ผลงานในสนามอาจจะเงียบๆ แต่ฤดูกาลนี้ถือว่า Aprilia เป็นทีมที่มีข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องและส่วนใหญ่จะเป็นข่าวที่น่าปวดหัว วันนี้เราจะลองย้อนกลับมาไล่เรียงดูความเป็นมาของโรงงานจากอิตาลีทีมนี้กันซักนิดนึงดู Aprilia เป็นค่ายมอเตอร์ไซค์ที่มี Racing Spirit สูงและอยู่ในการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลกมาอย่างยาวนาน แม้ว่าผลงานในรุ่นใหญ่อย่างรุ่น 500cc หรือ MotoGP อาจจะไม่โดดเด่นแต่ถือว่าเป็นโรงงานที่ประสบความสำเร็จค่อนข้างมากในรุ่นเล็ก เนื่องจากเป็นโรงงานที่ไม่ใหญ่มากนักถ้าเทียบกับสเกลในระดับโลก ทำให้อาจจะมีช่วงที่เว้นจากการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลกไปบ้าง ย้ายข้ามไปซีรีย์อื่นเช่น WSBK บ้างแต่ก็ยังถือว่าวนเวียนอยู่ในการแข่งขันมาเกือบตลอด
Aprilia Racing Team Gresini
ภายใต้การนำทัพของ Luigi Dall’Igna หรือลุงจีจี้ ในยุคของโมโตจีพี Aprilia เป็นหนึ่งในโรงงานที่เข้าร่วมแข่งขันในปี 2002 ซึ่งเป็นปีแรกที่มีการเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ 4 จังหวะ โดยรถ RS Cube นั้นใช้เครื่องยนต์ In-line 3 สูบและมีเทคโนโลยีที่ค่อนข้างล้ำสมัยอย่างการควบคุมคันเร่งแบบ ride by wire และ Pneumatic valve actuation systems ซึ่งทั้ง 2 เทคโนโลยีนี้กลายเป็นของสามัญในรถแข่งยุคปัจุบัน แต่เนื่องจากตัวรถนั้นค่อนข้างขี่ยากจึงทำผลงานได้ไม่ดีนัก ทำให้มี Aprilia ตัดสินใจยุติโปรแกรมในโมโตจีพีหลังจบฤดูกาล 2004 ซึ่งเป็นช่วงที่ Aprilia ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ Piaggio Group และหันไปโฟกัสในรุ่น 125cc/250cc ที่ยังใช้เครื่องยนต์ 2 จังหวะอยู่แทน
Aprilia RS Cube MotoGP
Aprilia ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมใน 2 รุ่นเล็ก สามารถเป็นแชมป์โลกทั้งในรุ่น 125 และ 250 ได้หลายครั้ง โดยเฉพาะในปี 2006-2007 ที่ได้แชมป์ทั้ง 2 รุ่น ก่อนที่จะถอนตัวออกจากรุ่นกลางหลังการมาของ Moto2 ในปี 2009 (และย้ายไปเริ่มแข่งใน WSBK ในปี 2010) และถอนตัวจาก MotoGP อย่างเต็มรูปแบบหลังจบปี 2011 ก่อนการมาของรุ่น Moto3 ในปี 2012 ด้วยตำแหน่งแชมป์โลกในรุ่น 125 ของ Nicolás Terol ซึ่งปีนั้นถือได้ว่า Aprilia ครองความเป็นเจ้าในรุ่นนี้อย่างแท้จริง เนื่องจากมีทีมแข่งเกินกว่า 70% เลือกใช้รถของ Aprilia RSA 125 ในการแข่งขัน
Aprilia RSA 250 - Jorge Lorenzo
หลังจากทุ่มเม็ดเงินย้ายไปลุยในศึก WSBK แบบทีมโรงงานเต็มรูปแบบ เพียงแค่ปีที่ 2 คือในปี 2010 Aprilia ก็คว้าแชมป์โลก WSBK ได้สำเร็จจากฝีมือของเสือเฒ่า Max Biaggi และลุงแม็กซ์ก็ทำได้สำเร็จอีกครั้งในปี 2012 ก่อนที่ Sylvain Guintoli จะช่วยให้ทีมเฉือน Kawasaki คว้าแชมป์โลกครั้งที่ 3 ได้อีกครั้งในปี 2014 ซึ่งการไป WSBK ของ Aprilia นั้นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นการนำการทำงานในรูปแบบของโมโตจีพีย้ายข้ามไปเลยทีเดียว
Aprilia 2012 WSBK Team
[MotoGP] Paddock Gossip: เรื่องวุ่นๆในมุ้งของ Aprilia บทเรียนจากกรณีของ Sam Lowes ที่สั่นกระเพื่อมไปทั้งกระดาน
Aprilia Racing Team Gresini
ภายใต้การนำทัพของ Luigi Dall’Igna หรือลุงจีจี้ ในยุคของโมโตจีพี Aprilia เป็นหนึ่งในโรงงานที่เข้าร่วมแข่งขันในปี 2002 ซึ่งเป็นปีแรกที่มีการเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ 4 จังหวะ โดยรถ RS Cube นั้นใช้เครื่องยนต์ In-line 3 สูบและมีเทคโนโลยีที่ค่อนข้างล้ำสมัยอย่างการควบคุมคันเร่งแบบ ride by wire และ Pneumatic valve actuation systems ซึ่งทั้ง 2 เทคโนโลยีนี้กลายเป็นของสามัญในรถแข่งยุคปัจุบัน แต่เนื่องจากตัวรถนั้นค่อนข้างขี่ยากจึงทำผลงานได้ไม่ดีนัก ทำให้มี Aprilia ตัดสินใจยุติโปรแกรมในโมโตจีพีหลังจบฤดูกาล 2004 ซึ่งเป็นช่วงที่ Aprilia ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ Piaggio Group และหันไปโฟกัสในรุ่น 125cc/250cc ที่ยังใช้เครื่องยนต์ 2 จังหวะอยู่แทน
Aprilia RS Cube MotoGP
Aprilia ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมใน 2 รุ่นเล็ก สามารถเป็นแชมป์โลกทั้งในรุ่น 125 และ 250 ได้หลายครั้ง โดยเฉพาะในปี 2006-2007 ที่ได้แชมป์ทั้ง 2 รุ่น ก่อนที่จะถอนตัวออกจากรุ่นกลางหลังการมาของ Moto2 ในปี 2009 (และย้ายไปเริ่มแข่งใน WSBK ในปี 2010) และถอนตัวจาก MotoGP อย่างเต็มรูปแบบหลังจบปี 2011 ก่อนการมาของรุ่น Moto3 ในปี 2012 ด้วยตำแหน่งแชมป์โลกในรุ่น 125 ของ Nicolás Terol ซึ่งปีนั้นถือได้ว่า Aprilia ครองความเป็นเจ้าในรุ่นนี้อย่างแท้จริง เนื่องจากมีทีมแข่งเกินกว่า 70% เลือกใช้รถของ Aprilia RSA 125 ในการแข่งขัน
Aprilia RSA 250 - Jorge Lorenzo
หลังจากทุ่มเม็ดเงินย้ายไปลุยในศึก WSBK แบบทีมโรงงานเต็มรูปแบบ เพียงแค่ปีที่ 2 คือในปี 2010 Aprilia ก็คว้าแชมป์โลก WSBK ได้สำเร็จจากฝีมือของเสือเฒ่า Max Biaggi และลุงแม็กซ์ก็ทำได้สำเร็จอีกครั้งในปี 2012 ก่อนที่ Sylvain Guintoli จะช่วยให้ทีมเฉือน Kawasaki คว้าแชมป์โลกครั้งที่ 3 ได้อีกครั้งในปี 2014 ซึ่งการไป WSBK ของ Aprilia นั้นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นการนำการทำงานในรูปแบบของโมโตจีพีย้ายข้ามไปเลยทีเดียว
Aprilia 2012 WSBK Team