สวัสดีค่ะ นี่เป็นการเขียนกระทู้ครั้งแรกของเรา
อยากจะแบ่งปันเรื่องราวที่เราได้ไปเที่ยวมาให้เพื่อนๆอ่านกัน
เผื่อเพื่อนๆอยากไปเที่ยวกันบ้างนะคะ
ป.ล. รูปเยอะมากก
ครั้งนี้เราไปเที่ยว จ.ภูเก็ตค่ะ เดินทางจากกรุงเทพด้วยสายการบิน Air Asia และจุดหมายปลายทางของเราคือ “เกาะนาคาน้อย”
ที่ตั้งอยู่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งเกาะส่วนตัวของนักแสดงหนุ่ม "ภูริ หิรัญพฤกษ์"
เกาะนาคาน้อยถือว่าเป็นเกาะที่เงียสงบมากเลยค่ะ เนื่องจากเป็นเกาะส่วนตัว การที่เราจะเดินทางไปยังเกาะได้ จำเป็นต้องขออนุญาตจากทางเจ้าของรีสอร์ตก่อน ซึ่งในที่นี้เราก็ติดต่อเรื่องที่พักไป แล้วทางรีสอร์ตก็จะส่งคนมารับที่ท่าเรือ เพื่อพาเรามุ่งหน้าสู่เกาะค่ะ
สำหรับการเดินทาง เราต้องนั่งเรือข้ามฟากไปค่ะ
ซึ่งท่าเรือที่เราจะต้องไปขึ้นคือ “ท่าเรืออ่าวปอ” เดินทางจากสนามบินภูเก็ต ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ตอนนั้นเราเหมาแท็กซี่ โดนไป 600 บาท T^T
บริเวณโดยรอบท่าเรือ ก็จะประมาณนี้ค่ะ เลยไปอีกหน่อยก็จะเจอท่ารถ เราก็รอจนรถมารับ
แล้วเรือก็มาถึง โชคดีที่เราไปเที่ยววันธรรมดา คนเลยน้อยมาก ไม่ค่อยวุ่นวาย
ออกเดินทางสู่ "เกาะนาคาน้อย" กันเลย !
ถึงแล้วค่ะ ป้ายต้อนรับก็มา เพื่อนๆอาจสังเกตเห็น นกเงือก ตัวเล็กๆบนป้ายค่ะ อันนี้มีความหมาย เพราะด้วยความที่เกาะนาคาน้อยยังเป็นเกาะที่อุดมสมบูรณ์มากๆ ดังนั้นถ้าโชคดี ตอนเช้าๆเราจะได้เห็นนกเงือกออกมาหากินด้วย
พอเรามาถึงคนดูแลก็จะพาเราเข้าที่พักค่ะ ที่พักของเราเป็นแบบเต็นท์ค่ะ นอนได้ 1-4 คน ข้างในเป็นพัดลมเท่านั้นค่ะ เพราะที่นี่เค้าจะไม่มีกระแสไฟฟ้าเข้าถึง เพราะฉะนั้นแล้ว พลังงานที่ใช้ทั้งหมดบนเกาะจะเป็นพลังงานธรรมชาติ จากโซลาร์เซลล์ หรือเครื่องปั่นน้ำ ใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบธรรมชาติไม่ควรพลาดเลยจริงๆ
ไม่ได้เป็นสปอนเซอร์ค่ะ แต่มีติดไว้ก็ช่วยกันแดดเผาได้นะ ^^
เพื่อนที่ไปด้วยกัน อาสาเป็นนางแบบให้ เราก็กดชัตเตอร์รัวๆไปๆ
ถึงแล้วก็ต้องไม่พลาดค่ะ เดินชมรอบเกาะเก็บตกวิวริมทะเลกันเถอะ
บนเกาะมีอาหาร น้ำเครื่องดื่มขายค่ะ แม้จะมีไม่มาก แต่ก็ประทังความหิวไปได้ น้ำผลไม้บนเกาะก็ถือว่าเด็ดเว่อร์ จากการสอบถามคุณป้าเจ้าของร้าน แกบอกว่าได้สูตรการปั่นน้ำผลไม้มาจากโรงแรมห้าดาวที่ลูกแกฝึกงานอยู่ นี่ถือว่าลาภปากเลย สนนราคาที่แก้วละ 50 บาท (ราคาคนไทยนะคะ)
แล้วเราก็เดินเก็บภาพกันต่อ หันไปเห็นลุงคนนึงกำลังซ่อมเรืออยู่ แต่โลเคชั่นแกดีมากๆ
นี่เป็นสะพานที่ท่าเรือมารับ-ส่งเราค่ะ กลางวันน้ำจะลดเป็นทางเดินเชื่อมกับเกาะ ต่อพอตกเย็นหน่อย น้ำขึ้นจนทางเชื่อมถูกตัดขาดออกจากเกาะเลยล่ะค่ะ
พระอาทิตย์ตอนกลางวันก็สวยไม่แพ้กันเลยทีเดียว
กิจกรรมทางเรือบนเกาะก็มีให้เล่นเยอะนะคะ เช่น พายเรือคายัค (ฟรี) และก็ยังมีเช่าเรือเจ็ทสกี หรือว่าจะเล่นเจ็ทเซิร์ฟ เจ้าหน้าที่บนเกาะก็สามารถพาเราเล่นได้ค่ะ ทั้งนี้ส่วนอื่นๆก็อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกันไป
หลังจากนั้นเราก็ไปเดินเล่นกันต่อ ได้มุมสวยๆอีกเพียบ ซึ่งมุมนี้เป็นมุมที่น้ำขึ้นช่วงเย็น และน้ำลดช่วงกลางวัน
ช่วงน้ำลดจะเผยให้เห็นพื้นผิวใต้บาดาลที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ รวมถึงแหล่งปะการังต่างๆด้วยค่ะ
ปะการังสมอง ดูแล้วสยอง แต่ก็สวยมากเช่นกัน
ปะการังโขด
ปะการังเขากวาง
เพื่อนๆคงเคยกิน สาหร่ายพวงองุ่น แต่อันนี้เราจะเก็บกินจากธรรมชาติกันเลย
เดินๆไปสักพักต้องคอยมองทางกันดีดีเลย ไม่งั้นอาจจะเหยียบถูกเจ้าปลิงทะเลยักษ์นี่ได้ ! ตัวใหญ่มว๊าก
เดินจนกลับมาที่พักก็ได้ของติดไม้ติดมือมาด้วย เป็นซากปะการังพวกนี้ ซึ่งมีหลากหลายชนิดมาก
ป.ล.เปลือกหอยพวกนี่ถ่ายเสร็จไม่ได้เอากลับบ้านนะคะ คืนสู่ธรรมชาติเช่นเคย
หลังจากเดินเล่นกันเหนื่อยแล้ว ก็ถึงเวลาอาหารเย็นค่ะ โดยส่วนใหญ่อาหารบนเกาะแห่งนี้ จะไม่มีอาหารทะเลสดๆค่ะ สำหรับเพื่อนๆที่แอบหวังจะได้กินอาหารทะเลดื่มด่ำบรรยากาศ อาจจะผิดหวังเล็กน้อย แต่ว่าโดยรวมแล้วอาหารอย่างอื่นบนเกาะก็ถือว่าอร่อยเลยอ่ะค่ะ
แล้วอาทิตย์ก็โบกมือลา ถึงเวลาของยามค่ำคืน
หลังเราทานข้าวกันเสร็จ คนดูแลก็ถามเราว่าสนใจไปเดินดูปูกันมั้ย ที่นี่ปูเสฉวนเยอะมากๆ รออะไรล่ะคะ ไปกันเลย
เกร็ดความรู้เล็กน้อยๆสำหรับปูเสฉวน คือปูชนิดนี้เกิดมาจะไม่มีกระดองแข็งเหมือนปูชนิดอื่นๆ ดังนั้นระบบนิเวศน์จึงสร้างให้มันต้องหาที่อยู่เอง เช่น พวกเปลือกหอยเปล่า หรือสิ่งอื่นๆที่สามารถกำบังตัวมันได้ ปูเสฉวนจะมีทั้งหมด 10 ขาค่ะ ซึ่งมันจะใช้ขาคู่หลังในการยึดและเหนี่ยวที่อยู่ของมันไว้ ส่วนขาคู่หน้าก็ใช้ทำหน้าที่หยิบจับ ฉะนั้นแล้วปูเสฉวนเองก็เป็นสัตว์น้ำทะเลที่มีความสำคัญช่วยในการรักษาระบบนิเวศวิทยา ให้ความสมบูรณ์และเป็นสิ่งสวยงามให้กับชายฝั่งทะเลอีกด้วย
จริงปูตัวเล็กมากกกเลยค่ะแต่ต้องขอบคุณเลนส์ Sony E-mount 30mm F3.5 Macro ที่ขยายยันรูขุมขนปูได้
หลังจากหลับไปในค่ำคืนนั้น เราก็ไม่อ้อยอิ่งที่จะตื่นมาดูพระอาทิตย์ในตอนเช้า ซึ่งวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ก็สวยไม่แพ้ใครเลยทีเดียว
มันก็จะโรแมนติกหน่อยๆ
หลังเดินกลับมาจากดูพระอาทิตย์ เราก็ได้ยินเสียงประหลาดดังขึ้นแถวที่พักของเราค่ะ คนดูแลก็เลยเดินมาบอกเราว่า นก
เที่ยวนี้ที่ “เกาะนาคาน้อย” จ.ภูเก็ต