สวัสดีครับผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง แต่กลัวไม่เข้าใจกันขอเกรินนิดหน่อย ใครเคยมีเพื่อนที่สนิตกันจะแบบที่ว่ามีแฟนไม่ได้เพราะต้องอยู่กับมันบ้าง ผมมีคนหนึ่งมันชื่อเอาเป็นว่ามันชื่อปูละกัน(ความจริงก็ชื่อมันนั้นละ) ไอปูกับผมเนียรู้จักกันตอนขึ้น ม.1 ไอตัวผมก็ไม่อะไรหรอกผู้ชายธรรมดานิสัยออกไปทางกวนตารีนสะด้วยซ้ำ แต่ไอปูนี้คือแบบผู้หญิงแก่นๆ อะนึกออกไหมแบบว่าไม่ใช้ผู้หญิงแบบที่ควรอยู่ไกล้อะ แล้วก็ไม่รู้ว่าผมเนียเคยไปสร้างเวรกับมันไว้ตอนไหน
ทะลึงอยู่เวรทำความสะอาดห้องด้วยกัน ไอเวรทำความสะอาดห้องเนียพวกผมก็แบ่งหน้าที่กันหน้าผมคือยกโต๊ะขึ้นบนเก้าอี้ เฮ้ย!ไม่ใช้เดียวนะ มันต้องยกเกาอี้ขึ้นบนโต๊ะเอาเป๋็นว่านั้นละหน้าที่ผม แล้วไอปูเนียคือทำหน้าที่ทิ้งขยะ แล้วปัญหาก็คือ
ไม่เคยเอาไปทิ้งเลย ผมเนียเป็นคนไปทิ้งตลอด(พูดแล้วขึ้น)
เราก็ใช้ชีวิตม.ต้นไปเลื่อยๆเรียนโดดๆครูไม่โกดก็โดดบ่อยๆ จนม.ปลาย ผมก็ต่อที่เดิมละขี้เกียดหาที่เรียนใหม่ ด้วยความที่ผมเรียนไม่เก่งก็เลยไปเรียนศิลป์สังคม แล้วก็นะเมื่อชาติที่แล้วผมน่าจะสันทัดในการสร้างเวนสร้างกรรม ได้อยู่ห้องเดียวกับไปปูอีกแต่ก็ไม่เป็นไรในใจคิดว่าน่าจะโตๆกันแล้วก็คงจะวางตัวดีขึ้นบ้างแล้วละ แต่ไม่เลยแม้งเกรียนกว่าเดิมอีก (ยกตัวอย่างความเกรียนนะ เคยเห็นผู้หญิงคนไหนถอดถุงเท้าแล้วเอามาโปะหน้าเพื่อนมะ เนียมันเป็นแบบเนีย) เราก็เรียนมาเลื่อยๆ จนเอาจริงก็เริ่มมาสนิทกับมันตอน ม.5 นั้นเพราะว่าต้องมาทำรายงานด้วยกัน ก็ได้ไปบ้านปูครั้งแรก บ้านปูขายวัสดุก่อสร้างญาติๆปูน่ารักมากันเองสุดๆ สุดที่แบบว่ากันเองไปรึปล่าว แต่ก็นะทำให้ผมได้รู้ว่าทำไมมันเป็นแบบนี้ จากนั้นมาผมก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดกินข้าวด้วยกัน ไปเรียนด้วยกันจนเพื่อนแซวว่าสองได้กันยังเนีย ผมก็ก็ตอบว่าได้เ_ี้ยไรละ เป็น_ึงๆเอาไหมละ5555+ แล้วตั้งแต่สนิทกับมันมานะมันเป็นคนที่ต้องแบบโทรปลุกทุกเช้าไม่งั้นมาโรงเรียนสายก็จะงอล ไม่ยอมมาเรียนอีกภาระเราอีกต้องไปตามมันมาเรียน ต้องแหกขี้ตามาแต่เช้าเพราะต้องเอาการบ้านมาให้มันลอก งานกลุ่มนะหมดสิทเลือกกลุ่มเพาะถ้าไม่อยู่กับมันมันก็จะไม่ทำงาน แล้วมันก็จะตกก็ภาระเราอีกเป็นแบบนี้ตลอดจน จบม.6
(ในตอนที่เราเรียนม.ปลายนั้นเราก็มีกลุ่มเพื่อนที่สนิทไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดประมาณ 5-6 คน พอจะจบม.6 ก็คุยกันว่าเราไปเรียนที่เดียวกันไหม แต่สดท้ายก็ไม่ได้ไปหลอกแยกย้ายกันไปตามที่ตัวเองอยากเรียน) เพราะฉนันจะเล่าเฉพาะของผมเท่านั้น เรื่องมันเกิดที่ว่าหลังจากจบนะผมไม่รู้จะไปเรียนที่ไหนก็เลยว่าจะไปเรียนราชภัฏในตัวเมืองเนียละ วันรุ้งขึ้นก็เลยเตรียมเอกสารจะไปสมัคร แต่แล้วไอปูก็โทรมา
ปู : ฮัลโหล_ึงวันนี้ไปไหนปะ
ผม : กูจะไปสมัครเรียนที่ราชภัฏมีไร
ปู : อ่าวจริงดิเห้ยๆๆ กูไปด้วยมารับกูที่บ้านด้วยนะ
ผมก็อะแบบอะไรของมันวะ แต่ก็นะอย่างน้อยก็มีเพื่อนไปแต่ปัญหาคืออะไรรู้ไหม แม้งไม่เตรียมอะไรเลยผมต้องพามันไปถ่ายรูปถ่ายเอกสารของใบจบสุดท้ายก็ไม่ได้ไปต้องนัดไปกันอีกวัน พอสมัครเรียนเสร็จ(เอาเป็นว่าผมข้ามเลยนะไม่ค่อยสำคัญเท่าไหรช่วงเนีย) วันที่เรามารับน้องก็สนุกสนานกันไปเต้นบ้างโดนทำโทษบ้างสนุกสนานกันไป แต่แล้วมีเหตุการณ์ที่ไอปูเนียดันทะลึงทำป้ายชื้อเปียกน้ำรุ้นพี่ก็เลยจะซ้อม แต่รุ้นพี่ให้เลือกว่าจะทำเองหรือจะให้เพื่อนมาช่วบย ฮึ! ผมว่าหลายคนนึกออกละสิว่าจะเกิดไรขึ้น ใช้แล้วมันเรียกชื่อผมแบบไม่ลังเลเลยสุดท้ายผมก็ต้องไปโดนซ้อมกันมัน ทังคุยกับมด วิ่งรอบสนาม โอ้ยยยยยหลายอย่างอะ
เวลาก็ผ่านไปเลื่อยๆ แล้วก็เจอแต่เรื่องเดิมผมต้องค่อยตามมันมาเรียน ต้องค่อยเอางานของมันมาทำให้ เอาเป็นว่าทำแม้งทุกอย่างที่มันควรทำ
เองอะ แล้วที่สุดของที่สุดนะต้องไปดูแลมันเวลามันเมนมาผมนี้เซงมา ก็เป็นกันแบบนี้จนมันมีแฟนแต่พอมันมีแฟนนะแทนที่ผมจะหลุดพ้นปล่าวเลย แม้งเวลาทะเลาะกันก็ผมเนียต้องไปเครียให้ มีครั้งหนึ่งมันทะเลาะกับแฟนแล้วตามแฟนไม่ได้โทรไม่ติดมันก็เลยโทรหาผมซึ่งตอนนั้นผมไม่ว่างช่วยที่บ้านขายของอยู่ มันทำไงรู้ไหม มันมายืนร้องไห้หน้าบ้านจนแม่ผมเนียต้องบอกว่าไปช่วยเพื่อนเถอะผมก็ต้องเลยตามเลย จนมันเครียกันได้ และอีกครั้งอันนี้ฮาสุดแฟนชวนมันไปกินข้าวแต่แม้งลากผมไปด้วย ตอนไปกินนะแฟนมันจ้องเขม่งเลยอารมณ์ไม่พอใจสุดๆ สุดท้ายตอนมันเลิกกันก็ผมเนียละคนแรกที่มันโทรหาให้ไปอยู่เป็นเพื่อนมัน (จนบางครั้งผมก็เคยคิดว่าถ้าไม่มีผมมันจะรอดไหมวะ)
เราก็ใช้ชีวิตมหาลัยกันไปเลื่อยๆ (เออผมลืมบอกปูเป็นคนสวยนะไม่ขี้เหล่อะไรก็เลยมีคนมาตามจีบค่อนข้างเยอะแต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดสักราย) จนวันหนึ่งที่เราเรียนจบ แล้วก็แยกย้ายกันไปทำงานแต่ก็ยังไปมาหาสู่กันบ่อยๆ วันหนึ่งมันบอกว่ามีพี่ที่ทำงานจีบมัน แล้วมันก็ชอบเลยตกลงเป็นแฟนกัน ผมก็ได้เจอพี่เค้าบ้างนะพี่เค้าเป็นคนดีใช้ได้เลยละวางตัวดี พูดดี ขยันทำงาน แล้วก็ไม่เจ้าชู้ด้วย แต่ก็เหมื่อนเดิมทั้งสองคนก็มีทะเลาะกันบ้างแล้วก็เป็นหน้าที่ผมที่ต้องเข้าไปเครียให้ทั้ง 2 คนคืนดีกัน
เป็นแบบนี้อยู่ 3 ปี วันหนึ่งมันก็มาบอกผมว่ามันจะแต่งงานแล้วนะอีก 3 เดือนข้างหน้าผมก็ เห้ย!ดีใจด้วย(แค่ก็คิดในใจว่าจะไหวหรอวะ) ในช่วง 3 เดือนเนียผมเหนื่อยกว่ามัน 2 คนอีก เชื่อมะมันทำอะไรกันไม่เป็นเลย ผมต้องเป็นคนไปหาข้อมูลวิ่งไปถามคนนู้นคนนี้ ว่าต้องทำยังไงให้ผู้ใหญ่ไปคุยกันยังไง ไปเตรียมที่ไหนเรื่องชุดละ ของแจกอีก ซองอีก ทำหยั่งกับเป็นงานของตัวเอง สุดท้ายพอถึงวันงานเกิดเหตุการที่ไม่คาดฝันไอปูไม่ยอมออกจากห้องพ่อแม่พี่ป้าน้าอาพยายามทุบประตูห้องเค้าไปแต่มันก็ไม่ยอมเปิด ผมเลยปีนหน้าต่างเข้าไปคุยกับมัน
ผม : ปู_ึงเป็นเ_ี้ยไรเนียแขกเค้ารอ_ึงคนเดียวเลยไอ "ซีพหาไม่เจอ"
ปู : กูกลัววะ กูกลัวว่ามันจะล่มอะ กูกลัวว่ามันจะออกมาไม่ดี
ผม : กูไม่รู้ว่าหลอกว่าจะดีไม่ดึแต่ถ้าไม่ออกไปอะล่มแน่กูรู้แค่เนียละ
ผมก็กล่อมจนมันยอมออกไปนะ งานแต่งก็เป็นไปได้ด้วยดีจนถึงงานเลี้ยงตอนเย็นเราก็ได้เจอเพื่อนที่ไม่ได้เจอนานก็คุยกันแหลกหลาน จนมีเพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า กูคิดว่ากะไอปูคบกันนะตอนแรก ทั้งวงก็หัวเราะจนถึงตอนที่ต้องส่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอ ผมก็ไปช่วยญาตผู้ใหญ่เตรียมห้องเตรียมเตียง (คนที่เป็นคนปูเตียงคือปู่กับย่าผมเอง ปลื้มมมม!!) พอทั้งสองคนมาก็ไหว้พอ่แม่เรียบร้อย อยู่ดีไอปูก็วิ่งร้องไห้มากอดผม ไอเราก็ตกใจหันไปมองหน้าเจ้าบ่าว แต่พี่เค้าก็ยิ้มแล้วก็พยักหน้าให้ ผมก็โอเครปลอดภัย ผมก็เลยแซวเล่นไอปูว่า
ผม : ต่อไป_ึงต้องช่วยเองแล้วนะมีผัวแล้วกูไปยืนคุมข้างเตียงไม่ได้นะ
ปู : กูขอบใจ_ึงมากนะถ้าไม่มี_ึงนี้กูไม่รู้จะเป็นยังไงเลย
ผมรู้สึกว่ามันเลียนๆเนอะแต่ก็เข้าใจมันนะก็เลยบอกมันไปว่า
ผม : เออนะไม่เป็นไรหรอกยังไงเราก็เพื่อนกัน เวลากูโทรไปยืมตังก็รับด้วยละ
ปู : _ัสกูไปละ
อยู่ดีๆเรื่องเก่าๆก็ย้อนกลับมาในหัวภาพผู้หญิงแก่นตอนม.1 ภาพที่ผมจะไปวนรถในเมืองหาซื้อส้มตำให้มันกิน ภาพที่ผมต้องเอากุญแจห้องมันไปปั้มจะได้เข้าไปลากมันไปเรียนได้ แล้วใจมันก็โหวงๆเหมือนรู้สึกเหงาๆขึ้นมา แล้วอยู่ดีๆก็ร้องไห้เฉยๆแบบไม่รู้สาเหตุ
เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องราวของผมกะไปปูยังไงก็ขอบคุณที่อ่านกันนะครับ
ปล.ทำไมถึงต้องสีส้มเพราะว่า มีเหตุการณ์ตอนม.5 กระโปรงไอปูเปิดแล้วมันใส่กางเกงบอลสีส้มแค่นั้นละ
.........................................................................................................................................................................................
timeline สีส้ม (จากต้น จนจาก)
เราก็ใช้ชีวิตม.ต้นไปเลื่อยๆเรียนโดดๆครูไม่โกดก็โดดบ่อยๆ จนม.ปลาย ผมก็ต่อที่เดิมละขี้เกียดหาที่เรียนใหม่ ด้วยความที่ผมเรียนไม่เก่งก็เลยไปเรียนศิลป์สังคม แล้วก็นะเมื่อชาติที่แล้วผมน่าจะสันทัดในการสร้างเวนสร้างกรรม ได้อยู่ห้องเดียวกับไปปูอีกแต่ก็ไม่เป็นไรในใจคิดว่าน่าจะโตๆกันแล้วก็คงจะวางตัวดีขึ้นบ้างแล้วละ แต่ไม่เลยแม้งเกรียนกว่าเดิมอีก (ยกตัวอย่างความเกรียนนะ เคยเห็นผู้หญิงคนไหนถอดถุงเท้าแล้วเอามาโปะหน้าเพื่อนมะ เนียมันเป็นแบบเนีย) เราก็เรียนมาเลื่อยๆ จนเอาจริงก็เริ่มมาสนิทกับมันตอน ม.5 นั้นเพราะว่าต้องมาทำรายงานด้วยกัน ก็ได้ไปบ้านปูครั้งแรก บ้านปูขายวัสดุก่อสร้างญาติๆปูน่ารักมากันเองสุดๆ สุดที่แบบว่ากันเองไปรึปล่าว แต่ก็นะทำให้ผมได้รู้ว่าทำไมมันเป็นแบบนี้ จากนั้นมาผมก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดกินข้าวด้วยกัน ไปเรียนด้วยกันจนเพื่อนแซวว่าสองได้กันยังเนีย ผมก็ก็ตอบว่าได้เ_ี้ยไรละ เป็น_ึงๆเอาไหมละ5555+ แล้วตั้งแต่สนิทกับมันมานะมันเป็นคนที่ต้องแบบโทรปลุกทุกเช้าไม่งั้นมาโรงเรียนสายก็จะงอล ไม่ยอมมาเรียนอีกภาระเราอีกต้องไปตามมันมาเรียน ต้องแหกขี้ตามาแต่เช้าเพราะต้องเอาการบ้านมาให้มันลอก งานกลุ่มนะหมดสิทเลือกกลุ่มเพาะถ้าไม่อยู่กับมันมันก็จะไม่ทำงาน แล้วมันก็จะตกก็ภาระเราอีกเป็นแบบนี้ตลอดจน จบม.6
(ในตอนที่เราเรียนม.ปลายนั้นเราก็มีกลุ่มเพื่อนที่สนิทไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดประมาณ 5-6 คน พอจะจบม.6 ก็คุยกันว่าเราไปเรียนที่เดียวกันไหม แต่สดท้ายก็ไม่ได้ไปหลอกแยกย้ายกันไปตามที่ตัวเองอยากเรียน) เพราะฉนันจะเล่าเฉพาะของผมเท่านั้น เรื่องมันเกิดที่ว่าหลังจากจบนะผมไม่รู้จะไปเรียนที่ไหนก็เลยว่าจะไปเรียนราชภัฏในตัวเมืองเนียละ วันรุ้งขึ้นก็เลยเตรียมเอกสารจะไปสมัคร แต่แล้วไอปูก็โทรมา
ปู : ฮัลโหล_ึงวันนี้ไปไหนปะ
ผม : กูจะไปสมัครเรียนที่ราชภัฏมีไร
ปู : อ่าวจริงดิเห้ยๆๆ กูไปด้วยมารับกูที่บ้านด้วยนะ
ผมก็อะแบบอะไรของมันวะ แต่ก็นะอย่างน้อยก็มีเพื่อนไปแต่ปัญหาคืออะไรรู้ไหม แม้งไม่เตรียมอะไรเลยผมต้องพามันไปถ่ายรูปถ่ายเอกสารของใบจบสุดท้ายก็ไม่ได้ไปต้องนัดไปกันอีกวัน พอสมัครเรียนเสร็จ(เอาเป็นว่าผมข้ามเลยนะไม่ค่อยสำคัญเท่าไหรช่วงเนีย) วันที่เรามารับน้องก็สนุกสนานกันไปเต้นบ้างโดนทำโทษบ้างสนุกสนานกันไป แต่แล้วมีเหตุการณ์ที่ไอปูเนียดันทะลึงทำป้ายชื้อเปียกน้ำรุ้นพี่ก็เลยจะซ้อม แต่รุ้นพี่ให้เลือกว่าจะทำเองหรือจะให้เพื่อนมาช่วบย ฮึ! ผมว่าหลายคนนึกออกละสิว่าจะเกิดไรขึ้น ใช้แล้วมันเรียกชื่อผมแบบไม่ลังเลเลยสุดท้ายผมก็ต้องไปโดนซ้อมกันมัน ทังคุยกับมด วิ่งรอบสนาม โอ้ยยยยยหลายอย่างอะ
เวลาก็ผ่านไปเลื่อยๆ แล้วก็เจอแต่เรื่องเดิมผมต้องค่อยตามมันมาเรียน ต้องค่อยเอางานของมันมาทำให้ เอาเป็นว่าทำแม้งทุกอย่างที่มันควรทำ
เองอะ แล้วที่สุดของที่สุดนะต้องไปดูแลมันเวลามันเมนมาผมนี้เซงมา ก็เป็นกันแบบนี้จนมันมีแฟนแต่พอมันมีแฟนนะแทนที่ผมจะหลุดพ้นปล่าวเลย แม้งเวลาทะเลาะกันก็ผมเนียต้องไปเครียให้ มีครั้งหนึ่งมันทะเลาะกับแฟนแล้วตามแฟนไม่ได้โทรไม่ติดมันก็เลยโทรหาผมซึ่งตอนนั้นผมไม่ว่างช่วยที่บ้านขายของอยู่ มันทำไงรู้ไหม มันมายืนร้องไห้หน้าบ้านจนแม่ผมเนียต้องบอกว่าไปช่วยเพื่อนเถอะผมก็ต้องเลยตามเลย จนมันเครียกันได้ และอีกครั้งอันนี้ฮาสุดแฟนชวนมันไปกินข้าวแต่แม้งลากผมไปด้วย ตอนไปกินนะแฟนมันจ้องเขม่งเลยอารมณ์ไม่พอใจสุดๆ สุดท้ายตอนมันเลิกกันก็ผมเนียละคนแรกที่มันโทรหาให้ไปอยู่เป็นเพื่อนมัน (จนบางครั้งผมก็เคยคิดว่าถ้าไม่มีผมมันจะรอดไหมวะ)
เราก็ใช้ชีวิตมหาลัยกันไปเลื่อยๆ (เออผมลืมบอกปูเป็นคนสวยนะไม่ขี้เหล่อะไรก็เลยมีคนมาตามจีบค่อนข้างเยอะแต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดสักราย) จนวันหนึ่งที่เราเรียนจบ แล้วก็แยกย้ายกันไปทำงานแต่ก็ยังไปมาหาสู่กันบ่อยๆ วันหนึ่งมันบอกว่ามีพี่ที่ทำงานจีบมัน แล้วมันก็ชอบเลยตกลงเป็นแฟนกัน ผมก็ได้เจอพี่เค้าบ้างนะพี่เค้าเป็นคนดีใช้ได้เลยละวางตัวดี พูดดี ขยันทำงาน แล้วก็ไม่เจ้าชู้ด้วย แต่ก็เหมื่อนเดิมทั้งสองคนก็มีทะเลาะกันบ้างแล้วก็เป็นหน้าที่ผมที่ต้องเข้าไปเครียให้ทั้ง 2 คนคืนดีกัน
เป็นแบบนี้อยู่ 3 ปี วันหนึ่งมันก็มาบอกผมว่ามันจะแต่งงานแล้วนะอีก 3 เดือนข้างหน้าผมก็ เห้ย!ดีใจด้วย(แค่ก็คิดในใจว่าจะไหวหรอวะ) ในช่วง 3 เดือนเนียผมเหนื่อยกว่ามัน 2 คนอีก เชื่อมะมันทำอะไรกันไม่เป็นเลย ผมต้องเป็นคนไปหาข้อมูลวิ่งไปถามคนนู้นคนนี้ ว่าต้องทำยังไงให้ผู้ใหญ่ไปคุยกันยังไง ไปเตรียมที่ไหนเรื่องชุดละ ของแจกอีก ซองอีก ทำหยั่งกับเป็นงานของตัวเอง สุดท้ายพอถึงวันงานเกิดเหตุการที่ไม่คาดฝันไอปูไม่ยอมออกจากห้องพ่อแม่พี่ป้าน้าอาพยายามทุบประตูห้องเค้าไปแต่มันก็ไม่ยอมเปิด ผมเลยปีนหน้าต่างเข้าไปคุยกับมัน
ผม : ปู_ึงเป็นเ_ี้ยไรเนียแขกเค้ารอ_ึงคนเดียวเลยไอ "ซีพหาไม่เจอ"
ปู : กูกลัววะ กูกลัวว่ามันจะล่มอะ กูกลัวว่ามันจะออกมาไม่ดี
ผม : กูไม่รู้ว่าหลอกว่าจะดีไม่ดึแต่ถ้าไม่ออกไปอะล่มแน่กูรู้แค่เนียละ
ผมก็กล่อมจนมันยอมออกไปนะ งานแต่งก็เป็นไปได้ด้วยดีจนถึงงานเลี้ยงตอนเย็นเราก็ได้เจอเพื่อนที่ไม่ได้เจอนานก็คุยกันแหลกหลาน จนมีเพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า กูคิดว่ากะไอปูคบกันนะตอนแรก ทั้งวงก็หัวเราะจนถึงตอนที่ต้องส่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอ ผมก็ไปช่วยญาตผู้ใหญ่เตรียมห้องเตรียมเตียง (คนที่เป็นคนปูเตียงคือปู่กับย่าผมเอง ปลื้มมมม!!) พอทั้งสองคนมาก็ไหว้พอ่แม่เรียบร้อย อยู่ดีไอปูก็วิ่งร้องไห้มากอดผม ไอเราก็ตกใจหันไปมองหน้าเจ้าบ่าว แต่พี่เค้าก็ยิ้มแล้วก็พยักหน้าให้ ผมก็โอเครปลอดภัย ผมก็เลยแซวเล่นไอปูว่า
ผม : ต่อไป_ึงต้องช่วยเองแล้วนะมีผัวแล้วกูไปยืนคุมข้างเตียงไม่ได้นะ
ปู : กูขอบใจ_ึงมากนะถ้าไม่มี_ึงนี้กูไม่รู้จะเป็นยังไงเลย
ผมรู้สึกว่ามันเลียนๆเนอะแต่ก็เข้าใจมันนะก็เลยบอกมันไปว่า
ผม : เออนะไม่เป็นไรหรอกยังไงเราก็เพื่อนกัน เวลากูโทรไปยืมตังก็รับด้วยละ
ปู : _ัสกูไปละ
อยู่ดีๆเรื่องเก่าๆก็ย้อนกลับมาในหัวภาพผู้หญิงแก่นตอนม.1 ภาพที่ผมจะไปวนรถในเมืองหาซื้อส้มตำให้มันกิน ภาพที่ผมต้องเอากุญแจห้องมันไปปั้มจะได้เข้าไปลากมันไปเรียนได้ แล้วใจมันก็โหวงๆเหมือนรู้สึกเหงาๆขึ้นมา แล้วอยู่ดีๆก็ร้องไห้เฉยๆแบบไม่รู้สาเหตุ
เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องราวของผมกะไปปูยังไงก็ขอบคุณที่อ่านกันนะครับ
ปล.ทำไมถึงต้องสีส้มเพราะว่า มีเหตุการณ์ตอนม.5 กระโปรงไอปูเปิดแล้วมันใส่กางเกงบอลสีส้มแค่นั้นละ
.........................................................................................................................................................................................