สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ดิฉันอาศัยและทำงานอยู่ในเขตชายแดนเบลเยี่ยม-ฮอล์แลนด์-เยอรมัน มา๒๐ปี ทั้งสามประเทศนี้คือเจริญมากๆ ถ้าจะเทียบกันระหว่างเบลเยี่ยมกับฮอล์แลนด์ก็คือไม่แตกต่างกันเลยในด้านความเจริญ แต่ก็มีส่วนได้เปรียบเสียเปรียบในแต่ละประเทศดังนี้
๑.เบลเยี่ยมใช้๔ภาษาในการสื่อสาร คือดัช๖๔% ฝรั่งเศส๓๖% เยอรมัน๑% และภาษาอังกฤษ ซึ่งถือเป็นการได้เปรียบกว่าฮอล์แลนด์ เด็กในชั้นมัธยมจะต้องได้เรียน จากคนรอบๆตัวเช่นสามี ลูกๆ และเพื่อนๆที่ทำงานจะสามารถพูดได้เกือบ๔ภาษาเลย และระบบการศึกษาของเบลเยี่ยมจะดีกว่าของฮอล์แลนด์ ดูได้จากในเขตชายแดนมีเด็กๆชาวดัชข้ามเข้ามาเรียนในเบลเยี่ยม
จบหมอผู้เชี่ยวชาญจากฮอล์แลนด์มาทำงานที่เบลเยี่ยมไม่ได้ ต้องมาสอบหรือเรียนเพิ่มเติม แม้กระทั่งพยาบาลมาตรฐานเบลเยี่ยมก็สูงกว่า
จากเหตุนี้จึงมีคนฮอล์แลนด์มาแย่งคนเบลเยี่ยมเรียนหมอกัน
๒.เบลเยี่ยมเป็นหัวใจของยุโรป และเป็นหนึ่งในหัวหอกของEUร่วมกับ เยอรมัน ฝรั่งเศส นี่คือศักยภาพทางด้านการเมืองของเบลเยี่ยม และถือว่าเบลเยี่ยมคือเมืองหลวงของEUเลย
(ลืมส่วนที่สำคัญเข้ามาพิมพ์เพิ่มเมื่อ23/08/17) สำนักใหญ่ของNATOก็อยู่ที่บรัสเซล ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเบลเยี่ยมเช่นกัน
๓.ฮอล์แลนด์มีท่าเรือใหญ่เป็นอันดับ๑.ในRotterdam แต่เบลเยี่ยมมีท่าเรือใหญ่เป็นอันดับ๒.ที่ Antwerpen คงไม่ต่างจากกันซักเท่าไหร่ในเรื่องนี้
แต่จะต่างกันในส่วนที่ ชาวดัชเก่งกาจเกี่ยวกับเรื่องทะเล เรื่องเรือ เรื่องเขื่อน เรื่องการการถมที่ทะเลเพื่อสร้างผืนแผ่นดิน
เมืองAntwerpen นอกจากเป็นเป็นท่าเรือสำคัญของเบลเยี่ยมแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางซื้อ-ขายเพชรอันดับหนึ่งของโลกมาช้านานแล้ว
๔.เบลเยี่ยมเก่งเรื่องปืน และถือว่าเป็นประเทศส่งขายปืนเป็นอันอับหนึ่งของโลก ทั้งมีเทคโนโลยีใหม่ๆนำมาตลอดตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่๑
๕.เบลเยี่ยมมีเทคโนโลยีด้านยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ส่งขายทั่วโลกอย่างเช่น บริษัทยา Janssen farmaceutica บริษัท BDซึ่งผลิตเข็มฉีดยา
กระบอกฉีดยา ยา และน้ำเกลือชนิดต่างๆ
๖.ค่าครองชีพในฮอล์แลนด์ถูกกว่าเบลเยี่ยม จากการเก็บภาษีที่แพงกว่าของรัฐบาลเบลเยี่ยม
๗.ระบบการรักษาพยาบาลที่เบลเยี่ยมจะรวดเร็วและถูกกว่าของฮอล์แลนด์ จึงทำให้หมอส่งคนไข้มารักษาที่เบลเยี่ยม
๘.คนฮอล์แลนด์ง่ายๆ ไม่ค่อยซีเรียส จึงมีความสุขและเครียดน้อยกว่าคนเบลเยี่ยม
ถึงคนดัชจะเป็นคนง่ายๆ แต่เรื่องกีฬาระดับโลก ระดับโอลิมปิก ชาวดัชก็เก่งมากๆ สามารถโกยเหรียญทองได้มากกว่าหลายๆประเทศในยุโรปเลย
ทั้งๆที่พื้นที่จะเล็กกว่าก็ตาม ของเบลเยี่ยมเองยังตามหลังฮอล์แลนด์อยู่ หลายขุม
๙.บ้านเรือน และการจัดการ ที่เบลเยี่ยมจะเป็นระบบระเบียบมากกว่าฮอล์แลนด์ แต่เรื่องถนนหนทางที่ฮอล์แลนด์มาตรฐานดีกว่าเบลเยี่ยม
เบลเยี่ยมแบ่งแยกตัวเอง ออกจากฮอล์แลนด์มาตั้งแต่ปี 1830 ถือว่าไม่นานเลยสำหรับประเทศนี้ แต่ประวัติศาสตร์ในดินแดนแถบนี้มีมานานมาก
เบลเยี่ยมเป็นประเทศเล็กๆ ประชาชนรักสงบ แต่จริงๆแล้วมีดีหลายๆอย่างโดยที่คนไทย หรือคนประเทศอื่นๆไม่ค่อยรู้ แต่ถ้ามาอยู่ และรู้จักเบลเยี่ยม
จริงๆ แล้วจะรู้ว่าประเทศนี้เจริญมากๆ คนเก่งๆก็เยอะ เช่นกัน แต่ที่ดิฉันชอบมากคือเพชรเบลเยี่ยมนี่แหละ ชอบที่สุด
๑.เบลเยี่ยมใช้๔ภาษาในการสื่อสาร คือดัช๖๔% ฝรั่งเศส๓๖% เยอรมัน๑% และภาษาอังกฤษ ซึ่งถือเป็นการได้เปรียบกว่าฮอล์แลนด์ เด็กในชั้นมัธยมจะต้องได้เรียน จากคนรอบๆตัวเช่นสามี ลูกๆ และเพื่อนๆที่ทำงานจะสามารถพูดได้เกือบ๔ภาษาเลย และระบบการศึกษาของเบลเยี่ยมจะดีกว่าของฮอล์แลนด์ ดูได้จากในเขตชายแดนมีเด็กๆชาวดัชข้ามเข้ามาเรียนในเบลเยี่ยม
จบหมอผู้เชี่ยวชาญจากฮอล์แลนด์มาทำงานที่เบลเยี่ยมไม่ได้ ต้องมาสอบหรือเรียนเพิ่มเติม แม้กระทั่งพยาบาลมาตรฐานเบลเยี่ยมก็สูงกว่า
จากเหตุนี้จึงมีคนฮอล์แลนด์มาแย่งคนเบลเยี่ยมเรียนหมอกัน
๒.เบลเยี่ยมเป็นหัวใจของยุโรป และเป็นหนึ่งในหัวหอกของEUร่วมกับ เยอรมัน ฝรั่งเศส นี่คือศักยภาพทางด้านการเมืองของเบลเยี่ยม และถือว่าเบลเยี่ยมคือเมืองหลวงของEUเลย
(ลืมส่วนที่สำคัญเข้ามาพิมพ์เพิ่มเมื่อ23/08/17) สำนักใหญ่ของNATOก็อยู่ที่บรัสเซล ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเบลเยี่ยมเช่นกัน
๓.ฮอล์แลนด์มีท่าเรือใหญ่เป็นอันดับ๑.ในRotterdam แต่เบลเยี่ยมมีท่าเรือใหญ่เป็นอันดับ๒.ที่ Antwerpen คงไม่ต่างจากกันซักเท่าไหร่ในเรื่องนี้
แต่จะต่างกันในส่วนที่ ชาวดัชเก่งกาจเกี่ยวกับเรื่องทะเล เรื่องเรือ เรื่องเขื่อน เรื่องการการถมที่ทะเลเพื่อสร้างผืนแผ่นดิน
เมืองAntwerpen นอกจากเป็นเป็นท่าเรือสำคัญของเบลเยี่ยมแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางซื้อ-ขายเพชรอันดับหนึ่งของโลกมาช้านานแล้ว
๔.เบลเยี่ยมเก่งเรื่องปืน และถือว่าเป็นประเทศส่งขายปืนเป็นอันอับหนึ่งของโลก ทั้งมีเทคโนโลยีใหม่ๆนำมาตลอดตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่๑
๕.เบลเยี่ยมมีเทคโนโลยีด้านยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ส่งขายทั่วโลกอย่างเช่น บริษัทยา Janssen farmaceutica บริษัท BDซึ่งผลิตเข็มฉีดยา
กระบอกฉีดยา ยา และน้ำเกลือชนิดต่างๆ
๖.ค่าครองชีพในฮอล์แลนด์ถูกกว่าเบลเยี่ยม จากการเก็บภาษีที่แพงกว่าของรัฐบาลเบลเยี่ยม
๗.ระบบการรักษาพยาบาลที่เบลเยี่ยมจะรวดเร็วและถูกกว่าของฮอล์แลนด์ จึงทำให้หมอส่งคนไข้มารักษาที่เบลเยี่ยม
๘.คนฮอล์แลนด์ง่ายๆ ไม่ค่อยซีเรียส จึงมีความสุขและเครียดน้อยกว่าคนเบลเยี่ยม
ถึงคนดัชจะเป็นคนง่ายๆ แต่เรื่องกีฬาระดับโลก ระดับโอลิมปิก ชาวดัชก็เก่งมากๆ สามารถโกยเหรียญทองได้มากกว่าหลายๆประเทศในยุโรปเลย
ทั้งๆที่พื้นที่จะเล็กกว่าก็ตาม ของเบลเยี่ยมเองยังตามหลังฮอล์แลนด์อยู่ หลายขุม
๙.บ้านเรือน และการจัดการ ที่เบลเยี่ยมจะเป็นระบบระเบียบมากกว่าฮอล์แลนด์ แต่เรื่องถนนหนทางที่ฮอล์แลนด์มาตรฐานดีกว่าเบลเยี่ยม
เบลเยี่ยมแบ่งแยกตัวเอง ออกจากฮอล์แลนด์มาตั้งแต่ปี 1830 ถือว่าไม่นานเลยสำหรับประเทศนี้ แต่ประวัติศาสตร์ในดินแดนแถบนี้มีมานานมาก
เบลเยี่ยมเป็นประเทศเล็กๆ ประชาชนรักสงบ แต่จริงๆแล้วมีดีหลายๆอย่างโดยที่คนไทย หรือคนประเทศอื่นๆไม่ค่อยรู้ แต่ถ้ามาอยู่ และรู้จักเบลเยี่ยม
จริงๆ แล้วจะรู้ว่าประเทศนี้เจริญมากๆ คนเก่งๆก็เยอะ เช่นกัน แต่ที่ดิฉันชอบมากคือเพชรเบลเยี่ยมนี่แหละ ชอบที่สุด
แสดงความคิดเห็น
ระหว่างเบลเยี่ยมกับเนเธอร์แลนด์ใครมีความเจริญกว่ากันครับ