[SR] แชร์เคล็ดลับ "ถ่ายรูปสินค้ายังไงให้ขายดี(ขึ้น)" ด้วยงบไม่เกิน 2,000 บาท

สวัสดีค่าา^^ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ชื่อทรี เป็นเจ้าของร้าน Rougejewelry ค่ะ วันนี้อยากจะมาเขียนกระทู้เผื่อจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่เปิดร้านขายของออนไลน์ไม่มากก็น้อยนะคะ จริงๆ ร้านนี้ก็ไม่ได้เริ่มจากทรีคนเดียวหรอกค่ะ พอดีตอนนั้นคุยกับแฟนว่าเราน่าจะทำอะไรสักอย่างเนอะ เพราะส่วนตัวเราสองคนเป็นคนชอบเที่ยวมากเลย แน่นอนว่าเที่ยวก็ต้องใช้เงิน 555 มันก็เลยเป็นที่มาของการหารายได้ เพื่อเก็บเป็นทุนในการไปเที่ยวนั่นเองค่ะ

ถามว่าทำไมถึงขายต่างหู มันเริ่มจากความชอบส่วนตัวเลย บวกกับแฟนชอบถ่ายรูปแต่ไม่ได้ถึงขั้นโปรอะไรนะคะแค่ชอบถ่ายเฉยๆ (หรือเค้าไม่ได้ชอบแต่เราบังคับให้เค้าถ่ายให้เราก็ไม่รู้ 5555) เราเลยแบ่งหน้าที่กัน เค้าก็เป็นคนถ่ายรูปสินค้า คอยหาไอเดียนั่นนี่ รวมถึงเรื่องโฆษณาต่างๆ ช่วงแรกๆ ยอมรับว่าท้อมาก เพราะตอนเริ่มคิดว่าน่าจะขายดีแหละ เพราะก็ศึกษามาเยอะว่าอะไรที่จะชนะใจลูกค้าได้บ้าง เช่น สินค้าต้องน่ารัก ต้องเก๋ ต้องมีคุณภาพ ต้องแตกต่าง เลยมีต่างหูแบบ Nickel free สำหรับลูกค้าที่แพ้ง่ายมาขายด้วย, Packaging พยายามไม่ให้ซ้ำใคร, ราคาต้องเอื้อมถึงและมาพร้อมคุณภาพที่ดี รวมถึงเรื่องการใส่ใจลูกค้า ต้องเป็นกันเองและตอบให้เร็วที่สุด แต่สุดท้าย...มันก็ไม่ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ แต่ก็พยายามเข้าใจว่าทุกอย่างต้องใช้เวลา ก็เรียนรู้มาเรื่อยๆ

จนเรียนรู้มาจนตอนนี้ก็เข้าปีที่ 2 จริงๆ ทุกเรื่องเราก็ให้ความสำคัญเท่าๆ กันหมดนะ แต่ถ้าถามว่าขั้นตอนไหนที่เราควรพัฒนามากที่สุดคิดว่าน่าจะเป็นรูป เพราะเราขายออนไลน์ แน่นอนว่าลูกค้าเค้าไม่เห็นสินค้าจริงของเรา เราก็เลยต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเข้าใกล้ของจริงมากที่สุด แต่ก่อนทรีจะออกไปถ่ายตามร้านคาเฟ่แต่หลังๆ เริ่มเหนื่อย ไปบางร้านบางทีเค้าก็ไม่ให้ถ่ายด้วย ก็ต้องแอบถ่ายด้วยมือถือรูปที่ออกมาก็ไม่ค่อยสวยไม่ค่อยชัด ซื้อสตูสำเร็จรูปมาใช้ถ่าย แต่ก็เจออุปสรรคอีก คือมันเล็กจนไม่มีพื้นที่ให้ตกแต่งได้เลย จะใช้ Photoshop ช่วยเราก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้น

จนในที่สุดเราได้ไปเห็นไอเดียการทำสตูของเมืองนอก โดยใช้ท่อแปปเลยตัดสินใจว่าจะลองทำกัน อุปกรณ์ก็คือท่อแปป กระดาษไข หลอดไฟเองดู ปรากฏว่าเวิร์คค่ะ!!!! ขายดีขึ้นเยอะเลย ทุนในการทำไม่เกิน 2,000 บาท แต่คุ้ม! สามารถใช้งานได้ตลอด ถ่ายได้ทุกวัน เปลี่ยนฉาก เซ็ตพร้อพใหม่ได้ตลอดด้วยค่ะ

แต่สร้างสตูดิโออย่างเดียวไม่ใช่ว่าถ่ายแล้วจะสวยเลยนะคะ ต้องพึ่งส่วนอื่นๆ เข้าไปด้วยกัน

1.กล้อง
ที่ถ่ายประจำก็จะเป็นกล้อง Canon M6 คู่กับเลนส์ Kit 15-45 mm (ที่แถมมากับกล้อง) ภาพสวยคมชัด สีไม่เพี้ยนเหมือนกล้องตัวเดิม แถมถ่ายปุ๊บส่ง wifi เข้ามือถือแล้วลง IG ได้เลยค่ะ ประหยัดเวลามากๆ
- ส่วนใหญ่จะใช้โหมด P ธรรมดาเลยค่ะ กึ่ง Auto แต่สามารถจะปรับ ISO และค่าชดเชยแสงเอง ให้มันสว่างขึ้นหรือมืดลงแค่นั้นเองค่ะ ที่ไม่ใช้โหมดอื่นเพราะมันใช้งานง่าย ง่ายต่อการคุมโทนให้แสงสีมันไม่โดด
- การโฟกัสก็ง่าย เพราะหน้าจอรุ่นนี้สัมผัสได้ แค่จิ้มจุดที่ต้องการก็โฟกัสได้เลย

2.แสง
- ทรีเลือกใช้หลอดไฟแบบ LED Par30 10 วัตต์ แสง Daylight เป็นหลอดที่มีลำแสงพุ่งตรง ใช้สำหรับส่องสินค้าโดยเฉพาะ ความพุ่งแรงของแสงก็ขึ้นอยู่กับโวลต์ของหลอดไฟ หลอดไฟชนิดอื่นๆ จะเป็นไฟแบบกระจาย แสงมันจะออกไปด้านข้างแทน สตูของเราใช้หลอดไฟทั้งหมด 3 หลอด
- ส่วนที่ติด ทรีใช้ขาหนีบแบบที่ร้านขายของตามตลาดนัดรถไฟเค้าใช้กันเลยค่ะ
- เพื่อไม่ให้แสงแรงเกินไป ก็จะใช้กระดาษไขมาเป็นตัวกรองแสง ร้านเครื่องเขียนทั่วไปมีขายค่ะ เพื่อไม่ให้แสงส่องไปที่ตัวสินค้ามากเกินไปจนเกิดเงาสะท้อน เพราะสินค้าเราเป็นประเภท Jewelry มันจะเกิดแสงสะท้อนได้ง่ายค่ะ
- ติดหลอดไฟไว้ 3 จุด ซ้าย ขวา และด้านหลัง เพื่อให้เราควบคุมแสงและเงาได้ดั่งใจ แต่ปกติจะเปิดทั้ง 3 ดวง เพราะร้านเราต้องการโทนสว่างสดใสค่ะ

3.องค์ประกอบภาพ
- ปกติก็จะชอบดู Reference เมืองนอก ดูเยอะๆ เดี๋ยวเราก็ได้ไอเดียมาปรับใช้กับพร้อพที่เรามีอยู่เองค่ะ แต่ก่อนถ่ายเราก็จะบอกแฟนว่าอยากได้ประมาณไหน จะได้ถ่ายภาพที่มองตรงกันค่ะ
- พวกพร้อพ ของตกแต่งที่เลือกใช้ก็พยายามเลือกที่มันเกี่ยวกับของที่ขายด้วยค่ะ เช่น ทรีต้องการขายต่างหูไข่ดาว พร้อพที่เลือกใช้ก็จะเกี่ยวกับอาหาร เพื่อเพิ่มความน่ารักน่าสนใจให้กับสินค้าเราค่ะ คล้ายๆ ว่าทำให้มันมี Story อ่ะค่ะ (สินค้าตัวนี้ตอนแรกก่อนที่จะปรับมาถ่ายรูปลักษณะนี้ขายไม่ได้เลยค่ะ แต่ตอนนี้หมดเกลี้ยงเลย)

ไม่จำเป็นว่าพร้อพจะต้องแพงอะไร ส่วนมากก็หาของหาง่ายๆ อย่างพวกกระดาษสี แว่นกันแดด ลูกปัด(ของเล่นตอนเด็ก) ปากกาสี หนังสือ แม็กกาซีน หรือบางอย่างที้เราเคยซื้อสะสมไว้ ก็เอามาใช้ เช่น หนังสือคำคม ป้ายไฟ พวกนี้สามารถหมุนเวียนใช้งานได้อยู่ตลอดๆ ค่ะ หรือถ้าเห็นไอเดียพร้อพจาก Reference ก็อาจจะซื้อมาใช้บ้าง เช่น กระเบื้อง ฯลฯ ค่ะ

ถามว่าใครเป็นคนจัด ก็ทรีนี่แหละค่ะ 5555 จัดเอง เอานั่นเอานี่มาวางให้มันได้อย่างที่ต้องการ

หรือจะเป็นเซ็ตของขวัญวันเกิด คือปกติทรีจะมีทำแพคเกจเป็นของขวัญให้ลูกค้าฟรีอยู่แล้ว คือมีการ์ดพร้อมกับผูกโบว์ให้...ก็จะได้กลุ่มลูกค้าที่นอกจากจะซื้อใส่เอง ก็สามารถส่งของขวัญไปเซอร์ไพรส์เพื่อนหรือแฟนได้ด้วย (โดยเฉพาะลูกค้าผู้ชาย แอบมาปรึกษาหลังไมค์กันเยอะมาก 555)

พร้อพก็คือเทียนวันเกิดนี่แหละ แช่ไว้ในตู้เย็นเป็นปีแล้ววว เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ดีกว่า

บางทีก็จัดแบบไม่ใช้พร้อพ เอากล่องต่างหูมาจัดวางแทน ก็ได้อีกสไตล์กันไป

บางทีก็เอากล้อง M6 มาเป็นพร้อพด้วย เพราะมันก็สวยดี 555

ก่อนออกไปส่งของในทุกวัน ก็พยายามถ่ายภาพรวมทุกครั้งเก็บไว้ เพื่ออัพเดทหน้า IG เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของร้านให้มากยิ่งขึ้น ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากเลย เพราะกล้อง M6 ที่ใช้อยู่มันมี Wifi ในตัว ถ่ายเสร็จ ก็ส่งเข้าโทรศัพท์อัพขึ้นโซเชียลได้เลย

จนตอนนี้ก็ขายดีขึ้นเยอะกว่าเดิมเลย และที่หายเหนื่อยก็คือ พักหลังลูกค้าจะส่งรีวิวมาให้เอง เป็นอะไรที่ประทับใจมากกกกก มันทำให้เรารู้สึกว่าเราเอาใจลูกค้าได้ระดับนึงแล้วนะ

ก็เป็นกำลังใจให้กับทุกๆ คนนะคะ...อย่าเพิ่งท้อ ทุกอย่างต้องใช้เวลา และอย่าลืมให้ ‘ใจ’ กับมันเยอะๆ รับรองว่าสนุกกับการขายของและแฮปปี้ที่ได้คุยกับลูกค้าที่น่ารักทุกคนอย่างแน่นอนค่ะ ^^

ขอบคุณทุกคนมากๆ เลยนะคะที่อ่านจนจบเลย ยิ้ม
ชื่อสินค้า:   rougejewelry
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่