หลังจากเห็นเพื่อนไปที่นี่เมื่อสองปีก่อน เราก็อยากไปมากกกกก ติดตามอ่านหลายๆรีวิว จนในที่สุดเราก็ได้ไปค่ะ
ครั้งนี้เราเลยมาเขียนรีวิวบ้าง เผื่อจะได้เป็นแนวทางให้กับเพื่อนๆที่กำลังอยากไป หรือยังไม่ได้คิดว่าจะไป อาจจะตัดสินได้ก็คราวนี้แหล่ะ
โปรแกรมของเราค่ะ
วันที่ 11 ส.ค. : กรุงเทพฯ - กัวลาลัมเปอร์ - สุราบายา - Check in Cemera indah hotel
วันที่ 12 ส.ค. : Penanjakan view point - Sand Sea - Bromo - Blok Savana - Makakaripura Waterfall
วันที่ 13 ส.ค. : Seruni view point - Check out Cemera indah hotel - Check in Ijen view hotel
วันที่ 14 ส.ค. : Ijen (blue file, blue lake) - Blawan Waterfall - hotel 88 Surabaya
วันที่ 15 ส.ค. : สุราบายา - กัวลาลัมเปอร์ - กรุงเทพฯ
หมายเหตุ:
1. เนื่องจากเราเลือกสายการบินหางแดงจึงต้องต่อเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียค่ะ
2. เราเลือกเวลาเที่ยวบินไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เลยเสียเวลาวันที่ 11 และ 15 สำหรับอยู่ในสนามบินและเครื่องบินค่ะ
สำหรับทริปนี้ เราเลือกทัวร์ของ Tommy (blueisland_024@yahoo.com) ค่ะ เพราะตอบไวและที่สำคัญราคาถูกกว่าอีกเจ้าค่ะ ฮ่าๆๆ
***แนะนำให้ใช้บริการรถพร้อมคนขับของอินโดฯนะคะ เพราะทางค่อนข้างแคบและไหล่ทางไม่กว้างมาก ถ้ามีรถสวนมาต้องใช้ความสามารถพอสมควรค่ะ***
ค่าใช้จ่ายหลักๆตามภาพค่ะ เราไม่ได้ใส่เงินที่ทิปให้ไกด์นะคะ แล้วแต่เพื่อนสะดวกจะให้กันดีกว่าเน๊อะ ^^
หมายเหตุ:
1. ค่าทัวร์จะรวมทุกอย่าง (รวมถึงหน้ากากสำหรับที่ Ijen) ยกเว้นค่าขี่ม้าและค่าอาหารกลางวันและเย็น
2. โรงแรม Cemera indah นี่เรานอนห้อง Deluxe 2 คืนนะคะ เนื่องจากช่วงที่เราไปห้องธรรมดาเต็มหมดแล้วค่ะ (ตามที่ Tommy บอก)
3. ใครที่อยากใช้ internet sim มีแบบ 2GB ราคาอยู่ที่ 60,000 IDR (ประมาณ 154 บาท) ค่ะ บอกไกด์ให้แวะซื้อนอกสนามบินสุราบายาได้นะคะ
เตรียมความพร้อม
1. เสื้อกันหนาวกันลมสำหรับตอนเช้าทั้งที่ Bromo และ Ijen (ที่ Ijen ด้านบนลมจะแรงมากค่ะ)
2. ไฟฉายสำหรับตอนเช้าทั้งที่ Bromo และ Ijen (ที่ Ijen จะได้ใช้เยอะกว่า Bromo)
3. หน้ากากหรือผ้าปิดจมูก เนื่องจากฝุ่นที่ Sand Sea, Bromo และ Blok Savana เยอะมาก
4. น้ำตก Madakaripura
- รองเท้า ควรเป็นรองเท้าที่เปียกน้ำได้และพื้นไม่ลื่น
- ถ้าไม่อยากตัวเปียก เตรียมเสื้อกันฝนมาด้วยเลย ถ้าไม่ได้เตรียมมาจากไทย ที่หน้าทางเข้าก็มีขายค่ะ (ราคา 10,000 IDR หรือ ประมาณ 25 บาทค่ะ)
- ช่วงสุดท้ายที่เข้าตัวน้ำตก ต้องลุยน้ำประมาณเข่า แนะนำให้ใส่กางเกงขาสั้นหรือขายาวที่ผ้าแห้งไวค่ะ
- กล้อง,มือถือ เปียกแน่นอนค่ะ อย่าลืมเตรียมอุปกรณ์กันเปียกด้วยน๊าาาา
(สำหรับน้ำตก Blawan เดินง่ายและไม่เปียกค่ะ แต่ระวังลื่นกันนิดนึงนะคะ ^^)
5. ควรออกกำลังกายก่อนมาเที่ยวสักหน่อยค่ะ เพราะทางขึ้น Ijen เป็นทางราบผสมทางชัน (ประมาณ 45 องศา) และรองเท้าสำหรับที่ Ijen แนะนำควรมีดอกยากลึกสักหน่อยนะคะ
6. ที่อินโดฯ ใช้ปลั๊กไฟแบบ 2 ขากลมใหญ่ และใช้เงินรูเปีย (IDR)
ถ้าเพื่อนๆอยากชมรูปภาพสำหรับทริปนี้แบบจุใจ ตามไปชมได้ที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้• Chapter I : https://www.facebook.com/yaktiewalways/posts/326373284477557
• Chapter II : https://www.facebook.com/yaktiewalways/posts/326765194438366
• Chapter III : https://www.facebook.com/yaktiewalways/posts/328245437623675
หรือถ้ามีคำถามอะไรส่งไปถามเราได้ที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/yaktiewalways/messages/ นะคะ เพราะเราเข้าทุกวัน จะตอบได้เร็วกว่าในนี้ค่ะ ^^
เกริ่นมาเยอะละ ไปชมภาพสำหรับทริปนี้ดีกว่าค่ะ
วันแรก (11 ส.ค.)
10 โมงกว่าๆ เราก็ได้ออกจากกรุงเทพฯกันค่ะ
แวะต่อเครื่องที่มาเลเซีย (2 ชั่วโมง) ก็ขึ้นเครื่องไปสุราบายากันต่อ
หลังจากรับกระเป๋าและเจออาลิม (ไกด์สำหรับทริปของเรา) ที่สนามบิน ก็ขอแวะซื้อ internet sim กับกินข้าวเย็นกันก่อนเลยค่ะ
ใช้เวลาหลังจากนั้นประมาณ 4 ชั่วโมง (ปกติจะ 3 ชั่วโมง แต่วันนั้นรถติดมากค่ะ) เราก็ถึงที่พัก (Cemera indah) ในเวลาเที่ยงคืนกว่าๆ
เรานอนด้วยชุดที่เตรียมขึ้นโบรโมค่ะ จะได้ไม่เสียเวลานอน
เพราะอาลิมนัดเราตี 3 เพื่อไป Penanjakan view point
วันที่ 2 (12 ส.ค.)
รถขึ้นมาโบรโม่วันนี้เยอะมากค่ะ ทำให้เราต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปอีกหน่อย อาลิมบอกพวกเราว่าจะพาไปที่ secret แต่..คนก็ยังเยอะอยู่ดีค่ะ 555+
ท่ามกลางความมืด แสงเริ่มมา
จุดนี้มองลงไปคือหมู่บ้านที่เราพักกันค่ะ
หันมาดูอีกด้านกันบ้าง
จุดหมายของการเดินทางทริปนี้ โบรโม่คือภูเขาลูกที่เป็นแอ่งกะทะด้านซ้ายมือที่มีควันลอยขึ้นมานะคะ
อีกสักรูป
แนะนำให้เตรียมน้ำดื่มขึ้นไปด้วยนะคะ เพราะการเดินและอากาศข้างบนเบาบาง ทำให้คอแห้งพอสมควรค่ะ แต่ถ้าใครไม่อยากหิ้ว ข้างบนเค้าก็มีขายนะคะ
กลับไปขึ้นรถ ออกเดินทางต่อค่ะ .. ไม่เกิน 10 นาที เราก็มาถึงจุดที่ชมโบรโม่ได้อีกจุด
นั่งรถไปจุดชมปากปล่องโบรโม่ใกล้ๆกันค่ะ
รถจะไม่สามารถไปจนถึงจุดชุมปากปล่องได้ ทุกคนต้องเดินหรือขี่ม้าไป เราเลือกขี่ม้า เพราะอยากเก็บแรงไว้สำหรับ ijen ค่ะ ที่สำคัญถ้าเดินนี่คงกินฝุ่นไปเยอะแน่ๆ ^^
ถึงจะขี่ม้าแต่ก็ไม่ถึงจุดชมปากปล่องข้างบนนะคะ เราต้องเดินขึ้นบันไดต่อเองค่ะ วันนี้คนเยอะหน่อย ขึ้นได้ทีละขั้นค่ะ
ขึ้นมาแล้วหันกลับไปดู เกือบลืมหายใจ
ลุงขายดอกไม้ช่วยจูงเราเดินเลียบปากปล่องเข้าไปค่ะ (เนื่องจากคนเยอะมากและทางเดินแคบ) เราก็เลยอุดหนุนดอกไม้ลุงซะหน่อย (โดนโก่งราคาเรียบร้อย อาลิมบอกว่าปกติขายอยู่ที่ช่อละ 20,000 IDR เราโดนไป 50,000 IDR ค่ะ T.T)
ที่นี่นับถือโบรโม่เหมือนเป็นลมหายใจของเทพเจ้าค่ะ เราสามารถอธิษฐานขอพร แล้วโยนดอกไม้ลงไป (เห็นเค้าว่ากันว่าเดี๋ยวคนขายก็เดินลงไปเก็บมาขายใหม่ o.O)
อยากไปจุดนั้นต่อ แต่ไม่มีที่กั้นและไม่กล้าพอค่ะ หวาดเสียว 555
กลับไปที่รถ เพื่อไปจุดอื่นกันต่อค่ะ ^^
จุดนี้ (Sand Sea) อาลิมให้คนขับรถจอดเพื่อถ่ายรูปเท่ห์ๆกับรถกันค่ะ
ต่อด้วย Blok Savana
หลังจากกลับเข้าที่พักไปกินข้าวเช้า+ข้าวกลางวัน (เพราะกลุ่มเราถ่ายรูปนานค่ะ 555) ก็เดินทางไปน้ำตก Madakaripura กันเลยค่ะ นั่งรถไปไม่ถึงชั่วโมงจากที่พักค่ะ
จากจุดจอดรถ เราต้องต่อมอเตอร์ไซค์กันเข้าไป แล้วก็เดินอีกสักพักค่ะ (ทางเดินทางราบ สบายๆค่ะ ^^) ก็จะถึงตัวน้ำตก
อย่างที่เห็นในภาพ ถ้าไม่อยากเปียกควรเตรียมเสื้อกันฝนไปค่ะ
หลังจากเดินฝ่าน้ำตกภาพแรก เงยหน้าสักนิดก็จะเจอสายน้ำตกที่เราว่าสวยมากเลยนะ
จุดในสุดของน้ำตก เป็นจุดที่แห้งที่สุด 555+ .. ก่อนมาถึงตรงจุดนี้ก็ต้องปีนป่ายก้อนหินกันเล็กน้อย
กลับจากน้ำตก ก็ต้องหาส้มตำ เอ๊ย!! หาข้าวเย็นทานกันระหว่างทางก่อนค่ะ เพราะเริ่มเย็นมากและทุกคนก็หิวมากเช่นกัน
มื้อนี้ก็ยังยืนพื้นด้วยเมนูไก่เหมือนเดิมค่ะ ทำให้เราจำศัพท์อินโดฯได้ 1 คำ .. Ayam แปลว่า ไก่ ค่ะ ^^
ชามนี้เป็นข้าวต้มไก่ค่ะ ข้าวจะอยู่ด้านล่าง
ครบทุกจุดสำหรับวันแรกแล้วค่ะ กลับไปพักผ่อนที่โรงแรม รอไกด์มาเรียกไปถ่ายทางช้างเผือกถ้าฟ้าเปิด แต่..เราหลับปุ๋ย ตื่นอีกทีก็จะตี 4 เวลาที่ไกด์นัดไว้สำหรับโปรแกรมวันต่อไปค่ะ เจอไกด์ตอนเช้าไกด์บอกฟ้าปิด ไม่รู้ว่าปลอบใจพวกเราหรือเปล่านะ ฮ่าๆๆ
วันที่ 3 (13 ส.ค.)
วันนี้เราจะไปจุดชมวิวโบรโม่ชื่อ Seruni view point กันค่ะ เราออกกันมาช้าไปหน่อย (ตี 4) เลยไม่มีจุดดีๆให้ยืนถ่ายรูป >.<
หันไปเห็นมีบางคนอยู่บนหลังคา เลยปีนขึ้นไปมั่งค่ะ ด้านหน้าคืออีกหลังคาที่เราไม่สามารถปีนขึ้นไปไหวค่ะ ฮ่าๆๆ
พระอาทิตย์มาตามนัด
แต่หมอกไม่มาตามนัดแบบเมื่อวาน
ส่องหมอกไกลๆแทนแล้วกัน
คนเริ่มกลับกันแล้ว
ก็ถึงตาพวกเราถ่ายมั่ง
ถึงเวลากลับที่พักแล้วค่ะ ระหว่างทางลงก็มีจุดชมวิวให้ถ่ายรูปอีก แวะตลอดจนอาลิมชินค่ะ ฮ่าๆๆ
(ขอบคุณภาพจากเพื่อนร่วมแก๊งค์ค่ะ)
กลับมากินข้าวเช้าแล้วเก็บของเตรียมไป Ijen กันต่อค่ะ
ห้องที่เรานอนคือหลังนี้ค่ะ ด้านข้างด้านขวามีจุดชมวิวด้วยนะเออ
วิวจากที่พักเลยจ้า
เดี๋ยวตามไปเที่ยว Ijen กันต่อนะคะ
[CR] เรื่องเล่า...จากดินแดนภูเขาไฟ (Bromo | Ijen)
หลังจากเห็นเพื่อนไปที่นี่เมื่อสองปีก่อน เราก็อยากไปมากกกกก ติดตามอ่านหลายๆรีวิว จนในที่สุดเราก็ได้ไปค่ะ
ครั้งนี้เราเลยมาเขียนรีวิวบ้าง เผื่อจะได้เป็นแนวทางให้กับเพื่อนๆที่กำลังอยากไป หรือยังไม่ได้คิดว่าจะไป อาจจะตัดสินได้ก็คราวนี้แหล่ะ
โปรแกรมของเราค่ะ
วันที่ 11 ส.ค. : กรุงเทพฯ - กัวลาลัมเปอร์ - สุราบายา - Check in Cemera indah hotel
วันที่ 12 ส.ค. : Penanjakan view point - Sand Sea - Bromo - Blok Savana - Makakaripura Waterfall
วันที่ 13 ส.ค. : Seruni view point - Check out Cemera indah hotel - Check in Ijen view hotel
วันที่ 14 ส.ค. : Ijen (blue file, blue lake) - Blawan Waterfall - hotel 88 Surabaya
วันที่ 15 ส.ค. : สุราบายา - กัวลาลัมเปอร์ - กรุงเทพฯ
หมายเหตุ:
1. เนื่องจากเราเลือกสายการบินหางแดงจึงต้องต่อเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียค่ะ
2. เราเลือกเวลาเที่ยวบินไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เลยเสียเวลาวันที่ 11 และ 15 สำหรับอยู่ในสนามบินและเครื่องบินค่ะ
สำหรับทริปนี้ เราเลือกทัวร์ของ Tommy (blueisland_024@yahoo.com) ค่ะ เพราะตอบไวและที่สำคัญราคาถูกกว่าอีกเจ้าค่ะ ฮ่าๆๆ
***แนะนำให้ใช้บริการรถพร้อมคนขับของอินโดฯนะคะ เพราะทางค่อนข้างแคบและไหล่ทางไม่กว้างมาก ถ้ามีรถสวนมาต้องใช้ความสามารถพอสมควรค่ะ***
ค่าใช้จ่ายหลักๆตามภาพค่ะ เราไม่ได้ใส่เงินที่ทิปให้ไกด์นะคะ แล้วแต่เพื่อนสะดวกจะให้กันดีกว่าเน๊อะ ^^
หมายเหตุ:
1. ค่าทัวร์จะรวมทุกอย่าง (รวมถึงหน้ากากสำหรับที่ Ijen) ยกเว้นค่าขี่ม้าและค่าอาหารกลางวันและเย็น
2. โรงแรม Cemera indah นี่เรานอนห้อง Deluxe 2 คืนนะคะ เนื่องจากช่วงที่เราไปห้องธรรมดาเต็มหมดแล้วค่ะ (ตามที่ Tommy บอก)
3. ใครที่อยากใช้ internet sim มีแบบ 2GB ราคาอยู่ที่ 60,000 IDR (ประมาณ 154 บาท) ค่ะ บอกไกด์ให้แวะซื้อนอกสนามบินสุราบายาได้นะคะ
เตรียมความพร้อม
1. เสื้อกันหนาวกันลมสำหรับตอนเช้าทั้งที่ Bromo และ Ijen (ที่ Ijen ด้านบนลมจะแรงมากค่ะ)
2. ไฟฉายสำหรับตอนเช้าทั้งที่ Bromo และ Ijen (ที่ Ijen จะได้ใช้เยอะกว่า Bromo)
3. หน้ากากหรือผ้าปิดจมูก เนื่องจากฝุ่นที่ Sand Sea, Bromo และ Blok Savana เยอะมาก
4. น้ำตก Madakaripura
- รองเท้า ควรเป็นรองเท้าที่เปียกน้ำได้และพื้นไม่ลื่น
- ถ้าไม่อยากตัวเปียก เตรียมเสื้อกันฝนมาด้วยเลย ถ้าไม่ได้เตรียมมาจากไทย ที่หน้าทางเข้าก็มีขายค่ะ (ราคา 10,000 IDR หรือ ประมาณ 25 บาทค่ะ)
- ช่วงสุดท้ายที่เข้าตัวน้ำตก ต้องลุยน้ำประมาณเข่า แนะนำให้ใส่กางเกงขาสั้นหรือขายาวที่ผ้าแห้งไวค่ะ
- กล้อง,มือถือ เปียกแน่นอนค่ะ อย่าลืมเตรียมอุปกรณ์กันเปียกด้วยน๊าาาา
(สำหรับน้ำตก Blawan เดินง่ายและไม่เปียกค่ะ แต่ระวังลื่นกันนิดนึงนะคะ ^^)
5. ควรออกกำลังกายก่อนมาเที่ยวสักหน่อยค่ะ เพราะทางขึ้น Ijen เป็นทางราบผสมทางชัน (ประมาณ 45 องศา) และรองเท้าสำหรับที่ Ijen แนะนำควรมีดอกยากลึกสักหน่อยนะคะ
6. ที่อินโดฯ ใช้ปลั๊กไฟแบบ 2 ขากลมใหญ่ และใช้เงินรูเปีย (IDR)
ถ้าเพื่อนๆอยากชมรูปภาพสำหรับทริปนี้แบบจุใจ ตามไปชมได้ที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หรือถ้ามีคำถามอะไรส่งไปถามเราได้ที่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ นะคะ เพราะเราเข้าทุกวัน จะตอบได้เร็วกว่าในนี้ค่ะ ^^
เกริ่นมาเยอะละ ไปชมภาพสำหรับทริปนี้ดีกว่าค่ะ
วันแรก (11 ส.ค.)
10 โมงกว่าๆ เราก็ได้ออกจากกรุงเทพฯกันค่ะ
แวะต่อเครื่องที่มาเลเซีย (2 ชั่วโมง) ก็ขึ้นเครื่องไปสุราบายากันต่อ
หลังจากรับกระเป๋าและเจออาลิม (ไกด์สำหรับทริปของเรา) ที่สนามบิน ก็ขอแวะซื้อ internet sim กับกินข้าวเย็นกันก่อนเลยค่ะ
ใช้เวลาหลังจากนั้นประมาณ 4 ชั่วโมง (ปกติจะ 3 ชั่วโมง แต่วันนั้นรถติดมากค่ะ) เราก็ถึงที่พัก (Cemera indah) ในเวลาเที่ยงคืนกว่าๆ
เรานอนด้วยชุดที่เตรียมขึ้นโบรโมค่ะ จะได้ไม่เสียเวลานอน เพราะอาลิมนัดเราตี 3 เพื่อไป Penanjakan view point
วันที่ 2 (12 ส.ค.)
รถขึ้นมาโบรโม่วันนี้เยอะมากค่ะ ทำให้เราต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปอีกหน่อย อาลิมบอกพวกเราว่าจะพาไปที่ secret แต่..คนก็ยังเยอะอยู่ดีค่ะ 555+
ท่ามกลางความมืด แสงเริ่มมา
จุดนี้มองลงไปคือหมู่บ้านที่เราพักกันค่ะ
หันมาดูอีกด้านกันบ้าง
จุดหมายของการเดินทางทริปนี้ โบรโม่คือภูเขาลูกที่เป็นแอ่งกะทะด้านซ้ายมือที่มีควันลอยขึ้นมานะคะ
อีกสักรูป
แนะนำให้เตรียมน้ำดื่มขึ้นไปด้วยนะคะ เพราะการเดินและอากาศข้างบนเบาบาง ทำให้คอแห้งพอสมควรค่ะ แต่ถ้าใครไม่อยากหิ้ว ข้างบนเค้าก็มีขายนะคะ
กลับไปขึ้นรถ ออกเดินทางต่อค่ะ .. ไม่เกิน 10 นาที เราก็มาถึงจุดที่ชมโบรโม่ได้อีกจุด
นั่งรถไปจุดชมปากปล่องโบรโม่ใกล้ๆกันค่ะ
รถจะไม่สามารถไปจนถึงจุดชุมปากปล่องได้ ทุกคนต้องเดินหรือขี่ม้าไป เราเลือกขี่ม้า เพราะอยากเก็บแรงไว้สำหรับ ijen ค่ะ ที่สำคัญถ้าเดินนี่คงกินฝุ่นไปเยอะแน่ๆ ^^
ถึงจะขี่ม้าแต่ก็ไม่ถึงจุดชมปากปล่องข้างบนนะคะ เราต้องเดินขึ้นบันไดต่อเองค่ะ วันนี้คนเยอะหน่อย ขึ้นได้ทีละขั้นค่ะ
ขึ้นมาแล้วหันกลับไปดู เกือบลืมหายใจ
ลุงขายดอกไม้ช่วยจูงเราเดินเลียบปากปล่องเข้าไปค่ะ (เนื่องจากคนเยอะมากและทางเดินแคบ) เราก็เลยอุดหนุนดอกไม้ลุงซะหน่อย (โดนโก่งราคาเรียบร้อย อาลิมบอกว่าปกติขายอยู่ที่ช่อละ 20,000 IDR เราโดนไป 50,000 IDR ค่ะ T.T)
ที่นี่นับถือโบรโม่เหมือนเป็นลมหายใจของเทพเจ้าค่ะ เราสามารถอธิษฐานขอพร แล้วโยนดอกไม้ลงไป (เห็นเค้าว่ากันว่าเดี๋ยวคนขายก็เดินลงไปเก็บมาขายใหม่ o.O)
อยากไปจุดนั้นต่อ แต่ไม่มีที่กั้นและไม่กล้าพอค่ะ หวาดเสียว 555
กลับไปที่รถ เพื่อไปจุดอื่นกันต่อค่ะ ^^
จุดนี้ (Sand Sea) อาลิมให้คนขับรถจอดเพื่อถ่ายรูปเท่ห์ๆกับรถกันค่ะ
ต่อด้วย Blok Savana
หลังจากกลับเข้าที่พักไปกินข้าวเช้า+ข้าวกลางวัน (เพราะกลุ่มเราถ่ายรูปนานค่ะ 555) ก็เดินทางไปน้ำตก Madakaripura กันเลยค่ะ นั่งรถไปไม่ถึงชั่วโมงจากที่พักค่ะ
จากจุดจอดรถ เราต้องต่อมอเตอร์ไซค์กันเข้าไป แล้วก็เดินอีกสักพักค่ะ (ทางเดินทางราบ สบายๆค่ะ ^^) ก็จะถึงตัวน้ำตก
อย่างที่เห็นในภาพ ถ้าไม่อยากเปียกควรเตรียมเสื้อกันฝนไปค่ะ
หลังจากเดินฝ่าน้ำตกภาพแรก เงยหน้าสักนิดก็จะเจอสายน้ำตกที่เราว่าสวยมากเลยนะ
จุดในสุดของน้ำตก เป็นจุดที่แห้งที่สุด 555+ .. ก่อนมาถึงตรงจุดนี้ก็ต้องปีนป่ายก้อนหินกันเล็กน้อย
กลับจากน้ำตก ก็ต้องหาส้มตำ เอ๊ย!! หาข้าวเย็นทานกันระหว่างทางก่อนค่ะ เพราะเริ่มเย็นมากและทุกคนก็หิวมากเช่นกัน
มื้อนี้ก็ยังยืนพื้นด้วยเมนูไก่เหมือนเดิมค่ะ ทำให้เราจำศัพท์อินโดฯได้ 1 คำ .. Ayam แปลว่า ไก่ ค่ะ ^^
ชามนี้เป็นข้าวต้มไก่ค่ะ ข้าวจะอยู่ด้านล่าง
ครบทุกจุดสำหรับวันแรกแล้วค่ะ กลับไปพักผ่อนที่โรงแรม รอไกด์มาเรียกไปถ่ายทางช้างเผือกถ้าฟ้าเปิด แต่..เราหลับปุ๋ย ตื่นอีกทีก็จะตี 4 เวลาที่ไกด์นัดไว้สำหรับโปรแกรมวันต่อไปค่ะ เจอไกด์ตอนเช้าไกด์บอกฟ้าปิด ไม่รู้ว่าปลอบใจพวกเราหรือเปล่านะ ฮ่าๆๆ
วันที่ 3 (13 ส.ค.)
วันนี้เราจะไปจุดชมวิวโบรโม่ชื่อ Seruni view point กันค่ะ เราออกกันมาช้าไปหน่อย (ตี 4) เลยไม่มีจุดดีๆให้ยืนถ่ายรูป >.<
หันไปเห็นมีบางคนอยู่บนหลังคา เลยปีนขึ้นไปมั่งค่ะ ด้านหน้าคืออีกหลังคาที่เราไม่สามารถปีนขึ้นไปไหวค่ะ ฮ่าๆๆ
พระอาทิตย์มาตามนัด
แต่หมอกไม่มาตามนัดแบบเมื่อวาน
ส่องหมอกไกลๆแทนแล้วกัน
คนเริ่มกลับกันแล้ว
ก็ถึงตาพวกเราถ่ายมั่ง
ถึงเวลากลับที่พักแล้วค่ะ ระหว่างทางลงก็มีจุดชมวิวให้ถ่ายรูปอีก แวะตลอดจนอาลิมชินค่ะ ฮ่าๆๆ
(ขอบคุณภาพจากเพื่อนร่วมแก๊งค์ค่ะ)
กลับมากินข้าวเช้าแล้วเก็บของเตรียมไป Ijen กันต่อค่ะ
ห้องที่เรานอนคือหลังนี้ค่ะ ด้านข้างด้านขวามีจุดชมวิวด้วยนะเออ
วิวจากที่พักเลยจ้า
เดี๋ยวตามไปเที่ยว Ijen กันต่อนะคะ