จริงหรือไม่จริง แต่ข่าวนี้มันทำให้คนตาร้อนมาก....
.....
นายกฯทักษิณ กับธุรกิจในต่างประเทศ ?
ไปเจอภาพนี้จากน้องสาวในเฟซ ธาราทิพย์ กมลชนก
เลยมาเล่าให้ฟังว่า
เมื่อ นายกฯทักษิณท่านออกไปต่างประเทศ
ยิ่งทำให้คนเก่งเห็นลู่ทางทำเงินมากมาย
ยิ่งกว่าลงทุนในประเทศไทยอีก
นายกฯทักษิณ มีธุรกิจอะไรบ้างในต่างประเทศ ?
ท่านทำธุรกิจเกี่ยวกับเหมืองทองใน 5-6 ประเทศ
และที่มากที่สุดอยู่ในประเทศยูกันดาถึง 31 เหมือง
นอกนั้นอีก 5 ประเทศ มีอย่างละ 1-2 เหมือง
รวมมูลค่า 5.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ซึ่งหักส่วนที่ต้องจ่ายค่าสัมปทานให้กับรัฐบาล
ในประเทศนั้นๆ แล้ว
ก็ยังมีรายได้เหลืออีกนับหมื่นล้าน
ส่วนใหญ่นายกทักษิณทำคนเดียว !!!!
แต่บางที่ก็หุ้นกับเพื่อน กับรัฐบาล
แต่ท่านจะถือหุ้นใหญ่นะครับ
มีหุ้นกับเพื่อน และเอาเข้าตลาดในลักษณะโฮลดิง
ชื่อ กลุ่มโกลบอลพีเอสไมนิง
เหมืองเพชร ในแอฟริกา
ได้ลงนามทำสัญญาร่วมทุนทำสัมปทานเหมืองเพชร
กับ 3 ประเทศในทวีปนี้
นอกจากนี้ ก็ยังมีเหมืองแพลทินัม (ทองคำขาว)
เป็นแร่ที่มีมูลค่าสูงมาก แพงกว่าทอง
จากการสำรวจพบว่ามีแพลทินัมอยู่ 33 ล้านออนซ์
ราคาตลาดโลกอยู่ที่ 1,812 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์
ธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติก็มีสัมปทานอยู่
มีการลงทุนโรงงานสร้างเฮลิคอปเตอร์
ในกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)
โดยใช้เทคโนโลยีจากประเทศยูเครน
เป็นเฮลิคอปเตอร์ขนาดเล็ก 2 เครื่องยนต์
เมื่อเกิดอุบัติเหตุสามารถดีดออกมาพร้อมห้องเครื่อง
นายกฯทักษิณ ร่วมลงทุนกับเพื่อนที่ UAE ครับ
โดยซื้อเทคโนโลยีมาในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ
มีซื้อเกาะทำธุรกิจที่มอนเตเนโกรด้วย
คราวนี้มาดูธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศอังกฤษกัน
ท่านถนัดเรื่องความก้าวหน้าทาง เทคโนโลยี
จึงได้ลงทุนทำธุรกิจนี้
"บริษัทเซ็นทริกส์ อินฟอร์เมชัน ซิเคียวริตี
เทคโนโลยี ลิมิเต็ด"
ธุรกิจ 35,000 ล้านบาท !
เว็บไซต์ของบริษัท ระบุว่า
นายกฯ ทักษิณ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
"ผู้อำนวยการ เมื่อ 29 พฤษภาคม 2558"
เป็นบริษัทสตาร์ทอัพ ด้านความปลอดภัย
ของระบบไอทีทางอินเทอร์เน็ต ในอังกฤษ
และได้รับการสนับสนุนจากนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร
ประกาศระดมเงินทุนก้อนเพื่อให้มูลค่าของบริษัท
มีมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ 35,000 ล้านบาท
ในการเข้าสู่ระบบไอทีด้านโครงสร้างพื้นฐาน
นอกจากนายกฯ ทักษิณ จะเป็นผู้ถือหุ้นแล้ว
ยังมีนายเอียน เทย์เลอร์ เจ้าพ่อนักธุรกิจด้านน้ำมัน
แห่ง Vitol ร่วมถือหุ้นด้วย
โดยทางบริษัท ​บอกว่า
นี่คือเทคโนโลยีการเข้ารหัสข้อมูล
จะทำให้ระบบปฏิบัติการด้านโทรคมนาคม
สามารถปกป้องข้อความ (แมสเสจ)
และการช็อปปิ้งทางออนไลน์
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง
ก็ต้องการขอความร่วมมือ
ในการเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้เช่นกัน
บริษัทเซ็นทริกส์ อินฟอร์เมชั่นฯ นี้
ได้มีการร่วมลงนามในข้อตกลงรับงานแรก
กับ โอเปอเรเตอร์รายใหญ่ในสิงคโปร์
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนสร้างชาติอัจฉริยะ
ของรัฐบาลสิงคโปร์ ครับ
โดยอาศัยการวางโครงข่ายพื้นฐาน
ระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีโทรคมนาคม
มาอำนวยความสะดวกใหกับกิจการรัฐ
และชีวิตประจำของประชาชน
เทมาเส็ก ของรัฐบาลสิงคโปร์
ก็ต้องการเข้าร่วมลงทุน
ในบริษัทของนายกฯทักษิณด้วย
นอกจากนั้นในอังกฤษ
นายกฯทักษิณ ยังเข้าร่วมทุนกับนักวิจัย
จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
ก่อตั้งบริษัท Owlstone Medical
ประดิษฐ์เครื่องมือขนาดเล็ก
ใช้ตรวจหามะเร็งด้วยลมหายใจ
ซึ่งเชิญท่านไปเป็นหุ้นส่วน
เพราะต้องการความรู้ด้านการตลาด
และประสบการณ์การบริหารจาก นายกฯทักษิณ
คงจำกันได้ ผมเคยลงโพสต์
ห้องทำงานนายกฯทักษิณ
ที่บริษัทนี้ ในประเทศอังกฤษมาแล้วครับ
ทั้งหมดนี่ยังไม่หมดนะครับ !
ส่วนในประเทศไทย
ธุรกิจ นายกฯทักษิณและครอบครัว
ยังมีมากกว่า 25 บริษัท
รวมมูลค่ามากกว่า 35,000 ล้านบาทอีกด้วย
ยุทธ์ เอ๋ย ยังจะถามโง่ๆอีกไหม
ว่านายกฯทักษิณ เอาเงินที่ไหนใช้
คนเก่งน่ะ อยู่ที่ไหนก็มีลู่ทางหาเงิน
ยิ่งออกไปต่างประเทศ ก็ยิ่งรวย
=
ไม่ต้องไปปล้นใครให้เหนื่อยหรอก.....