ฮัลโหลลลลลลลลล ทุกคนนนนน
วันนี้จะพาทุกคนไปล่องแดนใต้กันดีกว่าาาาาาา !!!
ไม่ใช่ที่ไหน
"สุราษฎร์ธานี" นั่นไงง 555
พอพูดถึงจังหวัดนี้หลายคนอาจจะคิดว่ามีแต่เกาะ ทะเล
แต่สุราษฎร์ไม่ได้มีแค่เกาะนะจ้ะ จะบอกให้ 555
มีอะไรมากมายให้เราทำมากกว่านั้นนนนน จะเป็นยังไงต้องตามไปดูคลิปนี้เลยยยย
สถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมด
1. เขื่อนเชียวหลาน (เขาสก)
2. ภูเขารูปหัวใจ
3. ถ้ำวราราม (ให้อาหารปลา)
4. ล่องแพคลองศก
5. คลองน้ำใส
6. วัดถ้ำสิงขร
ที่พัก
เขื่อนเชียวหลาน >>>
แพสมายเลย์
บนฝั่ง >>>
ภูผาและลำธาร
ทั้งหมดเราไปกัน 3 วัน 2 คืน ซึ่งตอนที่ไปนั้นเป็นช่วงหยุดยาว เลยทำให้ที่พักเต็ม 55
เราจึงมีแผนสำรอง นอนแพที่เขื่อนเชี่ยวหลาน 1 คืน และกลับขึ้นมานอนบนฝั่งอีก 1 คืน
การเดินทางของเราจึงเริ่มขึ้นโดยรถไฟกรุงเทพ-สุราษฎร์ธานี ด่วนพิเศษ (แบบนั่ง) ที่หัวลำโพงเวลา 22:50 น. และเดินทางถึงสถานีสุราษฎร์ธานีเวลาประมาณ 08.00 น. เช้าอีกวัน จากนั้นเราก็เดินทางไปท่าเรือ เพื่อเดินทางไปยังเขื่อนเชียวหลาน จากสถานีถึงท่าเรือใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง
จากนั้นเราก็ทำการเที่ยวทันที555 ไม่รอช้า ระยะทางในการนั่งเรือนั้น คนเรือจะแวะให้เราถ่ายรูปทีวิวสวยๆ เมื่อถึงเขื่อนกิจกรรมแรกที่ได้ทำ มันก็จะแอดเวนเจอร์หน่อยๆ คือ การไปถ้ำปะการัง วิธีการไปถ้ำนั้นจะผจญภัยหน่อยๆ เราต้องนั่งเรือไป จากนั้นเดิน รวมระยะทางการเดินไปกลับจะประมาณ 3 กิโล และจากนั้นต้องนั่งแพเข้าไปถึงปากถ้ำ บอกจริงๆว่าเหนื่อยอยู่นะ แต่สนุกกกกก
หลังจากที่เหนื่อยมากๆเราก็กลับมาพักผ่อนตามสบายที่แพ ไม่ว่าจะกินข้าว (ที่หิวมากๆ) เล่นน้ำหน้าที่พัก และกิจกรรมที่ขาดไม่ได้ คือ
พายเรือคายัค !!!! เราคิดว่าเวลาสำหรับ 1 คืนที่เขื่อนกำลังดีนะ เพราะถ้าอยู่ต่ออีก 1 วันก็ไม่มีอะไรทำ
ที่สำคัญ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์นะจ้ะ!!! นอกจากจะไปพักผ่อนจริงๆ แบบนอน เล่นน้ำ 555
้เช้าวันต่อมาก็จะเดินทางกลับมาบนฝั่ง โดยก่อนจะกลับก็แวะไปถ่ายรูป ที่สำคัญก็ต้องแวะไปถ่ายรูปที่ไหนไม่ได้ ต้องเป็นที่นี้แน่นอน ไม่งั้นมาไม่ถึง
"เขาสามเกลอ" หรือ กุ้ยหลินเมืองไทยนั่นเอง
พอมาถึงฝั่งเราก็ไปที่พัก
"ภูผาและลำธาร" ซึ่งเอาบรรยากาศดีมากๆเลยนะ ถ้าดูจากคลิปแล้ว
หลังจากนั้นเราก็ไปล่องแพกันที่คลองศก อันนี้ดี๊ดี มีคนพายให้ ไม่งั้นเหนื่อยมาก 55555 แต่ใครอยากพายก็ได้นะ พี่เค้าใจดีให้พายได้ !!!
และวันสุดท้ายก็มาถึง ก่อนจะกลับ เราจึงแวะไป
"คลองน้ำใส" ซึ่งบอกเลย น้ำใสมากจริงๆๆๆๆๆ ใสมากกกกกกก!!! แต่เราไม่ได้เล่นน้ำหรอก เริ่มขี้เกียจละ 555 แต่ว่าที่นี้เสียค่าเข้านะ 20 บาทได้ถ้าจำไม่ผิด น้ำไม่ลึกมาก เด็กๆโดดน้ำกันสนุกเลยยยย
ที่สุดท้ายที่แวะไปคือ วัดถ้ำสิงขร ไปไหว้พระก่อนกลับสักหน่อย เป็นวัดสมัยประวัติศาสตร์ ซึ่งบนผนังถ้ำจะมีภาพเขียน ลายปูนปั้น พระพุทธรูปปูนปั้น จำนวนมาก
สุดท้ายการเดินทางได้สิ้นสุดลงแล้วววววว ขากลับนั้นเราได้นั่งเครื่องกลับกรุงเทพฯ และทริปนี้เป็นทริปที่เวิคมากๆเลยนะ ได้ทำอะไรหลายอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ประทับสุดๆๆๆ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่าาาาาาา
ใครมีแพลนจะไปเที่ยว สุราษฎร์ธานี และเบื่อเกาะ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นแนวทางได้นะจ้ะ ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้าค่าาาาาาาา บ๊ายยยยย!!
ฝากติดตามช่อง
youtube : Thekimjoonz ด้วยค่า
[CR] บุกเขื่อน ตะลุย ณ สุราษฎร์ :)
วันนี้จะพาทุกคนไปล่องแดนใต้กันดีกว่าาาาาาา !!!
ไม่ใช่ที่ไหน "สุราษฎร์ธานี" นั่นไงง 555
พอพูดถึงจังหวัดนี้หลายคนอาจจะคิดว่ามีแต่เกาะ ทะเล
แต่สุราษฎร์ไม่ได้มีแค่เกาะนะจ้ะ จะบอกให้ 555
มีอะไรมากมายให้เราทำมากกว่านั้นนนนน จะเป็นยังไงต้องตามไปดูคลิปนี้เลยยยย
สถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมด
1. เขื่อนเชียวหลาน (เขาสก)
2. ภูเขารูปหัวใจ
3. ถ้ำวราราม (ให้อาหารปลา)
4. ล่องแพคลองศก
5. คลองน้ำใส
6. วัดถ้ำสิงขร
ที่พัก
เขื่อนเชียวหลาน >>> แพสมายเลย์
บนฝั่ง >>> ภูผาและลำธาร
ทั้งหมดเราไปกัน 3 วัน 2 คืน ซึ่งตอนที่ไปนั้นเป็นช่วงหยุดยาว เลยทำให้ที่พักเต็ม 55
เราจึงมีแผนสำรอง นอนแพที่เขื่อนเชี่ยวหลาน 1 คืน และกลับขึ้นมานอนบนฝั่งอีก 1 คืน
การเดินทางของเราจึงเริ่มขึ้นโดยรถไฟกรุงเทพ-สุราษฎร์ธานี ด่วนพิเศษ (แบบนั่ง) ที่หัวลำโพงเวลา 22:50 น. และเดินทางถึงสถานีสุราษฎร์ธานีเวลาประมาณ 08.00 น. เช้าอีกวัน จากนั้นเราก็เดินทางไปท่าเรือ เพื่อเดินทางไปยังเขื่อนเชียวหลาน จากสถานีถึงท่าเรือใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง
จากนั้นเราก็ทำการเที่ยวทันที555 ไม่รอช้า ระยะทางในการนั่งเรือนั้น คนเรือจะแวะให้เราถ่ายรูปทีวิวสวยๆ เมื่อถึงเขื่อนกิจกรรมแรกที่ได้ทำ มันก็จะแอดเวนเจอร์หน่อยๆ คือ การไปถ้ำปะการัง วิธีการไปถ้ำนั้นจะผจญภัยหน่อยๆ เราต้องนั่งเรือไป จากนั้นเดิน รวมระยะทางการเดินไปกลับจะประมาณ 3 กิโล และจากนั้นต้องนั่งแพเข้าไปถึงปากถ้ำ บอกจริงๆว่าเหนื่อยอยู่นะ แต่สนุกกกกก
หลังจากที่เหนื่อยมากๆเราก็กลับมาพักผ่อนตามสบายที่แพ ไม่ว่าจะกินข้าว (ที่หิวมากๆ) เล่นน้ำหน้าที่พัก และกิจกรรมที่ขาดไม่ได้ คือ พายเรือคายัค !!!! เราคิดว่าเวลาสำหรับ 1 คืนที่เขื่อนกำลังดีนะ เพราะถ้าอยู่ต่ออีก 1 วันก็ไม่มีอะไรทำ ที่สำคัญ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์นะจ้ะ!!! นอกจากจะไปพักผ่อนจริงๆ แบบนอน เล่นน้ำ 555
้เช้าวันต่อมาก็จะเดินทางกลับมาบนฝั่ง โดยก่อนจะกลับก็แวะไปถ่ายรูป ที่สำคัญก็ต้องแวะไปถ่ายรูปที่ไหนไม่ได้ ต้องเป็นที่นี้แน่นอน ไม่งั้นมาไม่ถึง "เขาสามเกลอ" หรือ กุ้ยหลินเมืองไทยนั่นเอง
พอมาถึงฝั่งเราก็ไปที่พัก "ภูผาและลำธาร" ซึ่งเอาบรรยากาศดีมากๆเลยนะ ถ้าดูจากคลิปแล้ว
หลังจากนั้นเราก็ไปล่องแพกันที่คลองศก อันนี้ดี๊ดี มีคนพายให้ ไม่งั้นเหนื่อยมาก 55555 แต่ใครอยากพายก็ได้นะ พี่เค้าใจดีให้พายได้ !!!
และวันสุดท้ายก็มาถึง ก่อนจะกลับ เราจึงแวะไป "คลองน้ำใส" ซึ่งบอกเลย น้ำใสมากจริงๆๆๆๆๆ ใสมากกกกกกก!!! แต่เราไม่ได้เล่นน้ำหรอก เริ่มขี้เกียจละ 555 แต่ว่าที่นี้เสียค่าเข้านะ 20 บาทได้ถ้าจำไม่ผิด น้ำไม่ลึกมาก เด็กๆโดดน้ำกันสนุกเลยยยย ที่สุดท้ายที่แวะไปคือ วัดถ้ำสิงขร ไปไหว้พระก่อนกลับสักหน่อย เป็นวัดสมัยประวัติศาสตร์ ซึ่งบนผนังถ้ำจะมีภาพเขียน ลายปูนปั้น พระพุทธรูปปูนปั้น จำนวนมาก
สุดท้ายการเดินทางได้สิ้นสุดลงแล้วววววว ขากลับนั้นเราได้นั่งเครื่องกลับกรุงเทพฯ และทริปนี้เป็นทริปที่เวิคมากๆเลยนะ ได้ทำอะไรหลายอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ประทับสุดๆๆๆ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่าาาาาาา
ใครมีแพลนจะไปเที่ยว สุราษฎร์ธานี และเบื่อเกาะ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นแนวทางได้นะจ้ะ ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้าค่าาาาาาาา บ๊ายยยยย!!
ฝากติดตามช่อง youtube : Thekimjoonz ด้วยค่า