กว่าจะผ่าตัดไทรอยด์ ก้อนเนื้อร้ายมีโอกาสลามไปส่วนอื่นมากน้อยแค่ไหน

ยิ้มยิ้ม          สวัสดีค่ะ ตอนนี้เราอายุ 24 ปี เมื่อประมาณปลายปีที่แล้วพึ่งสังเกตุเห็นว่ามีก้อนที่คอด้านขวาค่ะ  ไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆทั้งสิ้น มีเพียงแค่ก้อนที่โตแต่ถ้าไม่สังเกตุก็จะเห็นไม่ชัด  รุ่งขึ้นก็ตัดสินใจไปหาหมอเลยค่ะ รพ.ที่ไปหานั้นเป็นรพ.ประจำอำเภอ หมอทำการเจาะเลือดไปตรวจ นัดอีก 2 อาทิตย์มาฟังผล ปรากฎว่าผลเลือดปกติค่ะ ระดับฮอร์โมนปกติ ค่าไทรอยก็ปกติ หมอจึงทำการส่งตัวไปรักษาต่อแพทย์เฉพาะทาง อีกรพ.หนึ่งค่ะ   ประมาณ 1 อาทิตย์จึงไปหาหมอเฉพาะทางของรพ.ที่หมอจากรพ.เดิมส่งตัวมา  หมอที่นี่ไม่ตรวจเลือดไม่ตรวจอะไรเลยค่ะ จับคออย่างเดียวแล้วบอกว่า แบบนี้ไทรอยแน่นอน หมอสั่งยาให้กินเลยค่ะ  เราก็บอกหมอไปว่า ทำไมรพ.เดิมที่ไปตรวจเลือดมา หมอเดิมบอกว่าค่าไทรอยปกตินิค่ะ  หมอบอกว่าจะเชื่อใคร จะเชื่อหมอคนเดิมหรือเชื่อหมอเฉพาะทาง เรานิเงียบเลยค่ะ ไม่กล้าถามไรต่อ กินยาไทรอยด์อยู่ประมาณ 6 เดือนค่ะ เป็นเม็ดสีขาวๆ กินวันละเม็ดครึ่ง ก่อนอาหารเช้า จากเดิมที่คอไม่โตมากนัก รู้สึกว่าช่วงกินยาคอจะเริ่มโตขึ้น ประกอบกับใจสั่นบ่อยๆโดยเฉพาะช่วงตอนเย็น ไม่รู้ที่ใจสั่นเกี่ยวกับกินยาหรือจากกินชาเย็น เราติดชาเย็นมากค่ะ วันละถุงทุกวัน วันไหนไม่ได้กิน รู้สึกไม่มีพลัง หลังจากกินยาประมาณ 6 เดือนเราบอกอาการหมอไปว่า ใจสั่น หมอเลยให้เจาะเลือดดู ผลปรากฎว่าไทรอยด์เป็นพิษค่ะ ตอนนั้นตกใจแทบอยากจะร้องไห้ เพราะกลัวตาจะโปน แต่หมอบอกว่า อาจจะเกิดจากการกินยาเข้าไปค่ะ หมอสั่งหยุดยาและไม่ทำการนัดอีกเลยค่ะ ตอนนั้นงงมาก  ไทรอยเป็นพิษแล้วทำไมไม่สั่งยาตัวใหม่ เราถามหมอกลับไปว่าเเล้วไม่อันตรายเหรอค่ะ หมอตอบกลับมาว่าค่าไทรอยสูงนิดหน่อยอาจเกิดจากการกินยา เดี๋ยวพอหยุดยาค่าไทรอยด์ก็จะปกติเอง คอเราก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมาก ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวถ้าคอโตขึ้นค่อยมาหาหมออีกที  กลับบ้านไปวันนั้นก็โทรบอกแม่ แม่นี้กังวลกว่าเราอีกค่ะ บอกให้เราไปอีกรพ.อื่น รอประมาณ 1 อาทิตย์ ก็มีเวลาไปตรวจใหม่ที่รพ.ที่แม่แนะนำ เราบอกอาการหมอทั้งหมดไปและหมอประวัติที่เคยรักษามาตอนนั้นหมอซาวที่คอดูค่ะ เอาะ ลืมบอกไปค่ะ รพ.นี้เป็นรพ.ของมหาลัยแห่งหนึ่ง เวลาเข้าตรวจนอกจากแพทย์ จะมีนักศึกเเพทย์ร่วมอยู่ด้วยค่ะ เมื่อหมอทำการซาวคอ หมอไม่พูดกับเรานะค่ะ แต่เรียกนักศึกษามาเพิ่มให้มาดูเคสเรา ในระหว่างการตรวจนั้นก็เป็นการสอนนักศึกษาไปด้วย หมอซาวดูที่คอ แล้วถามนักศึกษาว่าตรงกับภาพใดในโปสเตอร์ นักศึกษาทั้งหมดชี้ไปที่ภาพหนึ่ง เป็นภาพลักษณะการซาวต่อมไทรอยภาพนั้นมีลักณะเป็นจุดขาวๆค่ะ หมอไม่พูดไรมากค่ะแนะนำให้เราผ่าอย่างเดียว แต่ก่อนผ่าขอดูดเซลล์ไปด้วยยืนยันอีกครั้ง ตอนนั้นก็รู้สึกแปลกนะค่ะกลัวเป็นเนื้อร้าย แต่หมอไม่ได้บอกไรมาก แกบอกว่ารอผลดูดเซล,์อีกครั้งอย่าคิดมาก สองอาทิตย์ผ่านไปเรามาฟังผล หมอบอกว่าเป็นอย่างที่หมอคิดไว้ ซึ่งเราไม่รู้ว่าสิ่งที่หมอคิอไว้คืออะไร หมอบอกให้เราผ่าต่อมไทรอยด้านขวาออก ตอนนั้นเรารักษาโดยการจ่ายตังค์ หมอแนะนำให้เราไปขอใบส่งตัวมาเพราะกลัวจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ตอนนั้นในใจเราคิดว่าเป็นมะเร็งแน่นอน เราถามหมอว่าเป็นเนื้อร้ายมั้ย หมอบอกว่าต้องรอให้ผ่าชิ้นเนื้อมาตรวจก่อน ระหว่างที่เราไปขอใบส่งตัว อีกประมาณ 1 เดือนมาหาหมออีกครั้งหนึ่ง ที่นี้มีนักศึกษาแพทย์เต็มห้องเลยค่ะ หมอให้นักศึกษาแพทย์ทำการซาวคอใหม่  ตอนนั้นทั้งหมอและนักศึกษาก็คุยกัน เราได้ยินหมอถามนศว่าเป็นไปได้กี่เปอร์เซน นศ.ตอบว่า 90 เปอร์เซ็น ซึ่งเราไม่รู้ว่าจริงแล้วโอกาศที่เป็นไปได้นั้นคืออะไร แต่เรารู้สึกว่ามันคือก้อนมะเร็งต่อมไทรอยด์ แต่หมอไม่บอกไรมากนะค่ะ แค่บอกว่าไม่ต้องกังวลมากเพราะตอนนั้นสีหน้าเราไม่ค่อยดีนัก หมอนัดผ่าเราในเดือนตุลาคมนี้ แต่ตอนนั้นในหัวเราเรากลัวจะเป็นมะเร็งไทรอยด์มากค่ะ กลัวเซลล์มะเร็งจะล่ามไปส่วนอื่นๆ จึงขอให้หมอเลื่อนนัดการผ่าตัดให้เร็วขึ้น จ่ายตังเราก็ยอมค่ะ แต่หมอบอกว่าคิวเดือนกันยาเต็มมาก ไม่มีเวลา เราจึงเอาคิวนัดผ่าตัดตามเดิมค่ะ

     กลับมาถึงบ้านจากวันนั้นจนถึงวันนี้ในหัวมีแต่เรื่องมะเร็งไทรอยค่ะ เป็นกังวลไปหมด หาข้อมูลอยู่นั้นแระ สิ่งที่กังวลมากที่สุดตอนนี้คือถ้าหากเป็นมะเร็งไทรอยจริง กว่าจะผ่าตัด ซึ่งต้องรออีกหนึ่งเดือน เซลลล์มะเร็งจะลุกลามไปที่อื่นมั้ยค่ะ แล้วถ้าหากลามไปที่อื่นเช่น ต่อมน้ำเหลือง ก็จะเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองอีกอย่างนั้นใช่มั้ยค่ะ โอยยยยยิ่งคิดยิ่งเครียดค่ะ
     แล้วถ้าหากเป็นมะเร็งไทรอยจริง และพบเฉพาะด้านขวา ต้องตัดด้านซ้ายทิ้งด้วยมั้ยค่ะ
     แล้วถ้าตัดต่อมไทรอยออกจะมีโอกาศตั้งครรภ์ได้มั้ยค่ะ
     ตอนนี้คิดแต่เรื่องนี้ทุกวันเลยค่ะ พยายามไม่เครียด แต่ก็อดคิดไม่ได้
      ขอบคุณมากค่ะที่เข้ามาอ่านและให้คำแนะนำยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่