ประโยชน์สำหรับคนอื่น อาจจะรู้แล้ว เพราะคนบาดเจ็บที่ต้องการเลือดมีทุกวัน
แต่เอาประโยชน์ที่ได้กับตัวเองละกัน การที่คุณสามารถบริจาคเลือดได้ นั่นแสดงว่าคุณมีสุขภาพร่างกายที่ดี
ตราบใดที่ร่างกายคุณยังแข็งแรง คุณก็ยังบริจาคได้ต่อเนื่อง แต่อย่าลืมว่ายิ่งคุณทำงาน ยิ่งคุณอายุมากขึ้น
อุปสรรคต่างๆมันก็จะมากขึ้น มีหลายร้อยเหตุผลที่จะทำให้คุณหยุดบริจาคเลือดได้ง่ายมาก
เช่น ไม่ว่าง ติดธุระ ทำงาน อันนี้เบสิคเลย ต่อมาคือ คุณเริ่มนอนดึก คุณทำงานหนัก คุณดื่มหนัก คุณสูบบุหรี่จัด
คุณเริ่มอ้วน คลอเรสเตอรรอลเริ่มสูง พอเริ่มแก่ โรคภัยต่างๆเริ่มมาเยือน ไม่ว่า ความดัน หัวใจ เบาหวาน หรือ มะเร็ง
ทุกอย่างล้วนเป็นอุปสรรค ทำให้คุณหยุดบริจาคเลือดได้ง่ายมาก เพราะร่างกายคุณไม่พร้อม

ดังนั้นการบริจาคเลือด มันก็คือการวัดคุณภาพสุขภาพร่างกายของคุณ ตราบใดที่ยังบริจาคได้ ก็แสดงว่าคุณยังแข็งแรงดี
แต่เมื่อใดที่ทางกาชาดแจ้งว่าเลือดคุณมีปัญหาไม่ว่าติดโรค หรือว่า ตัวคุณเองไม่พร้อม เลือดจาง นั่นเป็นตัวบ่งบอกว่าร่างกายคุณเริ่มแย่

ในวัย 20+ การมีร่างกายที่แข็งแรง ดูเป็นเรื่องปรกติ แต่ถ้าอายุ ขึ้น 30 40 50 แล้วยังแข็งแรงอยู่ นั่นถือว่าดีกว่า
และการพยายามทำให้ตัวเอง ยังคงบริจาคเลือดได้ต่อเนื่อง ก็เหมือนการบังคับตนเองให้ดูแลสุขภาพให้ดีต่อเนื่องเช่นกัน
อะไรที่ทำร้ายสุขภาพ คุณจะหลีกเลี่ยงเอง อะไรที่ทำให้เลือดคุณจาง คุณจะพยายามเลี่ยงเช่นกัน ส่วนอะไรทำให้คุณแข็งแรง คุณจะเข้าหามัน
ดังนั้นไม่มีคนบริจาคเลือดได้คนไหนที่ป่วย เพราะถ้าป่วยนั่นคือต้องหยุดบริจาค แต่ถ้ายังอยากบริจาค ต้องไม่ทำตนเองให้ป่วย

แค่คุณไม่ป่วย ไม่เป็นโรคอะไร สุขภาพแข็งแรงดี นั่นก็ดีเกินกว่าบุญใดๆที่คุณได้รับแล้ว