ผมเคยรักคนคนนึงมาก มากถึงขนาดดาวน์คอนโดอยู่ด้วยกัน แต่ใช้ชื่อเต้าคนเดียวในการยื่นกู้ หลังจากได้คอนโดไปไม่นานผมก็โดนหลอกมั้งครับ เงินเก็บที่สะสมมาหมดไปกับการหลอกลวงครั้งนั้น หลังจากนั้นมาผมก็ใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังมาตลอดทั้งเรื่องเงินและเรื่องความรัก จนมีอยู่วันนึงมีคนๆนึงเข้ามาในชีวิตผมทำให้ชีวจิผมเปลี่ยนไปครับ แต่ผมก็ยังคงระมัดระวังเรื่องการใช้เงินกับเค้าอยู่ (คือมีอะไรก็จะหารครึ่งตลอด แต่ส่วนใหญ่ผมก็จ่ายเยอะกว่านะครับ) เค้าเข้ามาเปลี่ยนชีวิตผมจากที่ไม่เคยคิดถึงเรื่องอนาคตเลย กลายเป็นเรามีการวางแผนอนาคตร่วมกัน อันดับแรกเรากะว่าจะลงทุนร่วมกันเปิดร้านเซรามิกเล็กๆที่จตุจักรครับ เป็นเชรามิกจากลำปาง (บ้านเค้าอยู่ลำปางครับ) หลังจากตกลงคบกันเราก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันที่ห้องผมครับ ก็อยู่ด้วยกันทำกับข้าวกินกัน ปลูกต้นไม้ เรามีอะไรหลายๆอย่างเหมือนกันครับ ตอนเช้าผมจะไปส่งเค้าที่ทำงานเย็นถ้าว่างก็จะไปรับกลับเป็นอย่างนี้ได้ประมาณเดือนกว่าๆ แผนที่เราวางร่วมกันกำลังจะได้ดำเนินการ เราจึงตกลงกันว่าจะให้เค้าลาออกจากง่นก่อน(ซึ่งเค้าก็บ่นๆอยากลาออกด้วย) แต่ผมยังไม่ลาออกคิดว่าคงจะทำต่อไปก่อนไว้ร้านเข้าที่เข้าทางค่อยออกมาช่วยกันขายเต็มตัว(แต่คงไปขายช่วยได้วันศุกร์เสาร์ในช่วงแรก) หลังจากนั้นเดือนถัดมาเค้าก็ลาออก เราตกลงกันว่าจะออกเงินกันคนละ 30000 บาทก่อนเพื่อที่จะลงทุนในช่วงแรกๆ พอลาออกได้เค้าก็ต้องกลับบ้านไปเพื่อที่จะดูสินค้าเพื่อมาขายในร้านเป็นเวลา 2 อาทิตย์ ในช่วงสองสัปดาห์ที่เขากลับบ้าน เราก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ แต่ก็มีบ้าง เพราะเค้าไม่ค่อยเล่นโทรศัพท์เวลาอยู่ห้องและไม่ชอบเปิดเสียง หลังจากที่เค้ากลับมาเค้าก็บอกว่าที่บ้านเค้ามีปัญหาพ่อแม่ทะเลาะกันจะแยกทางกัน เลยจะพักเรื่องร้านไว้ก่อน ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหลังจากนั้นเราก็ใช้ชีวิตปกติกัน วันนึงหลังจากที่ผมกลับจากทำงาน บางทีก็เจอเค้าเครียด นอนร้องไห้ผมก็ได้แต่ปลอบ หลังจากนั้นเขาก็บอกจะกลับไปอยู่บ้านเพราะที่บ้านไม่มีใครอยู่เป็นกาวใจให้พ่อแม่ พอถึงวันกลับเราก็จัดแจงพาไปเก็บของทุกอย่างแล้วก็พาไปจองตั๋วรถทัวร์กลับลำปาง หลังจากที่รู้รายละเอียดวัน เวลา สถานที่หมดแล้ว เราก็เลยแอบไปจองตั๋วในส่วนของเรา เพื่อที่จะตามไปส่งเค้า พอไปส่งถึงลำปางเค้าก็บอกบ้านเค้าไม่มีรถนะ อาจจะไม่ได้พาเที่ยว เราก็เออไม่เป็นไรแค่ตั้งใจจะมาส่ง ขากลับจะแวะไหว้พระธาตุลำปางหลวงแค่นั้น รถถึงลำปางตอนตีสามครึ่ง ไม่มีคนมารับต้องจ้างแท็กซี่เข้าไปที่อำเภอแม่ทะ พอไปถึงที่บ้านก้เจอพ่อเค้านอนอยู่ห้องโถงรับแขกเพื่อที่รอจะไปรับ เราก็ไหว้พ่อเสร็จหลังจากนั้นก็ไปนอน ประมาณ7 โมงเค้าก็ปลุกเรามาเจอแม่เค้า เราก็ไหว้ท่านแล้วก็ไปนอนต่อสักพักเขาก็มาตามไปกินข้าวแต่เราไม่หิวขอนอนต่อ ตอนนั้นเพลียมากไม่ได้นั่งรถนานขนาดนี้มาก่อน ประมาณสักสิบเอ็ดโมงเค้าก็มาปลุกให้ไปอาบน้ำแต่งตัวจะพาไปไหว้พระที่วัดถ้ำพระสบายไม่ไกลจากหมู่บ้านหนักแต่อยู่บนดอย ตอนแรกนึกว่าจะได้เดินไปเพราะเค้ายอกที่บ้านไม่มีรถ รถมอไซด์2 คันน้องเอาไปโรงเรียนคันนึง อีกคันยางรั่ว เค้าคงเอาไปซ่อมแล้ว พออาบน้ำเสร็จเค้าก็มาตามเราไปกินข้าวที่บ้านย่าเค้าซึ่งย่าเค้าได้ทำแกงผักทางเหนือที่ออกรายการภัตตาคารบ้านทุ่ง (เวลาอยู่ห้องด้วยกันเราชอบดูรายการนี้กัน) เค้าก็อุส่ามาเรียกไปกินที่บ้านย่า ด้วยความที่ผมเป็นคนขี้อายเลยไม่กล้าไป เค้าก็เลยตักมาให้กินที่บ้าน เป็นแกงผักอะไรไม่รู้ขมๆนิดๆแกงใส่ปลาแห้ง อร่อยดี หลังจากนั้นเค้าก็พาไปไหว้พระ แต่ก่อนจะพาขึ้นดอยเค้าได้พาเราแวะไปดูที่สวนของเค้าซึ่งมีประมาณ10กว่าไร่ บรรยากาศดีมาก ด้านหน้ามีลำธารเล็กๆไหลผ่าน ถัดมาคุณพ่อก็ขุดเป็นสระน้ำเล็กๆ เค้าก็วางแผนว่าจะมาปลูกบ้านอยู่ตรงนี้ แล้วชวนเรามาอยู่ด้วย ^เทอมาอยู่กับค้าไหมเราจะสร้างบ้านหลังเล็กๆอยู่กัน เสียงยังก้องอยู่ในหูผมอยู่เลย) ไหว้พระเสร็จผมก็เข้าเมืองเพื่อจะต่อรถไปพระธาตุลำปางหลวงต่อ (แต่ก่อนที่จะออกจากบ้านเค้าเค้าก็เรียกเรามาหา ดึงมือเข้าไปในบ้านกอดจูบ เหมือนจะเป็นการสั่งลายังไงไม่รู้)ในระหว่างนั้นเค้าก็ไลน์มา โทรมาถามว่าอยู่ไหนขึ้นรถกี่โมงอะไรยังไงตลอด จนผมขึ้นรถไฟ(กะชิวๆ) เค้าก็ยังวิดีโอมาคุย พอผมถึงกรุงเทพผมก็ทักไปบอกเค้าหลังจากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เค้าเงียบไม่อ่านไม่ตอบไลน์ผมเลย โทรไปก็ไม่รับสาย พักหลังตัดสายแล้วก็บล็อกเบอร์ เฟสบุ๊ค ไปจนถึงอินสตาแกรมเลย ผมไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น ผมเป็นห่วงเค้าครับ ห่วงมาก ผมเอาเบอร์คนอื่นโทรไปเค้ารับสาย แต่พอรู้ว่าเป็นผมก็วางสายไปเลยครับ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หรือผมทำผิดอะไรไป มีใครช่วยคิดหาวิธีการช่วยหน่อยได้ไหมครับ หากใครอยู่ลำปางถ้าได้แวะไปนาครัว แม่ทะ ฝากถามไถ่ได้ไหมครับ จะฝากบอกว่าคิดถึงมากๆ สุดหัวใจเลย ขอบคุณล่วงหน้าครับผม
ขอคำปรึกษาทีครับ ใครมีประสบการณ์แบบนี้ช่วยแชร์วิธีการขอคืนดีหน่อยครับ