ชีวิตดี๊ดี 9 วัน...ที่ Rome - Napoli - Pompei - Sorrento - Almafi - Positano (Part 2)


ชิวิตดี๊ดดี 9 วัน...ที่ Rome - Napoli - Pompei - Sorrento - Almafi - Positano Part 1 https://ppantip.com/topic/36808757

สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page "Through Napa's Eyes" ค่ะ

DAY 2: Vatican Museum & Sistine Chapel - ถ่ายรูปกับ St. Peter Basilica - Shopping ที่ Spanish Steps - Ruin of Forum - ชมวิวรอบ Colosseum


มีรุ่นพี่แนะนำว่าให้เช่า scooter ขับในโรมเที่ยวจะได้ไปทั่วๆ เหตุเพราะ 1. สะดวก ไปได้ทุกที่ 2. ไม่ต้องเจอรถติด 3. จอดรถได้ทุกที่ไม่ต้องจ่ายตังค์ งั้นเราตาม ตื่นเช้ามาถามจาก reception หาร้านให้เช่า scooter แถวนี้ไหม คือโชคดีมาก! เดินไป 20 ก้าวถึง ชื่อ Bici & Baci S.R.L เราเช่า scooter 2 วัน เพราะวันที่ 4 เรามีงานแต่งงาน

• ราคาค่าเช่า scooter รถขนาด 125cc ราคา 80 Euro ต่อ 2 วัน รวม standard ประกันภัย หากต้องการรถขนาด cc สูงหรือต่ำกว่านี้ก็มีค่ะ แต่ถ้าต่ำกว่า 100cc จะเป็นมอไซค์สำหรับนั่งคนเดียว
• เอกสารที่ใช้เช่าคือ 1. Passport 2. ใบขับขี่ Inter (ควรพกใบขับขี่ตัวจริงไปด้วยทุกครั้ง เพราะบางที่เค้าขอดู กรณีนี้ใช้ใบขับขี่รถยนต์ได้ แต่ถ้าเช่า Big Bike จะต้องเป็นใบขับขี่มอเตอร์ไซค์)
• ค่าประกันรถ ใช้บัตรเครดิต เพื่อล๊อควงเงินไว้จำนวน 400 Euro เมื่อคืนรถเค้าจะ void ยอดนั้นออกให้
• การนับเวลาเช่านับเป็น 48 ชั่วโมงคะ เช่น ถ้าเช่า 9.00 วันที่ 1 ก็คืนวันที่ 3 9.00
• ถ้าอยากเช่า Vespa ราคาจะสูงกว่านี้ ประมาณ 127 Euro ต่อ 2 วัน
• ร้านมีบริการหมวกให้ และท้ายรถมอไซค์ทุกคันที่โรมจะมีกล่องใส่ของ ซึ่งสามารถใส่หมวกได้ 2 ใบพอดี เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่า เวลาไปเดินเที่ยวจะเอาหมวกไว้ไหน
• ตอนรับรถน้ำมันมาเต็มถัง ตอนคืนก็เติมให้เค้าเต็มถังคะ สำหรับขับรอบโรม 2 วันรวมขับไป Tivoli ด้วย เราจ่ายค่าน้ำมันไป 10 ยูโร
*ราคานี้คือร้านที่เราเช่านะคะ ร้านอื่นราคาอาจจะสูงหรือต่ำกว่านี้ เราก็ไม่แน่ใจ แต่ว่าเอาสะดวกค่ะ เช่าง่าย คืนง่าย

Tips สำหรับการขับขี่และจอดมอไซค์
• อิตาลีขับรถเลนขวา ไม่เหมือนบ้านเราที่ขับซ้าย และมอไซค์ที่โรมขับรถเหมือนมอไซค์ในกรุงเทพเป๊ะ ซิกแซกไปจอดรอไฟแดงด้านหน้า แซงซ้าย แซงขวา อยากจอดไหนจอด ถนนไหนรถไปไม่ได้ แต่อาจจะมอไซค์ไปได้ ย้อนศรบ้างอะไรบ้าง ไปได้หมด hahaha
• ระวังเรื่องที่จอดรถอย่างเดียว คือ อย่าไปจอดเส้นสีเหลือง เพราะเป็นที่จอดรถ TAXI แต่ถ้าตรงไหนไม่แน่ใจ หาเพื่อนเอา ไปจอดกับเค้าเป็นอันโอเค
• ใช้ google maps ได้เพื่อนำทาง แต่ต้องดูทางดีๆหน่อยค่ะ เพราะถ้าเลือกทางสำหรับรถจะค่อยข้างอ้อม เนื่องจากถนนที่โรมเป็นทาง one way เยอะ ถ้าอยากจะลัดเลอะอาจจะต้องใช้ทางคนเดินแทนจะเร็วกว่า แล้วสังเกตุเอาว่าถนนไหนเป็นถนนคนเดินที่รถห้ามผ่าน อาจจะต้องดู maps เองประกอบกันไป จะร่นระยะทางไปได้มากค่ะ
• มอไซค์ในอิตาลีสามารถขึ้น Highway ได้ แต่ต้องเครื่องยนต์ตั้งแต่ 150cc ขึ้นไปเท่านั้น
• มอไซค์สามารถขับออกไปนอกโรมได้ อย่างเราขับออกไปเมืองใกล้ๆ ห่างจากโรมประมาณ 30 กม. ชื่อ Tivoli มา แต่ก็ต้องวิ่งถนนธรรมดาเอา


มอไซค์พร้อม!!! ตะลุย Rome กันเลย Vatican Museum & Sistine Chapel: เราไปเที่ยวเดือน กรกฎาคม มันเป็น High Seasons ของการท่องเที่ยว ต่อคิวเข้า Vatican นี่ยาวมากๆ เคยอ่านบางคนรอ 3-4 ชั่วโมง เราเลยซื้อตั๋วเข้า Vatican online เป็นแบบ Skip the Line เพื่อจะได้ไม่ต้องต่อคิว ประหยัดเวลา ราคาค่าเข้า 16 ยูโร ค่าลัดคิดอีก 4 ยูโร (เด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบเข้าฟรี) ตอนซื้อตั๋วเค้าก็จะให้เลือกช่วงเวลาที่จะเข้า เราเลือก 10 โมงเช้า เราไปถึงประมาณ 9.45 น. ก็เข้าได้เลยค่ะ ไม่ได้ strict เรื่องเวลาขนาดนั้น อย่างน้อยไปตามช่วงระยะเวลาเป็นอันโอเค ไม่จำเป็นต้องเป็น 10 โมงเป๊ะ ต้อง print ตั๋วออกไปด้วยนะคะ
ที่จอดรถ: ประตูทางเข้า Vatican Museum อยู่ด้านหลังของ Vatican City วิ่งเลอะกำแพงไปเรื่อยๆ ถ้าเดินจาก St.Peter Square ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ด้วยมอไซค์ก็ 3 นาทีค่ะ เราก็ไปจอดรถแถวนั้นจะได้เดินใกล้ บริเวณนั้นจะมีร้านอาหารและ cafe เยอะ เราก็มองหาที่จอดมอไซค์ แล้วก็ได้ที่จอดห่างจากทางเข้าไปประมาณ 1 บล๊อค
ทางเข้าจะมีแยกสำหรับคนที่ไม่ได้ซื้อตั๋วล่วงหน้ากับ Skip the Line ค่ะโชว์ตั๋วให้เค้า เค้าจะ scan QR Code ก็เข้าได้เลยค่ะ เพื่อไปผ่าน security เหมือนในสนามบิน ที่นี่ห้ามเอาน้ำเข้า เมื่อผ่าน security แล้ว ก็เอาตั๋วที่เราปริ้นท์มาไปแลกตั๋ว Vatican Museum ที่ช่องขายตั๋วทางด้านซ้าย ก่อนเดินเข้า Museum เราเช่า Audio Guide เพิ่ม ค่าเช่า 7 ยูโร เผื่อจะได้รู้ประวัติ แต่โดยมากเค้าอธิบายว่าของแต่ละชิ้นได้มาจากไหน ใครทำ เลยไม่ค่อยใช้แนวเท่าไหร่ หลังๆเลยฟังบ้างไม่ฟังบ้าง แล้วตามความชอบเลยของคนเลย หรือถ้าใครสนใจทัวร์ที่มีคนคอยอธิบาย (Guided Tour) ควรจองล่วงหน้าค่ะ อันนี้จะมีเป็นเวลาของแต่ละภาษา ใช้เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมง ราคา 32 ยูโรค่ะ


เข้ามาด้านในค่ะ


เห็นสวน กับ St.Peter Basilica ด้วยค่ะ วิวสวยมาก

โถงบันไดเพื่อเข้าชม Museum ค่ะ

ภายใน Museum ค่ะ ส่วนใหญ่เป็น Collection รูปปั้น รูปภาพ ของเก่าตามยุคต่างๆค่ะ


ทางเดินไป Sistine Chapel คนเยอะมากๆๆ

รูปภาพแผนที่อิตาลี สมัยก่อนสวยมากๆค่ะ มีตลอดทางเดินเลย


ใน Sistine Chapel ห้ามถ่ายรูปค่ะ ซึ่งเค้าถือว่าเห็น ห้องศักดิ์สิทธิ์ ที่เค้าเอาไว้เลือก Pope ค่ะ เราใช้เวลาใน Museum ทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งเดินไม่ทั่วนะ เพราะว่าคนเยอะด้วย แล้วบางศิลปะก็ไม่อินเพราะไปทางศาสนามาก ก็เลยเดินผ่านๆไปเยอะค่ะ

จาก Museum เราไปกันต่อที่ St. Peter's Square กันค่ะ มุมยอดฮิตของ Vatican City เราก็ขี่มอไซค์ไปจอดใกล้ๆ แล้วก็เดินเข้าไปที่ Square เพราะมันเป็นส่วนที่รถห้ามเข้าค่ะ ไปถึงประมาณ บ่าย 3 เห็นคนต่อคิวยาวมากกกกก เพื่อเข้า St. Peter Basilica ซึ่งเข้าฟรีค่ะ คิวยาวเนื่องจากต้องผ่าน security เหมือนก่อนเข้า Museum ค่ะ แต่ก็มีคนมาขายตั๋วบอกว่า ลัดคิว ก็ไม่รู้ว่าเชื่อถือได้แค่ไหน จำได้ว่าราคาสูงอยู่ เราเลยไม่เข้าค่ะ ให้ต่อคิวก็ไม่ไหว แดดร้อนมากๆๆ 40 องศาแถมแดดเปรี้ยงมาก เลยได้แต่ถ่ายรูป

St. Peter Basilica
พาชม St. Peter Square อมยิ้ม01


ถ่ายรูปเสร็จจาก Vatican City เราแวะไปกิน Tiramisu ที่ว่ากันว่าอร่อยที่สุดใน Rome (ติดตามกัน ต่อไปนะคะ) หลังจากอิ่มท้อง ก็ไป Shopping กัน!! ปลายเดือนมิถุนายนจนถึงต้นเดือนกรกฎาคม ของทุกปีเป็นช่วง Summer Sale ไปทุกร้านลดราคากันทุกร้าน ได้ข่าวว่า Italy นี่ ลดกระหน่ำ Summer Sale

พลบค่ำ ประมาณ ทุ่มกว่าๆ เราไปดู Ruin of Forum & Colosseum กัน เพราะแดดเบาลงหน่อย อากาศเริ่มเย็นขึ้น ขี่มอไซค์จาก Spanish Steps ไปแถว Colosseum ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เราแวะถ่ายรูปที่ Ruin of Forum กันก่อน ซึ่งอยู่ใกล้กับ Colosseum ก็เป็นซากปรักหักพังของสถานที่สำคัญของ อาณาจักรโรมัน ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์กลางของ Rome โบราณ

เสร็จก็ตั้งใจจะขับรถวนรอบ Colosseum เพราะเห็นว่าเป็นวงกลม แต่ถนนไม่กลมรอบจ้า haha ไปได้แค่ 3/5 ถนนก็ไปอีกทางละ เลยต้องกลับรถมาหาที่จอดแถวๆ สถานีรถไฟใต้ดิน แล้วไปเดินวนถ่ายรูปเอา เราไปถึงก็ 2 ทุ่มกว่าแล้ว Tour ปกติปิดหมดแล้ว มีแต่ Tour After Hour ที่เค้ามาถามว่าเราเข้าไปดูตอนนี้ไม่ต้องเบียดกับใคร แล้วได้เข้าไปดูห้องใต้ดินด้วย แต่ราคาคนละเกือบ 100 ยูโร เลยขอผ่านค่ะ
ถ้าใครสนใจเข้าชม Colosseum ด้านใน ตั๋วราคา 12 ยูโร สามรถเข้าได้ทั้ง Colosseum และ Ruin of Forum/Palatine hill ตั๋วมีอายุ 2 วัน สามารถเข้าแต่ละสถานที่ได้ 1 ครั้ง อายุ 17 ปี หรือต่ำกว่าเข้าฟรี
ประทับใจกับสิ่งก่อสร้างนี้มากๆ มันยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างมาก คนสมัยก่อนเก่งมากๆเลยนะคะ สามารถสร้างสถานที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ มีเครื่องกล และความซับซ้อนได้มากขนาดนี้ เมื่อเป็นพันกว่าปีที่แล้ว
Colosseum สถานที่ให้ความบันเทิงสำหรับคนสมัยก่อน นอกจากมีการต่อสู้ของ Gladiator แล้ว จะมีใครรู้บ้างว่า เค้ามี Ship Battle หรือเรือรบให้ดูกันด้วย โคตรเจ๋งเลย ใน Colosseum จะมีระบบเอาน้ำเข้า-ออก เพื่อการแสดงโชว์ต่อไป ถ้าเราเข้าไปชมด้านในของ Colosseum จะเห็นเป็น กำแพงกั้นๆ เยอะๆ ไม่เห็นเหมือนในหนังที่เราดูเลย ซึ่งอันที่เราเห็นจริงๆแล้ว มันคือห้องใต้ดินที่ไว้ขังทาส Gladiator สัตว์ป่า และสิ่งต่างๆที่เค้าจะให้แสดง เวทีจะเป็นไม้ปิดทับบริเวณที่เราเห็นและปิดด้วยทราย และใต้นั้นก็มีระบบ Lift คอยเอาคน/สัตว์ ขึ้นลง เหมือนกับเวทีสมัยนี้เลย


จบวันที่ 2 ที่ Colosseum อันยิ่งใหญ่ พรุ่งนี้จะไปนอกเมือง ชมสวนสวยๆ ที่ Tivoli แล้วเข้า Pantheon กันค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่