Hello Korea again and again !!
สวัสดีเกาหลีใต้ เจอกันอีกแล้วนะ เหมือนเพิ่งจะเจอกันเมื่อไม่นานนี้เอง ^^
นี่ทริปเกาหลีรอบที่ 4 ของเรา ก่อนหน้านี่ที่ไปมาคือช่วงธันวาคม 2016 และคราวนี้เป็นทริปที่มากับดวงค่ะ เราบังคับพี่ปุ๋ย ไปร่วมกิจกรรมใน Instagram @airasia_thai ชื่อกิจกรรม Dance To Fly (พี่ปุ๋ยเต้น อุ้มคิดแคปชั่น)
และได้รางวัลเป็นตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ดอนเมือง-อินชอน 1 รางวัล 2 ที่นั่ง พอได้รางวัล ก็ติดต่อต่อกับทางบริษัทจัดการออกตั๋วเสร็จปุ๊บก็เริ่มหาแนวร่วม 5555
ออกเดินทาง 28 ก.ค. - 7 ส.ค. 2017 11 วัน 10 คืน
เราชวนเพื่อนที่เคยไปด้วยกันทริปที่แล้วแต่ทุกคนติดงานและคราวนี้เราไปกันหลายวันคนอื่นเลยไม่สะดวก ก็เลยชวนพี่อีกคนที่เคยไปเกาหลีด้วยกันในครั้งแรกที่เราไปเลย ชวนปุ๊บก็ตกลงปั๊บเลย เลยงานไม่ใช่ปัญหา 5555
พี่เค้าจองตั๋วเครื่องบินไปไฟล์ทเดียวกับเราเลย แต่ช่วงก่อนไป 1-2 เดือนตั๋วไฟล์ทนี้แพงมากๆ ไปกลับรวมโหลดกระเป๋าประมาณ 18,000 บาท แล้วราคาชั้นประหยัดแพงกว่าชั้นธุรกิจอีก พี่เค้าเลยจองธุรกิจเลย (ไปสวยๆ) แต่ขากลับก็นั่งธรรมดากลับกับเรา 5555
ปล.พอใกล้ๆบินอาทิตย์กว่าราคาปรับลงมา รวมแล้วเหลือประมาณ 13,000-14,000 เอง เจ็บใจนิดๆ
รางวัลที่เราได้รับคือฟรีเฉพาะค่าตั๋ว เราต้องจ่ายค่าภาษีสนามบิน ค่าเลือกที่นั่ง และค่าโหลดกระเป๋าเอง
ภาษีสนาบิน 2 ที่นั้ง 4,360 บาท
เลือกที่นั่งเราไม่ได้เลือกไปค่ะกะว่านั่งตรงไหนก็ได้แปบเดียวเอง ไม่ต้องเสียตัง แต่เรากับพี่มีคูปองอัพที่นั่งเป็น Hot Seat ที่ได้จากบัตรเครดิตแอร์เอเชีย แพลทินัม มาสเตอร์การ์ด ธนาคารกรุงเทพ เลยขอเจ้าหน้าที่นั่งติดกัน
ค่าโหลดกระเป๋าคนละ 1,610 บาท เราโหลดแค่ขากลับ คนละ 30 กิโล ขาไปใช้คูปองโหลดกระเป๋าฟรีที่ได้จากบัตรเครดิตแอร์เอเชีย แพลทินัม มาสเตอร์การ์ด ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งจะโหลดได้ 1 ใบ 20 กิโลกรัมนะคะ อย่าลืมเอาคูปองไปยื่นตอนเช็คอินนะ เรากับพี่มีคนละใบ แต่นางลืมเอาคูปองโหลดกระเป๋ามาจ้าาา เอา Hot Seat มา 2 ใบ ตื่นเต้นกันเลย 5555 โชคดีที่พี่ที่ไปด้วยอีกคนบินธุรกิจ โหลดได้ 40 กิโล เลยฝากพี่โหลดไป ไม่งั้นได้จ่ายค่าน้ำหักเพิ่มแน่ เพราะใบขอเรา 12 กก. ส่วนของพี่ 15 กก. ถ้าโหลดเป็นชื่อเราก็เกินอยู่ดี
ที่เคาน์เตอร์ช่องเช็คอินพี่เศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตแอร์เอเชีย แพลทินัม มาสเตอร์การ์ด ธนาคารกรุงเทพ จะเป็นช่องข้างๆชั้นธุรกิจ จะมีป้ายเล็กๆตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์ ใครที่มีบัตรไปช่องนั้นได้เลยนะคะ ไม่ต้องไปต่อแถวยาวๆ ไม่ได้ค่าโฆษนาแต่อย่างใด แต่มันสะดวกจริงเลยมาแนะนำนะจ๊ะ ตอนขึ้นเครื่องก็ขึ้นเครื่องได้ก่อนด้วยนะ และยังขอรับบริการเครื่องดื่มร้อน หรือเย็น บนเครื่อง มูลค่า 60 บาทได้ด้วย แต่ทั้งหมดนั้นใช้ได้แค่ตอนออกจากไทยนะ ตอนกลับใช้สิทธิ์ไม่ได้เด้อ
ที่พัก เราเลือกพัก AirBnb ค่ะ พักฮงแดเหมือนเดิม แต่เขยิบไปแถวๆยอนนัมดง (Hongik Station Exit 3)
ก่อนจองหาข้อมูลเยอะมากๆ ราคาส่วนใหญ่ก็พอๆกัน พยายามไล่อ่านรีริว ดูสิ่งอำนวยความสะดวก ที่นี่ใกล้รถไฟใต้ดิน เดินเล่นๆประมาณ 5-10 นาที มีครัว เครื่องซักผ้า เตารีด มีPocket wifiให้ยืม แต่สุดท้ายที่เลือกจองที่นี่ก็เพราะเจ้าของห้องอปป้าเสื้อแดงเนี่ยแหละค่ะ 5555 ตอนนี้เค้าเปลี่ยนรูปแล้ว ไม่ใช่อปป้าเสื้อแดงแล้วนะ อ่อ เจอเจย์อปป้าตัวเป็นๆด้วย บางรีวิวบอกไม่เคยเจอเจ้าของบ้านเพราะเค้าให้เช็คอินด้วยตัวเอง พวกเราไปถึงเร็วก็เลยขอเค้าเอากระเป๋าไปฝากไว้ก่อน กะว่าถึงเวลาบ่าย 3 โมง ค่อยมาเช็คอิน แต่พอเราไปถึงประมาณบ่ายโมงเค้าเพิ่งมาทำความสะอาดห้องเสร็จพอดีเลยเจอกัน อปป้าเลยช่วยแบกกระเป๋าไปที่ห้อง อธิบายนู้นนี่นั้นนิดหน่อยแล้วก็ไป ให้พวกเราเข้าพักได้เลย ปล.ตัวจริงหล่อกว่าในรูปอีกนะ ไม่เชื่อลองจอง 5555 พี่เราบอกว่าหน้าคล้ายๆ บัง ยงกุก B.A.P. แต่เจย์หล่อกว่าด้วย
รูปห้องพักเราค่ะ ถ่ายทำสถานที่จริง ><
เกือบลืมราคา เราพัก 9 คืน ราคา 21,981 บาท
คืนละ 2,442 บาท ถ้าหาร 3 ก็เหลือคนละ 815 บาท ราคาพอๆกับนอนห้องรวมเลยนะ
มากันที่ Pocket wifi ตอนแรกเราว่าจะไม่หาเพิ่มแล้วค่ะ เพราะที่พักมีให้ยืมแล้ว แต่ไปเล่นเกมได้รางวัลมาโชคดีไปอีก!!
เราเล่นเกมจากเพจ All About เกาหลี ร่วมกับ Tripizee แจก Pocket wifi ฟรีตลอดทริป (สูงสุด 10 วันแต่เราไป 11 วัน จ่ายเพิ่มนิดหน่อย แต่ก็คุ้มค่ะ) ที่ดอนเมืองไม่มีนัดรับนะคะ แต่เค้ามีบริการส่งให้ด้วยเสียค่าส่งนะ ส่งมาให้เราก่อนเดินทาง 3 วัน
เนื่องจากทริปนี้ไปหลายวันเราเลยจะออกไปเที่ยวต่างจังหวัดกันบ้าง เราเลือกไปแบบไป-กลับค่ะ เพราะจ่ายค่าที่พักที่นี่ไปแล้ว ไม่อยากจ่ายเพิ่มเสียดายตัง 5555 ไปปูซาน 1 วัน และแทกู 1 วัน เลยจองบัตร KR PASS ก่อนไป จองก่อนไปจริงๆ จองกลางวันบินกลางคืน เพราะรอดูสภาพอากาศก่อน กลัวจองแล้วฝนตกจะเที่ยวไม่คุ้ม การจองก็ไม่ยากเลย เข้าเว็บไซต์ กรอกข้อมูลโลดมีภาษาอังกฤษค่ะ เราไปกัน 3 คน ได้ราคา Saver หรือแบบประหยัด (เป็นราคาสำหรับคนที่เดินทาง 2-5 คน) เค้าจะมีให้เลือกหลายแบบนะคะ เช่น 1 วัน / 3 วัน / 5 วัน / 7 วัน อันนี้คือต้องติดๆกัน เช่น ซื้อแบบ 3 วัน เริ่มใช่วันที่ 1 จะหมดอายุวันที่ 3 ตอนเที่ยงคืน หรืออีกแบบ คือ 2 วัน / 4 วัน แต่สามารถเลือกได้ว่าเราจะใช้วันไหนบ้างภายใน 10 วัน ซึ่งเราซื้อแบบที่ 2. 2 days flexible pass ราคา 91,000 วอน แต่ถ้าใครไปคนเดียวจะราคา 102,000 วอนนะคะ เมื่อจองเรียบร้อยแล้วเราก็แค่ปริ้นใบจอง เพื่อเอาไปรับตั๋วที่ เคาน์เตอร์ Information ได้เลย (ตอนจองเค้าจะให้ใส่เลขบัตรเครดิตด้วยนะ แต่จะยังไม่ตัดเงินในบัตรเรา จะตัดตอนเราไปรับบัตร) เราไปรับที่อินชอนเลย เคาน์เตอร์อยู่ตรงข้ามกับทางลงไปขึ้นรถไฟ AREX เข้าเมืองเลย
ไปถึงก็ยื่นใบที่ปริ้นมาให้เจ้าหน้าที่ พร้อมกับพาสปอร์ต และบัตรเครดิต เค้าก็ถามว่า เราต้องการใช้วันไหนบ้าง อย่างของเราจะใช้วันที่ 30/07 และ 02/08 ก็แจ้งเค้าไป แล้วเค้าจะให้บัตรมา 1 ใบ เป็นใบเล็กๆเท่าบัตร ATM ซึ่งจะมีข้อมูลต่างๆอยู่บนบัตร ย้ำว่าได้แค่ 1 ใบ ไป 3 คนก็ 1 ใบนะ ซึ่งเราจะใช้บัตรใบนี้แหละในการออกตั๋วรถไฟ เวลาเราจะเดินทางไปไหน แล้วเจ้าหน้าที่ก็ถามเราว่าวันที่ 30/07 จะไปไหนกัน เค้าจะออกตั๋วให้เลย เราก็แค่แจ้งเค้าไปว่าจะไปปูซาน เวลานี้ๆ จะเดินทางจาก Seoul station เค้าก็จะปริ้นตั๋วมาให้ ใช้ขึ้นรถไฟได้เลย
[CR] เล่าเรื่องเที่ยว :: 10Days in KOREA _ Seoul - Busan - Songdo - Daegu
Hello Korea again and again !!
สวัสดีเกาหลีใต้ เจอกันอีกแล้วนะ เหมือนเพิ่งจะเจอกันเมื่อไม่นานนี้เอง ^^
นี่ทริปเกาหลีรอบที่ 4 ของเรา ก่อนหน้านี่ที่ไปมาคือช่วงธันวาคม 2016 และคราวนี้เป็นทริปที่มากับดวงค่ะ เราบังคับพี่ปุ๋ย ไปร่วมกิจกรรมใน Instagram @airasia_thai ชื่อกิจกรรม Dance To Fly (พี่ปุ๋ยเต้น อุ้มคิดแคปชั่น)
และได้รางวัลเป็นตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ดอนเมือง-อินชอน 1 รางวัล 2 ที่นั่ง พอได้รางวัล ก็ติดต่อต่อกับทางบริษัทจัดการออกตั๋วเสร็จปุ๊บก็เริ่มหาแนวร่วม 5555
ออกเดินทาง 28 ก.ค. - 7 ส.ค. 2017 11 วัน 10 คืน
เราชวนเพื่อนที่เคยไปด้วยกันทริปที่แล้วแต่ทุกคนติดงานและคราวนี้เราไปกันหลายวันคนอื่นเลยไม่สะดวก ก็เลยชวนพี่อีกคนที่เคยไปเกาหลีด้วยกันในครั้งแรกที่เราไปเลย ชวนปุ๊บก็ตกลงปั๊บเลย เลยงานไม่ใช่ปัญหา 5555
พี่เค้าจองตั๋วเครื่องบินไปไฟล์ทเดียวกับเราเลย แต่ช่วงก่อนไป 1-2 เดือนตั๋วไฟล์ทนี้แพงมากๆ ไปกลับรวมโหลดกระเป๋าประมาณ 18,000 บาท แล้วราคาชั้นประหยัดแพงกว่าชั้นธุรกิจอีก พี่เค้าเลยจองธุรกิจเลย (ไปสวยๆ) แต่ขากลับก็นั่งธรรมดากลับกับเรา 5555
ปล.พอใกล้ๆบินอาทิตย์กว่าราคาปรับลงมา รวมแล้วเหลือประมาณ 13,000-14,000 เอง เจ็บใจนิดๆ
รางวัลที่เราได้รับคือฟรีเฉพาะค่าตั๋ว เราต้องจ่ายค่าภาษีสนามบิน ค่าเลือกที่นั่ง และค่าโหลดกระเป๋าเอง
ภาษีสนาบิน 2 ที่นั้ง 4,360 บาท
เลือกที่นั่งเราไม่ได้เลือกไปค่ะกะว่านั่งตรงไหนก็ได้แปบเดียวเอง ไม่ต้องเสียตัง แต่เรากับพี่มีคูปองอัพที่นั่งเป็น Hot Seat ที่ได้จากบัตรเครดิตแอร์เอเชีย แพลทินัม มาสเตอร์การ์ด ธนาคารกรุงเทพ เลยขอเจ้าหน้าที่นั่งติดกัน
ค่าโหลดกระเป๋าคนละ 1,610 บาท เราโหลดแค่ขากลับ คนละ 30 กิโล ขาไปใช้คูปองโหลดกระเป๋าฟรีที่ได้จากบัตรเครดิตแอร์เอเชีย แพลทินัม มาสเตอร์การ์ด ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งจะโหลดได้ 1 ใบ 20 กิโลกรัมนะคะ อย่าลืมเอาคูปองไปยื่นตอนเช็คอินนะ เรากับพี่มีคนละใบ แต่นางลืมเอาคูปองโหลดกระเป๋ามาจ้าาา เอา Hot Seat มา 2 ใบ ตื่นเต้นกันเลย 5555 โชคดีที่พี่ที่ไปด้วยอีกคนบินธุรกิจ โหลดได้ 40 กิโล เลยฝากพี่โหลดไป ไม่งั้นได้จ่ายค่าน้ำหักเพิ่มแน่ เพราะใบขอเรา 12 กก. ส่วนของพี่ 15 กก. ถ้าโหลดเป็นชื่อเราก็เกินอยู่ดี
ที่เคาน์เตอร์ช่องเช็คอินพี่เศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตแอร์เอเชีย แพลทินัม มาสเตอร์การ์ด ธนาคารกรุงเทพ จะเป็นช่องข้างๆชั้นธุรกิจ จะมีป้ายเล็กๆตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์ ใครที่มีบัตรไปช่องนั้นได้เลยนะคะ ไม่ต้องไปต่อแถวยาวๆ ไม่ได้ค่าโฆษนาแต่อย่างใด แต่มันสะดวกจริงเลยมาแนะนำนะจ๊ะ ตอนขึ้นเครื่องก็ขึ้นเครื่องได้ก่อนด้วยนะ และยังขอรับบริการเครื่องดื่มร้อน หรือเย็น บนเครื่อง มูลค่า 60 บาทได้ด้วย แต่ทั้งหมดนั้นใช้ได้แค่ตอนออกจากไทยนะ ตอนกลับใช้สิทธิ์ไม่ได้เด้อ
ที่พัก เราเลือกพัก AirBnb ค่ะ พักฮงแดเหมือนเดิม แต่เขยิบไปแถวๆยอนนัมดง (Hongik Station Exit 3)
ก่อนจองหาข้อมูลเยอะมากๆ ราคาส่วนใหญ่ก็พอๆกัน พยายามไล่อ่านรีริว ดูสิ่งอำนวยความสะดวก ที่นี่ใกล้รถไฟใต้ดิน เดินเล่นๆประมาณ 5-10 นาที มีครัว เครื่องซักผ้า เตารีด มีPocket wifiให้ยืม แต่สุดท้ายที่เลือกจองที่นี่ก็เพราะเจ้าของห้องอปป้าเสื้อแดงเนี่ยแหละค่ะ 5555 ตอนนี้เค้าเปลี่ยนรูปแล้ว ไม่ใช่อปป้าเสื้อแดงแล้วนะ อ่อ เจอเจย์อปป้าตัวเป็นๆด้วย บางรีวิวบอกไม่เคยเจอเจ้าของบ้านเพราะเค้าให้เช็คอินด้วยตัวเอง พวกเราไปถึงเร็วก็เลยขอเค้าเอากระเป๋าไปฝากไว้ก่อน กะว่าถึงเวลาบ่าย 3 โมง ค่อยมาเช็คอิน แต่พอเราไปถึงประมาณบ่ายโมงเค้าเพิ่งมาทำความสะอาดห้องเสร็จพอดีเลยเจอกัน อปป้าเลยช่วยแบกกระเป๋าไปที่ห้อง อธิบายนู้นนี่นั้นนิดหน่อยแล้วก็ไป ให้พวกเราเข้าพักได้เลย ปล.ตัวจริงหล่อกว่าในรูปอีกนะ ไม่เชื่อลองจอง 5555 พี่เราบอกว่าหน้าคล้ายๆ บัง ยงกุก B.A.P. แต่เจย์หล่อกว่าด้วย
รูปห้องพักเราค่ะ ถ่ายทำสถานที่จริง ><
เกือบลืมราคา เราพัก 9 คืน ราคา 21,981 บาท
คืนละ 2,442 บาท ถ้าหาร 3 ก็เหลือคนละ 815 บาท ราคาพอๆกับนอนห้องรวมเลยนะ
มากันที่ Pocket wifi ตอนแรกเราว่าจะไม่หาเพิ่มแล้วค่ะ เพราะที่พักมีให้ยืมแล้ว แต่ไปเล่นเกมได้รางวัลมาโชคดีไปอีก!!
เราเล่นเกมจากเพจ All About เกาหลี ร่วมกับ Tripizee แจก Pocket wifi ฟรีตลอดทริป (สูงสุด 10 วันแต่เราไป 11 วัน จ่ายเพิ่มนิดหน่อย แต่ก็คุ้มค่ะ) ที่ดอนเมืองไม่มีนัดรับนะคะ แต่เค้ามีบริการส่งให้ด้วยเสียค่าส่งนะ ส่งมาให้เราก่อนเดินทาง 3 วัน
เนื่องจากทริปนี้ไปหลายวันเราเลยจะออกไปเที่ยวต่างจังหวัดกันบ้าง เราเลือกไปแบบไป-กลับค่ะ เพราะจ่ายค่าที่พักที่นี่ไปแล้ว ไม่อยากจ่ายเพิ่มเสียดายตัง 5555 ไปปูซาน 1 วัน และแทกู 1 วัน เลยจองบัตร KR PASS ก่อนไป จองก่อนไปจริงๆ จองกลางวันบินกลางคืน เพราะรอดูสภาพอากาศก่อน กลัวจองแล้วฝนตกจะเที่ยวไม่คุ้ม การจองก็ไม่ยากเลย เข้าเว็บไซต์ กรอกข้อมูลโลดมีภาษาอังกฤษค่ะ เราไปกัน 3 คน ได้ราคา Saver หรือแบบประหยัด (เป็นราคาสำหรับคนที่เดินทาง 2-5 คน) เค้าจะมีให้เลือกหลายแบบนะคะ เช่น 1 วัน / 3 วัน / 5 วัน / 7 วัน อันนี้คือต้องติดๆกัน เช่น ซื้อแบบ 3 วัน เริ่มใช่วันที่ 1 จะหมดอายุวันที่ 3 ตอนเที่ยงคืน หรืออีกแบบ คือ 2 วัน / 4 วัน แต่สามารถเลือกได้ว่าเราจะใช้วันไหนบ้างภายใน 10 วัน ซึ่งเราซื้อแบบที่ 2. 2 days flexible pass ราคา 91,000 วอน แต่ถ้าใครไปคนเดียวจะราคา 102,000 วอนนะคะ เมื่อจองเรียบร้อยแล้วเราก็แค่ปริ้นใบจอง เพื่อเอาไปรับตั๋วที่ เคาน์เตอร์ Information ได้เลย (ตอนจองเค้าจะให้ใส่เลขบัตรเครดิตด้วยนะ แต่จะยังไม่ตัดเงินในบัตรเรา จะตัดตอนเราไปรับบัตร) เราไปรับที่อินชอนเลย เคาน์เตอร์อยู่ตรงข้ามกับทางลงไปขึ้นรถไฟ AREX เข้าเมืองเลย
ไปถึงก็ยื่นใบที่ปริ้นมาให้เจ้าหน้าที่ พร้อมกับพาสปอร์ต และบัตรเครดิต เค้าก็ถามว่า เราต้องการใช้วันไหนบ้าง อย่างของเราจะใช้วันที่ 30/07 และ 02/08 ก็แจ้งเค้าไป แล้วเค้าจะให้บัตรมา 1 ใบ เป็นใบเล็กๆเท่าบัตร ATM ซึ่งจะมีข้อมูลต่างๆอยู่บนบัตร ย้ำว่าได้แค่ 1 ใบ ไป 3 คนก็ 1 ใบนะ ซึ่งเราจะใช้บัตรใบนี้แหละในการออกตั๋วรถไฟ เวลาเราจะเดินทางไปไหน แล้วเจ้าหน้าที่ก็ถามเราว่าวันที่ 30/07 จะไปไหนกัน เค้าจะออกตั๋วให้เลย เราก็แค่แจ้งเค้าไปว่าจะไปปูซาน เวลานี้ๆ จะเดินทางจาก Seoul station เค้าก็จะปริ้นตั๋วมาให้ ใช้ขึ้นรถไฟได้เลย