืองไทยไหม ต้องยอมรับว่าตลาด uk ศิลปินท้ั้ง 4 กลุ่มมีตลาดรองรับชัดเจน แต่เมืองไทยมันไม่ใช่ ถ้าแบ่งเป็นสายวัยรุ่น/ ลูกทุ่ง/ diva /group อาจจะเหมาะกว่า(มั้ง) อาจจะดีกว่าการประกวดยุคก่อนๆ ที่เอาศิลปินสายลูกทุ่ง มาบังคับร้องร็อค - เอาสายร็อคมาร้องลูกทุ่ง - หรือเอาสาย diva มาร้อง rab จนคะแนนโหวดตกต่ำตกรอบเพราะไม่ใช่แนวถนัด (ถ้าเขาจะร้อง เขาน่าจะเป็นคนเลือกที่อยากจะโชว์อีกด้านเองสิ ถึงจะถูก) (ประเด็นนี้ผมว่าอาจจะแปลกไปหน่อย แต่ผมรู้สึกมาตั้งนานแล้ว ขอออกความเห็นหน่อยนะครับ)
8. ประเด็นนักร้องหน้าซ้ำ ทั้ง i can see หรือรายการอะไรก็ตาม ส่วนตัวผมไม่ซีเรียสนะ ใจคอจะให้คน 1คน ทั้งชีวิตขึ้นเวทีเดียวเลยเหรอ ทุกคนต้องการพื้นที่ สนามแข่งสำหรับการเติบโตทั้งนั้น นักร้องดังๆหลายคนในเมืองไทย ส่วนใหญ่ก็แข่งกันมาร่วมร้อยเวทีทั้งนั้น ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะใช้นักร้องหน้าซ้ำไปซ้ำมา (แต่ก็ควรจะคัดคนที่มีพัฒนาการ ไม่ใช่เอาแนวคุณภาพต่ำ มาให้ขบขันเป็นตัวตลกคั่นเวลา จริงๆรายการ uk ก็ใช้มุขนี้บ้าง แต่ไม่ฝืดขนาดนี้)
9. ด้านกรรมการ ส่วนตัวผมว่าก็โอเคนะ การพูดความจริง และแสดงออกแบบตรงไปตรงมาตามความคิดของตัวเอง ตรงนี้แหละคือเสน่ห์ของ x factor แบบ uk (แต่ที่ขาด อาจจะเป็นอำนาจในการเปลี่ยนกติกาบางอย่างเพื่อการผลักดันศิลปินให้เจิดจรัสมากขึ้นแบบไซม่อน ก็หวังว่าทีมงานคงเปิดช่องให้กรรมการใช้ลูกเล่นเซอร์ไพรซ์คนดู ไม่จำเป็นต้องเป๊ะตามกติกามากก็ได้ ถ้าเพื่อเป็นการสร้างศิลปินดาวดวงใหม่ในวงการ)
10. สิ่งที่ผมอยากเห็นใน x factor มากสุด คือการสร้างโอกาส และผลักดันศิลปินอย่างจริงจังต่อเนื่อง มากกว่าการเป็นแค่เกมโชว์ พอกระแสหมด ก็เริ่มปั้น cycle ใหม่มาแทนแบบที่หลายรายการ (แม้แต่เมืองนอกก็เถอะ) นิยมทำกัน / เมืองไทยผมยังจำสมัยแก้ม the stars ที่ชนะเลิศ และทางค่ายมอบโอกาสให้เธอเติบโตอย่างสม่ำเสมอ จนปัจจุบันเป็น diva อันดับต้นๆของเมืองไทยได้ ถ้า x factor thailand สามารถทำแบบนี้ได้ คงจะดีมากๆเลย
ปล. ล่าสุดมีแอ็ป doonee เอา x factor season 13 เอามาลงแล้ว (ข้อมูลตามลิงค์นี้ครับ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://goo.gl/y1YaZA ตอนนี้มี ep1-2 (เดี๋ยวคงทยอยลงจนครบมั้ง) จากการดูทดสอบผ่าน chromecast (ที่ผมเคยรีวิวเมื่อคราวก่อน
https://goo.gl/VVK9dY ) ถือว่าภาพคมชัด ซับสวยกว่าสมัยที่ดูทาง truevision ช่อง HD RTL entertainment ภาพชัดสีอิ่มสดสวยคนละชั้นกันเลย เท่าที่ดูยังไม่มีกระตุกนะ ถือว่า support กับ chromecast ได้ดีมากเลย
แต่บอกตรงๆ พอยิ่งมาดูซ้ำเทียบกับของไทย ก็อยากเป็นกำลังใจให้ทีมงานไทยสามารถพัฒนาได้ดีมากยิ่งขึ้นไปกว่านี้ (และอาจดีกว่าเมืองนอกในหลายประเด็นเหมือนที่หลายรายการของ wp สามารถพิสูจน์ตัวเองได้มาแล้ว เป็นกำลังใจให้ครับ)
#ช่วงคิดวิเคราะห์แยกแยะ #XfactorThailand ผมเพิ่งดูคลิปจบ ได้แต่ละเหี่ยใจ ถ้าเทียบกับ UK ถือว่าห่างชั้นกันมาก
1. ผมเพิ่งดูคลิปจบ ได้แต่ละเหี่ยใจ ถ้าเทียบกับ UK ถือว่าห่างชั้นกันมาก ขนาด TheStars ยังสนุกกว่าในบางจุด เวอร์ชั่นไทยยังขาด factor อีกหลายอย่าง อาทิเช่น
2. ที่สะดุดสุด คงเป็นเพลงประกอบรายการ ที่เวอร์ชั่น uk จะเลือกเพลงสรุปของผู้แข่งแต่ละคนดีกว่า ใช้เพลงฮิตให้กำลังใจฮึกเหิมจากศิลปินดังมาสรุป แต่เวอร์ชั่นเมืองไทย ใช้เพลงประกอบทำเองสไตล์got talent จ้า เลยไม่ peak (อาจจะประหยัดงบค่าลิขสิทธิ์มั้ง) ฟังเผินๆผมว่า super10 ยังสรุปได้ peak กว่าด้วยซ้ำ
3. รายการไม่ได้พยายามเฟ้นหานักร้องเพื่อออกเทปจริง อย่าง uk แม้ไซม่อนจะโหด แต่จุดประสงค์คือเพื่อเฟ้นหานักร้องที่ออกเทปได้ อันนี้แม้แต่เมืองนอกเมื่อเทียบกับ the voice ผู้ชนะเลิศจึงมีเส้นทางที่ต่างกันชัดเจน เพราะ the voice เน้นเป็นแค่เกมโชว์ จบซีซั่นก็จบกัน ซึ่งแตกต่างจาก x factor ที่ตั้งใจหาศิลปินตัวจริง
4. อันนี้รวมถึงอำนาจการตัดสินใจของกรรมการด้วย ที่เมืองนอก แม้จะโหด แต่ถ้าใครใช้ได้ จะไม่ทิ้งเด็ดขาด (ขนาด 1d ยังเกิดจากนักร้องเดี่ยวเอามารวมกลุ่มกันเฉยเลย คือไซม่อนตาถึงมาก) ผมนึกถึงสมัย the stars กรรมการอย่างเพชร มาร์ พี่โจ้ หรือแม้แต่พี่ม้า เขายังสามารถมองก้อนหินว่า คนไหนพอจะเจียระไนเป็นเพชรได้ ผลงานก็เห็นหลายคน อย่างบี้ โตโน่ ริท เป็นต้น
5. ผมไม่มั่นใจว่า x factor เมืองไทย เอา know how อะไรจากเมืองนอกมาบ้าง แต่เท่าที่ดู ผมว่ารายการมีภาพลักษณ์ของ got talent มากเกินไป ซึ่งของ uk เขาสามารถก้าวข้ามจุดนั้นมาได้ (ทั้งๆที่คอนเซปต์ก็คล้ายกันมากๆ) ไม่รู้เพราะพิธีกร หรือเพราะทีมงานที่น่าจะชุดเดียวกับ workpoint got talent รึเปล่า จนผมคิดว่าจะเสียค่าลิขสิทธิ์ทำไมนะถ้าจะทำแบบนี้
6. การเตรียมศิลปิน คือบางคนคุณปล่อยให้เขาขึ้นเวทีแบบไม่จัดเต็มเท่าที่ควร บางคนหน้ามัน หน้าเยินมากกก คือไม่ใช่ว่ารายการต้องแต่งหน้าทำผมให้ แต่ทีมงานสามารถแนะนำ หรือ motivate ให้คนแข่งทุ่มเทกับภาพลักษณ์ให้มากกว่านี้ เพราะนี่คือ first impression ของกรรมการกับผู้แข่งเลยนะ (คือของ uk หรือ the stars af ของไทย คนแข่งรอบแรกแม้บางคนจะแต่งออกมาหัวมังกุดท้ายมังกร แต่รู้เลยว่าพยายาม ไม่มักง่ายเกินแบบนี้)
7. ผมไม่แน่ใจว่า x factor thailand จะจัดทีมแบบเมืองนอกรึเปล่า ที่แบ่งเป็น 4 ทีม ชาย หญิง กรุ๊ฟ และกลุ่มผู้ใหญ่ แต่ถ้าแบ่งจริง ผมไม่แน่ใจว่าจะตอบโจทย์กับวงการเพลงเมืองไทยไหม ต้องยอมรับว่าตลาด uk ศิลปินท้ั้ง 4 กลุ่มมีตลาดรองรับชัดเจน แต่เมืองไทยมันไม่ใช่ ถ้าแบ่งเป็นสายวัยรุ่น/ ลูกทุ่ง/ diva /group อาจจะเหมาะกว่า(มั้ง) อาจจะดีกว่าการประกวดยุคก่อนๆ ที่เอาศิลปินสายลูกทุ่ง มาบังคับร้องร็อค - เอาสายร็อคมาร้องลูกทุ่ง - หรือเอาสาย diva มาร้อง rab จนคะแนนโหวดตกต่ำตกรอบเพราะไม่ใช่แนวถนัด (ถ้าเขาจะร้อง เขาน่าจะเป็นคนเลือกที่อยากจะโชว์อีกด้านเองสิ ถึงจะถูก) (ประเด็นนี้ผมว่าอาจจะแปลกไปหน่อย แต่ผมรู้สึกมาตั้งนานแล้ว ขอออกความเห็นหน่อยนะครับ)
8. ประเด็นนักร้องหน้าซ้ำ ทั้ง i can see หรือรายการอะไรก็ตาม ส่วนตัวผมไม่ซีเรียสนะ ใจคอจะให้คน 1คน ทั้งชีวิตขึ้นเวทีเดียวเลยเหรอ ทุกคนต้องการพื้นที่ สนามแข่งสำหรับการเติบโตทั้งนั้น นักร้องดังๆหลายคนในเมืองไทย ส่วนใหญ่ก็แข่งกันมาร่วมร้อยเวทีทั้งนั้น ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะใช้นักร้องหน้าซ้ำไปซ้ำมา (แต่ก็ควรจะคัดคนที่มีพัฒนาการ ไม่ใช่เอาแนวคุณภาพต่ำ มาให้ขบขันเป็นตัวตลกคั่นเวลา จริงๆรายการ uk ก็ใช้มุขนี้บ้าง แต่ไม่ฝืดขนาดนี้)
9. ด้านกรรมการ ส่วนตัวผมว่าก็โอเคนะ การพูดความจริง และแสดงออกแบบตรงไปตรงมาตามความคิดของตัวเอง ตรงนี้แหละคือเสน่ห์ของ x factor แบบ uk (แต่ที่ขาด อาจจะเป็นอำนาจในการเปลี่ยนกติกาบางอย่างเพื่อการผลักดันศิลปินให้เจิดจรัสมากขึ้นแบบไซม่อน ก็หวังว่าทีมงานคงเปิดช่องให้กรรมการใช้ลูกเล่นเซอร์ไพรซ์คนดู ไม่จำเป็นต้องเป๊ะตามกติกามากก็ได้ ถ้าเพื่อเป็นการสร้างศิลปินดาวดวงใหม่ในวงการ)
10. สิ่งที่ผมอยากเห็นใน x factor มากสุด คือการสร้างโอกาส และผลักดันศิลปินอย่างจริงจังต่อเนื่อง มากกว่าการเป็นแค่เกมโชว์ พอกระแสหมด ก็เริ่มปั้น cycle ใหม่มาแทนแบบที่หลายรายการ (แม้แต่เมืองนอกก็เถอะ) นิยมทำกัน / เมืองไทยผมยังจำสมัยแก้ม the stars ที่ชนะเลิศ และทางค่ายมอบโอกาสให้เธอเติบโตอย่างสม่ำเสมอ จนปัจจุบันเป็น diva อันดับต้นๆของเมืองไทยได้ ถ้า x factor thailand สามารถทำแบบนี้ได้ คงจะดีมากๆเลย
ปล. ล่าสุดมีแอ็ป doonee เอา x factor season 13 เอามาลงแล้ว (ข้อมูลตามลิงค์นี้ครับ) [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ตอนนี้มี ep1-2 (เดี๋ยวคงทยอยลงจนครบมั้ง) จากการดูทดสอบผ่าน chromecast (ที่ผมเคยรีวิวเมื่อคราวก่อน https://goo.gl/VVK9dY ) ถือว่าภาพคมชัด ซับสวยกว่าสมัยที่ดูทาง truevision ช่อง HD RTL entertainment ภาพชัดสีอิ่มสดสวยคนละชั้นกันเลย เท่าที่ดูยังไม่มีกระตุกนะ ถือว่า support กับ chromecast ได้ดีมากเลย
แต่บอกตรงๆ พอยิ่งมาดูซ้ำเทียบกับของไทย ก็อยากเป็นกำลังใจให้ทีมงานไทยสามารถพัฒนาได้ดีมากยิ่งขึ้นไปกว่านี้ (และอาจดีกว่าเมืองนอกในหลายประเด็นเหมือนที่หลายรายการของ wp สามารถพิสูจน์ตัวเองได้มาแล้ว เป็นกำลังใจให้ครับ)