ในยุคสมัยที่ตั๋วเข้าไปดูภาพยนต์ราคา 220 บาท ยุคสมัยที่เราหรือใครๆแทบจะแย่งสิทธิ์พิเศษในการดูหนังถูกได้น้อยลง การอ่านรีวิวประกอบการตัดสินใจเพื่อไปดูหนัง อย่างน้อยๆก็เป็นหลักประกันว่าเราจะไม่ต้องเสียดายเงินที่จะเสียไปกับหนังที่กำลังจะดู เพจรีวิวหนัง รีวิวภาพยนต์ จึงเกิดขึ้นมาด้วยปวงนี้นั้นเอง
แต่ที่นี้...มันก็กลายเป็นดาบสองคม
เพราะคนสองคน...รสนิยมและความชอบดันไม่เท่ากัน
ผมมองงี้นะ ผมมองว่ามนุษย์เรา ล้วน แ ต ก ต่ า ง กัน ความชอบของแต่ละคนย่อมหล่อหลอมกันมาต่างกัน ทั้งภูมิหลัง (background) รสนิยม ระดับการศึกษา (มีผลต่อการดูภาพยนต์ เพราะภาพยนต์บางเรื่อง การที่เคยผ่านการศึกษามาย่อมทำให้เข้าใจหรือเกทพอยท์ของหนังได้ดีกว่าก็มี) อายุ สิ่งที่เคยประสบมาในชีวิต ความถี่ในการชมภาพยนต์ และการคิดวิเคราะห์ รวมไปถึงโลจิคต่างๆ
อ้าว แล้วงี้ เราจะเลือกเพจรีวิวเพจไหนที่จะมาเป็นไกด์ไลน์ให้กับเราดีละ?
ง่ายมากครับ คุณเสิร์จแล้วหาเพจที่คุณคิดว่าตัวเองชอบ ลองกดอ่านรีวิวเก่าๆ แล้วลองดูตามนี้ครับ
-รีวิวไหนที่คุณชอบ - แอดมินให้คะแนนเยอะ - ลองดู
-รีวิวไหนที่คุณไม่ชอบ - แอดมินให้คะแนนน้อย - ลองดู
ถ้าผลออกมาตรงกันทั้งสองทาง ทั้งชอบแบบแอดมิน และ ไม่ชอบแบบแอดมิน ก็เก็บเพจรีวิวเพจนั้นไว้
แต่ถ้าออกมาเป็นชอบเรื่องเดียวกัน แต่ เรื่องที่แอดมินเพจนี้ไม่ชอบ เราดันชอบ ก็เก็บไว้เป็นตัวเลือกเวลาอ่านรีวิว ไม่ต้องถึงขนาดไกด์ไลน์
เพราะคนเราแตกต่างกัน รสนิยมและชั้นเชิงในการดูหนังต่างกัน
หาแฟนเพจที่มีจริตการดูหนังที่ตรงกันกับเรา เพจแต่ละเพจชอบหนังไม่เหมือนกันหรอกคู๊ณณณ ตามเท่าที่มนุษย์ยังเป็นมนุษย์ ไม่มีใครปราศจากอคติได้ 100 % หรอกนะครับ (อคติทั้งในแง่ของตัวบุคคลตลอดไปจนถึงทีมกำกับทีมทำงาน ฯลฯ)
ขนาดหนังตลก บางคนยังชอบแบบมุกธรรมดาๆ มุกเก่าๆ มุกไทยๆ แค่นั้นเขาก็มีความสุขแล้ว
ในขนาดที่บางคน (เช่นผม) ชอบอะไรที่มันบียอนด์มากกว่านั้น มุกมันต้องเป็นมุกหน้าตาย ต้องเป็นหนังสเกลที่ดูแล้วเออ คุ้มกับเงินที่เสียไป
มันกำหนดอะไรไม่ได้จริงๆครับ ในโลกของการวิพากษ์วิจารณ์หนัง มันต้องมีทั้งหนังที่ถูกจริตและไม่ถูกจริตเราเช่นใด การวิจารณ์มันก็ต้องมีทั้งที่ถูกใจและผิดหวังเช่นนั้น
อย่าาาาาาาาา ไล่ให้ใครไปกำกับภาพยนต์เองเพียงเพราะเขาให้คะแนนภาพยนต์ที่คุณคาดหวังน้อย
มาตรฐานของแต่ละคนไม่เท่ากัน คุณพอใจที่จะกินอาหารเท่านี้ แต่กับคนวิจารณ์มันอาจจะไม่ใช่ไง
ซึ่งแมร่ง มันไม่ผิดเว้ยถ้าคุณจะพอใจกับข้าวไข่เจียวตรงหน้า แต่ไอ้คนที่อยากกินข้าวไข่เจียวทองคำก็ไม่ผิดเช่นกัน
สำคัญที่สุดคือ ต่อให้คะแนนมันออกมาน้อยยยยยยยยยยย ต่ำเตี่ยเรียดินเท่าไหร่
แต่สุดท้ายถ้าคุณจะไปดูจริงๆ มันก็ไม่มีใครว่าคุณได้รึเปล่าครับ?
ตื่นเหอะ เลิกป่วยนะครับ มันก็แค่การแสดงความคิดเห็นของแต่ละคน ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงไม่สามารถยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ของหนังแต่ละเรื่องได้ หรือเพราะแค่ว่าเราไม่สามารถยอมรับความคิดเห็นต่างของคนอื่นได้เท่านั้นเอง?
แนะนำวิธีเลือกเพจรีวิวหนังที่ตรงสไตล์คุณ เพราะเราล้วน แ ต ก ต่ า ง กัน
แต่ที่นี้...มันก็กลายเป็นดาบสองคม
เพราะคนสองคน...รสนิยมและความชอบดันไม่เท่ากัน
ผมมองงี้นะ ผมมองว่ามนุษย์เรา ล้วน แ ต ก ต่ า ง กัน ความชอบของแต่ละคนย่อมหล่อหลอมกันมาต่างกัน ทั้งภูมิหลัง (background) รสนิยม ระดับการศึกษา (มีผลต่อการดูภาพยนต์ เพราะภาพยนต์บางเรื่อง การที่เคยผ่านการศึกษามาย่อมทำให้เข้าใจหรือเกทพอยท์ของหนังได้ดีกว่าก็มี) อายุ สิ่งที่เคยประสบมาในชีวิต ความถี่ในการชมภาพยนต์ และการคิดวิเคราะห์ รวมไปถึงโลจิคต่างๆ
อ้าว แล้วงี้ เราจะเลือกเพจรีวิวเพจไหนที่จะมาเป็นไกด์ไลน์ให้กับเราดีละ?
ง่ายมากครับ คุณเสิร์จแล้วหาเพจที่คุณคิดว่าตัวเองชอบ ลองกดอ่านรีวิวเก่าๆ แล้วลองดูตามนี้ครับ
-รีวิวไหนที่คุณชอบ - แอดมินให้คะแนนเยอะ - ลองดู
-รีวิวไหนที่คุณไม่ชอบ - แอดมินให้คะแนนน้อย - ลองดู
ถ้าผลออกมาตรงกันทั้งสองทาง ทั้งชอบแบบแอดมิน และ ไม่ชอบแบบแอดมิน ก็เก็บเพจรีวิวเพจนั้นไว้
แต่ถ้าออกมาเป็นชอบเรื่องเดียวกัน แต่ เรื่องที่แอดมินเพจนี้ไม่ชอบ เราดันชอบ ก็เก็บไว้เป็นตัวเลือกเวลาอ่านรีวิว ไม่ต้องถึงขนาดไกด์ไลน์
เพราะคนเราแตกต่างกัน รสนิยมและชั้นเชิงในการดูหนังต่างกัน
หาแฟนเพจที่มีจริตการดูหนังที่ตรงกันกับเรา เพจแต่ละเพจชอบหนังไม่เหมือนกันหรอกคู๊ณณณ ตามเท่าที่มนุษย์ยังเป็นมนุษย์ ไม่มีใครปราศจากอคติได้ 100 % หรอกนะครับ (อคติทั้งในแง่ของตัวบุคคลตลอดไปจนถึงทีมกำกับทีมทำงาน ฯลฯ)
ขนาดหนังตลก บางคนยังชอบแบบมุกธรรมดาๆ มุกเก่าๆ มุกไทยๆ แค่นั้นเขาก็มีความสุขแล้ว
ในขนาดที่บางคน (เช่นผม) ชอบอะไรที่มันบียอนด์มากกว่านั้น มุกมันต้องเป็นมุกหน้าตาย ต้องเป็นหนังสเกลที่ดูแล้วเออ คุ้มกับเงินที่เสียไป
มันกำหนดอะไรไม่ได้จริงๆครับ ในโลกของการวิพากษ์วิจารณ์หนัง มันต้องมีทั้งหนังที่ถูกจริตและไม่ถูกจริตเราเช่นใด การวิจารณ์มันก็ต้องมีทั้งที่ถูกใจและผิดหวังเช่นนั้น
อย่าาาาาาาาา ไล่ให้ใครไปกำกับภาพยนต์เองเพียงเพราะเขาให้คะแนนภาพยนต์ที่คุณคาดหวังน้อย
มาตรฐานของแต่ละคนไม่เท่ากัน คุณพอใจที่จะกินอาหารเท่านี้ แต่กับคนวิจารณ์มันอาจจะไม่ใช่ไง
ซึ่งแมร่ง มันไม่ผิดเว้ยถ้าคุณจะพอใจกับข้าวไข่เจียวตรงหน้า แต่ไอ้คนที่อยากกินข้าวไข่เจียวทองคำก็ไม่ผิดเช่นกัน
สำคัญที่สุดคือ ต่อให้คะแนนมันออกมาน้อยยยยยยยยยยย ต่ำเตี่ยเรียดินเท่าไหร่
แต่สุดท้ายถ้าคุณจะไปดูจริงๆ มันก็ไม่มีใครว่าคุณได้รึเปล่าครับ?
ตื่นเหอะ เลิกป่วยนะครับ มันก็แค่การแสดงความคิดเห็นของแต่ละคน ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงไม่สามารถยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ของหนังแต่ละเรื่องได้ หรือเพราะแค่ว่าเราไม่สามารถยอมรับความคิดเห็นต่างของคนอื่นได้เท่านั้นเอง?