เมื่อวันเสาร์ที่ 2 กันยายน 2560 พวกผมได้มีโอกาสปั่นจักรยานไปเที่ยวน้ำตกสามหลั่น จังหวัดสระบุรี เลยขอแชร์ประสบการณ์การเดินทางด้วยเส้นทางท่องเที่ยวโดยจักรยาน จากอำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี ไปยังอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น โดยจะใช้เส้นทาง ซอยเทศบาล 5 (ทางเข้าอยู่ฝั่งตรงข้าม สภ.วิหารแดง) ปั่นผ่าน อบต.เจริญธรรม  อุโมงค์รถไฟ สถานีรถไฟบุใหญ่ วัดพระพุทธฉาย ไปยังอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น เขตจังหวัดสระบุรี ระยะะทางประมาณ 26 กม. ซึ่งเส้นทางนี้เป็นเส้นทางลัดโดยไม่ต้องไปผ่านสี่แยกหินกอง ถนนหนทางบางช่วงยังไม่สะดวกนัก โดยเฉพาะช่วงข้ามเขาเขตรอยต่อ อ.วิหารแดงกับ อ.แก่งคอย เส้นทางโหดพอสมควร สภาพถนนเป็นลูกรังภูเขา บางช่วงโดนกระแสน้ำยามหน้าฝนกัดเซาะเป็นร่องยาว  แต่ชาวบ้านในพื้นที่ก็ยังใช้เส้นทางนี้เป็นประจำเนื่องจากช่วยย่นระยะทางในการเดินทางได้ดีทีเดียว แม้อาจะดูเปลี่ยวไปบ้าง เพราะห่างไกลชุมชน พื้นที่เป็นป่าเขา แต่ก็ถือเป็นเส้นทางสายธรรมชาติเส้นทางหนึ่งครับ

การเดินทางในครั้งนี้เริ่มกันแต่เช้า โดยมีเพื่อนร่วมทริปไปด้วยอีก 2 คน คือเสือซัง กับ เสือต้อม  ซึ่งก่อนที่จะเดินทางเราได้หาข้อมูลจากแผนที่ในกูเกิ้ลว่าเส้นทางนี้สามารถไปได้ แต่ไม่คิดว่าจะโหดขนาดนี้ เสือซังเลยจับเสือหมอบมาปั่น กะจะมาปั่นชิวๆ ที่ไหนได้ หนทางข้างหน้า นี่มันทางออฟโรดชัดๆ

พวกเราเริ่มต้นจาก สภ.วิหารแดง ปั่นเข้าซอยเทศบาล 5 ซึ่งอยู่ตรงข้าม ช่วงแรกๆที่ปั่น ถนนหนทางถือว่าดีพอใช้ครับ ผ่าน อบต.เจริญธรรม เข้ามาเรื่อยๆ อากาศวันนี้กำลังดีไม่มีแดดเลย ปั่นผ่านชุมชน หมู่บ้านต่างๆ ที่มีอยู่เป็นระยะตามสองข้างทางครับ

เสือต้อมกับเสือซังปั่นนำหน้าอย่างสบายใจ ส่วมผมก็ตามหลังเก็บภาพไปเรื่อยๆครับ ช่วงนี้หมู่บ้านเริ่มน้อยลงแล้วครับ หลังจากปั่นมาประมาณ 13 - 14 กม. ครับ

พวกเราเลี้ยวซ้าย ก่อนถึงวัดเขาน้อย เส้นทางจากนี้ไป เริ่มเปลี่ยนเป็นถนนลูกรังแล้วครับ (ความลำบากเริ่มมาเยือนแล้วซิ) โดยเฉพาะเสือซังที่พลาดท่าเอาเสือหมอบมา หวังกินนิ่มในทริปนี้

เส้นทางยามหน้าฝน จะเกิดแอ่งน้ำย่อมๆหลายลูกในถนนครับ

บอกตรงๆว่าพวกเราก็ไม่ค่อยรู้ทางเท่าไหร่นัก อาศัยถามชาวบ้านที่ขับรถสวนมา ปั่นกันไปไปเรื่อยๆ สักพักก็มาโผล่ตรงที่เขากำลังเจาะภูเขาสร้างอุโมงค์รถไฟกัน

เราต้องปั่นขึ้นไปบนภูเขาที่คนงานกำลังเจาะอุโมงค์เพื่อข้ามเขาลูกนี้ไปอีกฝากหนึ่งครับ

และแล้วความทรมานก็บังเกิด นั่นคือ เข็น จูง ลาก ครับ เอาให้มันพ้นเขาลูกนี้ให้ได้

เสือซังนี่เข็นเป็นคนแรกก่อนเลย เนื่องจากไม่อยากเสี่ยงกับการยางแตกครับ

งานนี้เข็นกันทั่วหน้าครับ จักรยานทุกประเภทเข็นหมด เข็นไปก็จอดรอกันไป

บรรยากาศทิวทัศน์ข้างบนเขาที่เจ้าหน้าที่ทำอุโมงค์ครับ มองเห็นวิวแบบนี้ พอให้คลายเหนื่อยไปได้บ้างครับ

ถึงจุดสูงสุดของเขาลูกนี้ที่เข็นกันมาถึง ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกไว้หน่อนล่ะกันครับ เริ่มจากเสือซัง

เสือต้อมบ้างครับ

และก็เจ้าของกระทู้ (เอาเสียหน่อย 555++)

เดินทางกันต่อ ไหลลงเขามาเรื่อยๆก็ถึงสถานที่ก่อสร้างอุโมงค์รถไฟอีกด้านหนึ่งครับ

เสือต้อมถ่ายภาพกับสถานที่ก่อสร้างอุโมงค์รถไฟ ในระหว่างที่รอเสือซัง ที่คาดว่ากำลังเข็นเสือหมอบลงมาจากเขาครับ

ไปกันต่อครับ เส้นทางต่อจากนี้ เป็นถนนกรวดปนทรายปนหิน ที่ถูกน้ำกัดเซาะ

บางช่วงนี้ปั่นกันบนหินเลยทีเดียวครับ

ปั่นไปเรื่อยๆ ครับ บางครั้งยัง้ห็นมอเตอร์ไซด์ชาวบ้านขับสวนไปสวนมา ให้อุ่นใจ ว่าไม่ได้มีพวกเราแค่นั้น

ปั่นไปไม่ได้ก็เข็นครับ

ไม่นานเราก็ออกมาเจอสถานีรถไฟบุใหญ่ครับ เฮ้อ...เข้าสู่ความเจริญเสียที

แล้วพวกเราก็ปั่นผ่านหมู่บ้านต่างๆ มาเรื่อยๆครับ จนถึงบ้านป่าไม้พระฉาย

จากหมู่บ้านมาไม่ถึงกิโล ก็เจอสามแยก พวกเราเลี้ยวซ้ายไปทาง อบต.หนองปลาไหล เพื่อไปวัดพระพุทธฉายกันครับ

ปั่นมาสักพัก เราก็เห็นยอดเขาพระพุทธฉายแล้วครับ

เมื่อเข้ามาในบริเวณวัด พวกเราตัดสินใจปั่นผ่าฝูงลิงเจ้าถิ่นขึ้นไปยอดเขาพื่อไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ข้างบนยอดเขากันครับ

ที่นี่เจ้าถิ่นเยอะมากครับ ผมนี่ปั่นไปเสียวไปเลย

บรรยากาศข้างบนเขาวัดพระพุทธฉายครับ



วิวข้างบนก็สวยมากครับ มองเห็นความเขียวขจีแล้วหายเหนื่อยเลยครับ


ออกจากวัดพระพุทธฉายมาไม่ไกล เราก็มาถึงอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่นกันครับ

พวกเราสามคนปั่นมาถึงด่านทางเข้าอุทยาน เจ้าหน้าที่บอกเข้าไปได้เลยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนีนม  ใจดีตริงๆ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่อุทยานมาในที่นี้ด้วยครับ

ได้เวลาพักเหนื่อยกันแล้วครับ กับจุดหมายในวันนี้ อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น จังหวัดสระบุรี  ขากลับพวกเราตัดสินใจกลับทางถนนหลัก ถนนพหลโยธิน ผ่านเข้าแยกหินกอง เข้าถนนสุวรรณศร กลับมาอำเภอวิหารแดงตามเดิมครับ