เหนื่อยหน่ายสามีเป็นคนไม่มีน้ำใจ ควรจบหรือไปต่อดีคะ

เรากับสามีรู้จักกันก่อนตัดสินใจแต่งงานหลายปี  สามีโดยรวมเป็นคนโอเคไม่มีปัญหาเรื่องผู้หญิง เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ แต่ชอบเล่นเกมส์ เล่นการ์ด อ่านการ์ตูน เราเป็น working woman ทำงานมีรายได้พึ่งพาตัวเอง พอแต่งงานสามีย้ายมาอยู่ที่บ้านเรา สามีทำงานบริษัทเอกชนกว่าจะเลิกงานกลับบ้านราว ๆ สามส่ีทุ่ม แต่เสาร์อาทิตย์ไม่ต้องไปทำงาน ตอนนี้มีลูกชายหนึ่งคนอายุประมาณขวบเศษ งานบ้านเราทำเองทุกอย่าง และขอร้องให้สามีช่วยทำงานบ้านในส่วนที่ช่วยได้ เช่น ล้างขวดนมลูกทุก ๆ วัน ทำความสะอาดบ้านบ้างในวันหยุด สามีก็รับปากดี แต่กว่าจะทำให้ต้องให้เราคอยบ่นคอยถาม และตัวเองก็ผลัดวันประกันพรุ่งตลอด สุดท้ายต้องเป็นเราเองที่ทำเนื่องจากทนไม่ไหว บางทีเราอยากมีเวลาส่วนตัวหรืออยากพักบ้าง (ทานข้าว อาบน้ำ เข้าส้วม) ขอให้สามีช่วยดูลูกให้แปปนึงหรือให้ช่วยอุ้มลูกบ้าง สามีก็ชอบหนีเข้าห้องน้ำเป็นเวลานาน ๆ เข้าทีนึงประมาณ 1 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ เอาโทรศัพท์ไปเล่น เอาการ์ตูนเข้าไปอ่าน ทั้ง ๆ ที่เค้าก็รู้นะว่าเราเหนื่อย เวลาจะไปข้างนอกก็ไม่เคยช่วยเตรียมข้าวของมัวแต่เข้าห้องน้ำ เรากับลูกเตรียมตัวเสร็จแล้วพร้อมออกเดินทางกลับต้องรอสามีเป็นชั่วโมง ๆ ทุกวันนี้เหนื่อยใจมากค่ะ พักหลัง ๆ นี่เริ่มจะชิน เราไม่คาดหวังอะไรอีกแล้วจากตัวสามี เพราะรู้สึกว่าถึงมีเค้าอยู่ก็เหมือนไม่มี ยังไงก็เหมือนอยู่คนเดียวอยู่แล้ว ค่าใช้จ่ายในบ้านเราก็เป็นคนดูแล สามีนาน ๆ จะช่วยจ่ายบ้าง  
ตอนนี้ความรู้สึกเบื่อหน่ายเริ่มรุนแรง เวลาว่างก็รู้สึกไม่อยากไปไหนกับเค้าแล้ว อยากจะอยู่คนเดียว  รู้สึกชินกับการที่ไม่มีเค้าอยู่ในชีวิต ก่อนหน้านี้เคยพูดคุยเปิดอกกันเค้าก็เข้าใจนะว่าควรทำหรือปรับปรุงตัวอย่างไรแต่สุดท้ายเค้าก็ทำตัวเหมือนเดิม อยากจะเลิกกับสามีแต่ก็สงสารลูก กลัวลูกจะขาดความอบอุ่นถ้าพ่อแม่แยกทางกัน ควรทำอย่างไรต่อไปดีคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ถ้าสงสารลูก คุณควรทำตัวให้มีความสุขที่สุดค่ะ

ถ้าคุณมีความสุข ลูกคุณก็จะมีความสุข

จริงๆ เด็กไม่ได้เรื่องมากขนาดพ่อแม่ต้องอยู่ครบ
บ้านต้องสวย ต้องมีรถยนต์ให้นั่ง ต้องมีของอร่อยๆกินทุกวัน หรอกค่ะ

ทุกอย่างล้วนเป็นมุมมองของผู้ใหญ่ แต่เด็กนั้นต่างจากผู้ใหญ่ เพราะถ้าหากเขามีทุกอย่าง แต่แม่ที่อยู่กับเขาวันๆแทบไม่มีรอยยิ้ม ดวงตาเศร้าหมอง บางทีขี้หงุดหงิดโมโห เด็กก็คงไม่มีความสุขหรอก
ความคิดเห็นที่ 4
ไหนว่าคบกันหลายปี  แล้วเรื่องไม่มีน้ำใจนี่ ตอนยังไม่ได้แต่งงานกัน ไม่รู้เหรอคะ

   เรื่องการเงิน ต้องคุยกันใหม่ จะคนละกระเป๋าก็ได้ แต่ต้องแบ่งมาลงกองกลาง ในจำนวนเท่าๆกัน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของครอบครัวและของลูก

  เรื่องงานบ้าน ในเมื่อทำงานกันทั้งคู่ ก็จ้างแม่บ้านมาทำค่ะ ออกค่าจ้างคนละครึ่ง ก็จากเงินกองกลางนั้นแหละ

  แต่เรื่องลูก ต้องให้เค้าทำหน้าที่พ่อด้วย เช่นให้ช่วยอาบน้ำ ป้อนข้าว เล่นกับลูก พาลูกเข้านอน พาไปเที่ยว เป็นต้น
   ไม่ใช่แม่ต้องทำทั้งหมด ทั้งๆที่พ่อก็ยังมีชีวิตอยู่
ความคิดเห็นที่ 17
ผู้ชายบางคนไม่ได้เป็นคนเลวร้าย แต่โง่ในบางเรื่องและชินกับการมีคนบริการค่ะ

- อยากได้เงินมาช่วยกองกลาง ออกปาก
- งานบ้านจุกจิกที่ต้องใช้ความเป๊ะ ไม่เอาไหน ใช้เงินแก้ปัญหา
- อยากให้ใส่ใจบางเรื่อง บอก
- มอบหมายงานให้เข้ากับความถนัดของคน งานละเอียดทำได้ไม่ดี ก็ให้ทำงานแมนๆ เปลี่ยนหลอดไฟ ล้างรถ ดูแลรถ ตัดหญ้า ซ่อมท่อ ไรงี้

แต่ต้องพูดสั้นๆ ตรงประเด็น อย่ายาวโยงหลายเรื่องเพราะเค้าจะเบื่อและตัดการรับรู้ก่อนฟังจบ อย่าดราม่าและอ้อนบ้างก็ได้ มารยาหญิงมีเท่าไหร่ใช้ให้หมด

ตามนี้ก่อน ก่อนคิดเรื่องหย่า ลองดูนะคะ
ความคิดเห็นที่ 8
ทำไชีวิตคุณมันช่างเหมือนชีวิตของเราจัง คุยกันแล้วอะไรก็แล้ว ยังเหมือนเดิม จนล่าสุดเรางดเพศสัมพันธ์กับสามีไปเลย ถ้าอยากมีคุณต้องมีความดีเข้าแลกแรกๆเค้าก็ทำมาพักหลังๆก็เหม่อนเดิม จนตอนนี้เราหอบลูกมาอยู่บ้านตัวเองแล้ว มีความสุขและแฮปปี้ขึ้นเยอะ บวกกับโรคซึมเศร้าของเราก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนนึงน่าจะมาจากสามีที่เป็นตัวกระตุ้น ตอนนี้เราอยู่บ้านกับพ่อแม่นานๆสามีจะมาหาลูกครั้งนึง คุณลองถามตัวเองดูนะคะว่า คุณมีความสุขไหมถ้ามีเค้า แล้วทุกข์ไหมถ้าไม่มีเค้านั่นแหละค่ะคำตอบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่