เมื่อ 2-3 วัน ที่ผ่านมาช่วงบ่ายๆ ผมเอารถเข้าไปใช้บริการที่อู่แห่งหนึ่ง หลังจากเล่าอาการเสียให้ช่างฟัง แล้วก็สอบถามราคาค่าซ่อมเสร็จเรียบร้อยก็ OK ตกลงซ่อม เฮียที่ดูน่าจะเป็นเจ้าของอู่ ก็เรียกลูกน้องมาจัดการรื้อ ถอดรถผม ผมยืนดูช่างทำอยู่สักพักก็เดินออกมาหาที่นั่งรอ ที่โต๊ะหินอ่อนด้านข้างของอู่ เพราะเฮียแกบอกประมาณ 2 ชั่วโมงเสร็จ ผมก็เลยรอ ืเพราะไม่รู้จะกลับยังไง ไม่ได้บอกให้ใครมารับด้วย
ระหว่างที่นั่งรอไปเกือบชั่วโมงได้ ก็นั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยเปื่อย สักพักก็มีรถปิ๊กอัพ มาจอดหน้าอู่ มีผู้ชายลงจากรถมา 2 คน คนหนึ่งแต่งชุดฟอร์มของศูนย์บริการรถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง และอีกคนใส่เสื้อยืดคอกลม แต่กางเกงก็เป็นกางเกงชุดฟอร์มของศูนย์บริการเหมือนกัน เดินผ่านผมไปหาเฮียเจ้าของอู่ ที่นั่งอยู่ในร้าน และน่าจะรู้จักกัน เพราะดูคุ้นเคยกันดี ผมก็ไม่ได้สนใจนั่งเล่นโทรศัพท์ต่อ ซักพักเฮียเจ้าของอู่ ก็ลุกเดินตามช่างศูนย์ 2 คนมาที่รถกะบะ ยืนคุยกันที่ท้ายรถกะบะพักหนึ่ง แล้วช่างศูนย์ 2 คนก็ช่วยกันยกลังสีน้ำตาลขนาดลังเบียร์จากท้ายรถ แล้วก็ถุงพลาสติกขนาดถุงโลตัส 1 ใบ สังเกตุในถุงแบบไม่ได้ตั้งใจมอง เพราะถุงมันใส่ ก็เห็นเป็นอะไหล่รถที่ยังไม่ได้แกะห่อพลาสติกเลย เพราะฉนั้นเดาว่าที่อยู่ในลัง ก็น่าจะเป็นอะไหล่รถเหมือนกัน
ถ้ามองในแง่ร้าย ก็คงเดาได้ว่ามันเอาอะไหล่จากศูนย์ออกมาขายให้อู่ เพราะถ้าอู่จะซื้ออะไหล่ ก็น่าจะไปซื้อที่ศูนย์เอง คงไม่มีศูนย์ไหนใจดีเอามาส่งให้ถึงที่แน่ๆ เลยเอามาเล่าให้ฟังเป็นข้อระวัง เวลาเอารถเข้าใช้บริการที่ศูนย์ ถ้าหากต้องมีการเปลี่ยนอะไหล่ ก็ให้ขออะไหล่เก่ากลับมาเป็นที่ระลึกด้วยก็น่าจะดี อย่างน้อยก็พอมั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่าช่างเปลี่ยนอะไหล่ให้เรา เพราะเหตุการณ์ที่ผมเห็น มันทำให้เชื่อได้ว่า บางครั้งเราสั่งให้เปลี่ยนอะไหล่ แต่ช่างไม่ได้เปลี่ยนมันน่าจะมีจริงๆ
ที่เล่ามาทั้งหมดไม่ได้มีเจตนาจะกล่าวหาค่ายรถค่ายใด และศูนย์บริการที่ไหน แต่ที่เล่ามาทั้งหมดน่าจะมาจากความ
ของช่างล้วนๆเลยครับ(แต่ช่างดีๆก็มีนะครับ)
ปล. รูปถ่ายกับคลิปไม่มี โทรศัพท์ก็อยู่ในมือ แต่คิดไม่ทัน...
ซ่อมรถที่ศูนย์บริการ "อย่าลืม!!!" ขออะไหล่เก่ากลับมาด้วย
ระหว่างที่นั่งรอไปเกือบชั่วโมงได้ ก็นั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยเปื่อย สักพักก็มีรถปิ๊กอัพ มาจอดหน้าอู่ มีผู้ชายลงจากรถมา 2 คน คนหนึ่งแต่งชุดฟอร์มของศูนย์บริการรถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง และอีกคนใส่เสื้อยืดคอกลม แต่กางเกงก็เป็นกางเกงชุดฟอร์มของศูนย์บริการเหมือนกัน เดินผ่านผมไปหาเฮียเจ้าของอู่ ที่นั่งอยู่ในร้าน และน่าจะรู้จักกัน เพราะดูคุ้นเคยกันดี ผมก็ไม่ได้สนใจนั่งเล่นโทรศัพท์ต่อ ซักพักเฮียเจ้าของอู่ ก็ลุกเดินตามช่างศูนย์ 2 คนมาที่รถกะบะ ยืนคุยกันที่ท้ายรถกะบะพักหนึ่ง แล้วช่างศูนย์ 2 คนก็ช่วยกันยกลังสีน้ำตาลขนาดลังเบียร์จากท้ายรถ แล้วก็ถุงพลาสติกขนาดถุงโลตัส 1 ใบ สังเกตุในถุงแบบไม่ได้ตั้งใจมอง เพราะถุงมันใส่ ก็เห็นเป็นอะไหล่รถที่ยังไม่ได้แกะห่อพลาสติกเลย เพราะฉนั้นเดาว่าที่อยู่ในลัง ก็น่าจะเป็นอะไหล่รถเหมือนกัน
ถ้ามองในแง่ร้าย ก็คงเดาได้ว่ามันเอาอะไหล่จากศูนย์ออกมาขายให้อู่ เพราะถ้าอู่จะซื้ออะไหล่ ก็น่าจะไปซื้อที่ศูนย์เอง คงไม่มีศูนย์ไหนใจดีเอามาส่งให้ถึงที่แน่ๆ เลยเอามาเล่าให้ฟังเป็นข้อระวัง เวลาเอารถเข้าใช้บริการที่ศูนย์ ถ้าหากต้องมีการเปลี่ยนอะไหล่ ก็ให้ขออะไหล่เก่ากลับมาเป็นที่ระลึกด้วยก็น่าจะดี อย่างน้อยก็พอมั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่าช่างเปลี่ยนอะไหล่ให้เรา เพราะเหตุการณ์ที่ผมเห็น มันทำให้เชื่อได้ว่า บางครั้งเราสั่งให้เปลี่ยนอะไหล่ แต่ช่างไม่ได้เปลี่ยนมันน่าจะมีจริงๆ
ที่เล่ามาทั้งหมดไม่ได้มีเจตนาจะกล่าวหาค่ายรถค่ายใด และศูนย์บริการที่ไหน แต่ที่เล่ามาทั้งหมดน่าจะมาจากความของช่างล้วนๆเลยครับ(แต่ช่างดีๆก็มีนะครับ)
ปล. รูปถ่ายกับคลิปไม่มี โทรศัพท์ก็อยู่ในมือ แต่คิดไม่ทัน...