ตอนนี้เราเรียนมหาลัยอยู่ปี2 เทอมที่แล้วเราได้เกรด 3.5กว่าๆ อยู่กับแม่แค่2คน มีพี่ชายอีกคนแต่เขาก็แต่งงานแยกครอบครัวไปแล้ว
แม่เปิดร้านอาหารส่งเราเรียนแค่คนเดียว ช่วงแรกๆก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่หลังๆร้านอาหารขายได้ไม่เกินวันละ 2,500 บาท หักค่าแรงลูกน้องกับต้นทุนแล้ว
ไหนจะค่าเช่าร้านอีกเดือนละเป็นหมื่น แทบจะไม่เหลืออะไรเลย
เรากับแม่เครียดมากเพราะค่าเทอมคณะที่เราเรียนอยู่แพงมากเกือบครึ่งแสน แล้วยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก วันๆนึงเราได้เงินไปมหาลัยวันละ200บาท 200นี่รวมหมดทั้งค่ากินค่าเดินทาง ค่าชีทเรียนก็ต้องอยู่ในงบนี้ เราพยายามประหยัดมากถึงมากที่สุด บางวันไปเรียนกินข้าวแค่มื้อเดียวแล้วกลับไปกินมื้อเย็นที่บ้านเอา เราก็พอมีเงินเก็บวันละ60-70 พอเก็บเงินได้จำนวนนึงบางทีแม่ก็มาขอยืม เราก็เข้าใจแม่นะว่าแม่ลำบาก ค่าเทอมก็หาเกือบตายกว่าจะได้แต่ละเทอม บางครั้งก็ต้องไปกู้มา
แล้วคณะที่เราเรียนมันจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ แบบถ่ายรูป ตัดต่อ เราก็ไม่มีใช้ต้องไปขอยืมเพื่อน แต่งานแบบนี้มันเยอะมากจะยืมทุกครั้งเราก็เกรงใจ เราก็ต้องไปยืมอุปกรณ์ของคณะซึ่งบางครั้งมันยืมไม่ทัน คืออาจารย์สั่งงานวันนี้ อาทิตย์หน้าต้องมาส่ง กว่าจะทำเรื่องขอยืมอุปกรณ์เสร็จก็ 3-4 วัน (วันทำการไม่นับเสาร์-อาทิตย์) ทำให้เราทำงานแทบไม่ทันส่ง แล้วก็ทำให้งานไม่ดีเท่าที่คิด
เราพยายามหางานพิเศษทำ แต่ก็ทำได้ไม่เยอะเพราะเรื่องตารางเรียนเราเต็มทุกวัน
เรื่องกู้เรียนเรากู้ไม่ได้เพราะพ่อเราเป็นข้าราชการ แต่เขาก็ไม่ช่วยเรื่องเงินเรากับแม่เลยเพราะแยกกันอยู่ไปแล้ว ส่งใบเสร็จค่าเทอมไปให้เขาเบิกแต่ก็ได้ไม่เต็มจำนวน และก็ได้แค่ปีละ 25,000 ซึ่งยังไม่ถึง 50%ของค่าเรียน/ปี
ทั้งหมดทั้งมวลมันทำให้เรารู้สึกท้อแท้มาก เรียนก็ได้ไม่เต็มที่ ไม่มีอุปกรณ์ทำงาน เครียดว่าแต่ละเดือนจะเอาเงินไหนจ่ายค่าเช่าร้าน ค่าเทอม เราหมดแรงที่จะไปเรียน ความรู้สึกนี้เพิ่งมาเป็นตอนเปิดเทอมปี2นี้เอง แม่ก็พยายามให้กำลังใจว่าให้สู้ต่อ เราก็ฝืนไปเรียนบ้างเพราะขนาดแม่ยังสู้เพื่อเราเลย แต่ใจเรามันหนักๆหม่นๆ ปวดหัว ไม่มีความสนใจในวิชาที่เรียน ขาดเรียนบ่อย ไม่รู้จะทำยังไงแล้วก็กลัวว่าเทอมนี้เกรดจะดิ่งลง
ทำยังไงดีคะ? ให้เรากลับมาสนใจอยากไปเรียนต่อ บางทีเราเครียดมากจนอยากไปหาจิตแพทย์เลยค่ะ
ปัญหาทางการเงินของครอบครัว ส่งผลกระทบกับการเรียนของเรา ทำไงดี?
แม่เปิดร้านอาหารส่งเราเรียนแค่คนเดียว ช่วงแรกๆก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่หลังๆร้านอาหารขายได้ไม่เกินวันละ 2,500 บาท หักค่าแรงลูกน้องกับต้นทุนแล้ว
ไหนจะค่าเช่าร้านอีกเดือนละเป็นหมื่น แทบจะไม่เหลืออะไรเลย
เรากับแม่เครียดมากเพราะค่าเทอมคณะที่เราเรียนอยู่แพงมากเกือบครึ่งแสน แล้วยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก วันๆนึงเราได้เงินไปมหาลัยวันละ200บาท 200นี่รวมหมดทั้งค่ากินค่าเดินทาง ค่าชีทเรียนก็ต้องอยู่ในงบนี้ เราพยายามประหยัดมากถึงมากที่สุด บางวันไปเรียนกินข้าวแค่มื้อเดียวแล้วกลับไปกินมื้อเย็นที่บ้านเอา เราก็พอมีเงินเก็บวันละ60-70 พอเก็บเงินได้จำนวนนึงบางทีแม่ก็มาขอยืม เราก็เข้าใจแม่นะว่าแม่ลำบาก ค่าเทอมก็หาเกือบตายกว่าจะได้แต่ละเทอม บางครั้งก็ต้องไปกู้มา
แล้วคณะที่เราเรียนมันจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ แบบถ่ายรูป ตัดต่อ เราก็ไม่มีใช้ต้องไปขอยืมเพื่อน แต่งานแบบนี้มันเยอะมากจะยืมทุกครั้งเราก็เกรงใจ เราก็ต้องไปยืมอุปกรณ์ของคณะซึ่งบางครั้งมันยืมไม่ทัน คืออาจารย์สั่งงานวันนี้ อาทิตย์หน้าต้องมาส่ง กว่าจะทำเรื่องขอยืมอุปกรณ์เสร็จก็ 3-4 วัน (วันทำการไม่นับเสาร์-อาทิตย์) ทำให้เราทำงานแทบไม่ทันส่ง แล้วก็ทำให้งานไม่ดีเท่าที่คิด
เราพยายามหางานพิเศษทำ แต่ก็ทำได้ไม่เยอะเพราะเรื่องตารางเรียนเราเต็มทุกวัน
เรื่องกู้เรียนเรากู้ไม่ได้เพราะพ่อเราเป็นข้าราชการ แต่เขาก็ไม่ช่วยเรื่องเงินเรากับแม่เลยเพราะแยกกันอยู่ไปแล้ว ส่งใบเสร็จค่าเทอมไปให้เขาเบิกแต่ก็ได้ไม่เต็มจำนวน และก็ได้แค่ปีละ 25,000 ซึ่งยังไม่ถึง 50%ของค่าเรียน/ปี
ทั้งหมดทั้งมวลมันทำให้เรารู้สึกท้อแท้มาก เรียนก็ได้ไม่เต็มที่ ไม่มีอุปกรณ์ทำงาน เครียดว่าแต่ละเดือนจะเอาเงินไหนจ่ายค่าเช่าร้าน ค่าเทอม เราหมดแรงที่จะไปเรียน ความรู้สึกนี้เพิ่งมาเป็นตอนเปิดเทอมปี2นี้เอง แม่ก็พยายามให้กำลังใจว่าให้สู้ต่อ เราก็ฝืนไปเรียนบ้างเพราะขนาดแม่ยังสู้เพื่อเราเลย แต่ใจเรามันหนักๆหม่นๆ ปวดหัว ไม่มีความสนใจในวิชาที่เรียน ขาดเรียนบ่อย ไม่รู้จะทำยังไงแล้วก็กลัวว่าเทอมนี้เกรดจะดิ่งลง
ทำยังไงดีคะ? ให้เรากลับมาสนใจอยากไปเรียนต่อ บางทีเราเครียดมากจนอยากไปหาจิตแพทย์เลยค่ะ