เพราะว่า
“แม่ก็คือแม่” แม่ที่ทำให้ลูกสวยได้! เพียงแค่ตบ ตบ ตบ ไม่ใช้เลี้ยงลูกด้วยลำแข้งนะคะ แต่แม่สำหรับกระทู้นี้ คือแป้งพัฟผสมรองพื้นค่า คือว่า ช่วงหลังๆ เราเปลี่ยนจากรองพื้น มาใช้แป้งพัฟผสมรองพื้นแทน เพราะมันไม่ต้องยุ่งยาก ไม่ต้องเกลี่ยเยอะ ส่วนพวกรอยสิวก็ใช้คอนซีลเลอร์แต้มเป็นจุดๆ ไป
แต่ว่าแป้งฟัพแต่ละตัว ที่เราจัดมานั้นนนนน.. จะบอกว่าเป็นตัวท็อป ตัวแม่ ตัวดัง ซื้อเพราะว่าห้ามใจไม่อยู่ ใช้ผลัดกันแบบรักพี่เสียดายน้องตลอด เพราะซื้อมาแล้วให้ทำไง 555 (ในเลขห้ามีน้ำตาซ่อนอยู่) วันนี้เลยจะหยิบมารีวิวให้ดูกันทั้งหมด 5 ตัว ว่าตัวไหนดีงาม ที่สมควรได้ตำแหน่ง
“แม่ที่แท้ทรู” หรือว่าได้แค่
“ป้าข้างบ้าน” แบบพี่ลูกเกด /วิ่งงง
เทียบสีของแต่ละตัวให้ดู เราเป็นสีผิวขาวออกโทนเหลืองนะคะ และมีผิวมันช่วง T-Zone
1. Chanel Perfection Lumiere Extreme SPF 25 PA+++
ความเรียบเนียน / ความชอบโดยรวม : ตัวนี้ทาแล้วให้หน้าผ่อง หน้าดูไบร์ทๆ ทาแล้วคนทักว่าวันนี้หน้าดูดีจัง ก็ดูราคาสิ๊ (เสียงสูง) ถ้าไม่ดี คงนอนร้องไห้ไป 3 วัน 8 วัน
เฉดสีของแป้ง : เฉดสีแป้งเข้ากับสีผิวเราได้พอดีเลย ไม่รู้สึกว่าขาวกว่าหน้า หรือเข้มกว่า
ปกปิดรูขุมขน / รอยสิว : ปกปิดเบามาก รอยดำจากสิวเห็นชัดอยู่ ต้องใช้ซีลเลอร์ และรองพื้นช่วย แต่สามารถทาเดี่ยวๆ มาทำงานออฟฟิศในทุกวันได้ ก็จะได้งานผิวๆ หน่อย
คุมความมัน : คุมความมันได้ในระดับ 4/5 เพราะว่าต้องมีซับมันบ้าง แต่หน้าก็ยังดูผ่องทั้งวัน
ราคา : 2,400 บาท
ขอมอบตำแหน่ง : “แม่เลี้ยง” เกือบจะดีแบบสุดๆละ แต่เสียดายไม่ค่อยปกปิดเท่าไหร่เลย และราคาก็แรว๊งงงง เลยทำให้ไม่อยากใช้ทุกวัน เพราะกลัวหมดไว แต่ถ้าใครชอบงานผิว หน้าไม่ค่อยมีปัญหาอะไรต้องปกปิดเยอะ ก็เหมาะจ้า
2. Oriental Princess Beneficial Ultimate Coverage Foundation Powder
ความเรียบเนียน / ความชอบโดยรวม : ทาแล้วหน้าเรียบเนียน แบบคนจับไม่ได้ว่าทาแป้งผสมรองพื้น เพราะเคยโดนเพื่อนทักว่าวันนี้มีนัดผู้หรอ หน้าดี หน้าสวย ตื่นมาแต่งตั้งแต่ตี 5 หรือป่าว 5555555
เฉดสีของแป้ง : สีแป้งเดียวกับสีผิวของเรา แบบอุ๊ยย! นี่ทำมาเพื่อเราเลยหรือป่าว ความรู้สึกเหมือนกับตัว Chanel
ปกปิดรูขุมขน / รอยสิว : ตัวนี้ปกปิดได้ดีมาก รอยดำ รอยแดงแทบไม่เห็น แต่ถึงว่าปกปิดได้เยอะ แต่ก็ดูไม่โบ๊ะ ให้ความแมทท์ แต่รู้สึกไม่ได้ทำให้ผิวแห้ง ยังรู้สึกชุ่มชื้น หน้าไม่แคร๊กเวลายิ้ม คือเบาสบาย ไม่หลอก ไม่หนา
คุมความมัน : คุมมันได้ทั้งวัน แต่ช่วงเย็นๆ หน้าจะดูเงาๆ หน่อย เงาแบบดูผ่องๆ โกลว์ๆ ไม่ต้องใช้กระดาษซับมันก็ได้ หน้าไม่ดรอป และหน้าไม่เยิ้มระหว่างวัน คือปกติตอนบ่ายๆ หน้าเราจะเริ่มมัน ช่วง T-Zone แล้ววว แต่นี่ไม่จ้า 5/5 ไปเลยจ้า
ราคา : 575 บาท
ขอมอบตำแหน่ง : “แม่ทุกสถาบัน” เจอตลับนี้อยากจะกราบเช้า – เย็น ทำหน้าที่ได้ดี ไม่มีบกพร่อง เพราะตั้งแต่มีนางชีวิตหนังหน้าก็ดูดีขึ้น แบบไม่มีสาเหตุ ตบแป้งตัวเดียวพอ
3. Revlon Age Defying Two-Way Powder Foundation
ความเรียบเนียน : ตัวนี้เนียนเรียบมากกกก แต่ให้ความรู้สึกว่าหน้าดูหนาๆ และผิวหน้าดูไม่มีอากาศหายใจ
สีเป็นธรรมชาติ : ตัวนี้เข้มกว่าผิวของเราไปนิดนึงอะ เพราะตอนแรกจะเลือกสีที่ขาวกว่านี้ แต่มันก็ดันขาวไป กลัวใช้แล้วหน้าลอย เลยเลือกเฉดนี้มา แล้วเน้นตบเบาๆ มือแทน
ปกปิดรูขุมขน / รอยสิว : ตัวนี้ปกปิดได้ดี รอยดำ รอยแดงปิดมิดเหมือนกัน แต่ต้องตบเยอะหน่อย และความหนักหน้านั้นไม่ต้องสืบ ดูโบ๊ะๆ ออกแนวป้านิดๆ แต่ถ้าตบเบาๆ ก็ได้อยู่แหละ
คุมความมัน : คุมมันได้ดี แต่ตอนบ่ายหน้าจะดรอปลงมาอีก ทำให้หน้าดูเทาๆ คล้ำๆ เคยโดนทักว่าวันนี้โดนราหูอมมาหรอ จะโกรธเพื่อน หรือขำตัวเองดี
ราคา : 450 บาท
ขอมอบตำแหน่ง : “ป้าข้างบ้าน” เหมือนจะช่วยเราได้ แต่ก็ช่วยได้ไม่สุด เพราะปกปิด คุมมัน แต่ตามมาด้วยความหนักหน้า และหน้าดรอป ตลับนี้เลยเก็บไว้ใช้ตอนออกงาน ที่แบบครึ่งวัน นางก็ทำได้เลิศอยู่
4. M.A.C Pro Longwear Powder Pressed
ความเรียบเนียน : เรียนเนียน บางเบา ไม่หนักหน้า รู้สึกเหมือนแค่ช่วยปรับผิวหน้าให้ดูผ่องขึ้น
สีเป็นธรรมชาติ : อันนี้ BA แนะนำว่าเราเหมาะกับสีนี้ แต่เรารู้สึกว่ามันยังขาวไปสำหรับเรา หน้าดูลอยไปนิสสสส
ปกปิดรูขุมขน / รอยสิว : ตัวนี้ปกปิดได้น้อยกว่าที่เราคิด คือตอนทารอยคล้ำใต้ตาเราปิดได้ไม่ค่อยมิด รอยดำ รอยแดง ก็ช่วยปกปิดได้ในระดับนึง ยังต้องพึ่งคลอซิลเลอร์ หรือรองพื้นอยู่
คุมความมัน : ตัวนี้ไม่ค่อยคุมมันอะ ระหว่างวันหน้าก็เยิ้ม ยิ่งซับแป้งยิ่งหลุด เห็นผิวจริงหมดเลยค่าซิสสสสสส
ราคา : 1,600 บาท
ขอมอบตำแหน่ง : “แค่คนที่เคยผ่านมา” แอบเศร้า เพราะราคานี้ แต่มันน่าจะทำหน้าที่ได้ดีกว่านี้ ฮือออ..
5. Lancome blanc expert brightening compact foundation
ความเรียบเนียน : เรียบเนียน แบบบางเบา ช่วยปรับให้สีผิวดูสม่ำเสมอ และผิวดูผ่องขึ้น
สีเป็นธรรมชาติ : เข้ากับผิวได้ดี ไม่ดูหลอก ไม่ลอย ชอบๆ
ปกปิดรูขุมขน / รอยสิว : ปกปิดดีเลยแหละ เห็นแค่รอยดำ รอยแดงเบาๆ ทาเดี่ยวๆ ได้เลย เริ่ด
คุมความมัน : ตัวนี้คุมมันแบบโอ้ยยยยยยดีมาก แต่มากเกินไปด้วยสำหรับเรา เพราะตอนทาหน้ามันจะแมทท์ๆ ระหว่างวันหน้าเป็นขุยๆ แห้งๆไปหน่อย แต่ถ้าใครหน้ามันมากๆ จะเหมาะมากๆๆ
ราคา : 2,700 บาท
ขอมอบตำแหน่ง : “ทูลหัวของบ่าว” คือทำหน้าดีได้ดี ปกปิดดี คุมมันดี (ดีเกินไปสำหรับเราด้วยซ้ำ ขนาดเราเป็นคนหน้ามันนะ หน้าแห้งเกินไป ทำให้ตรงแก้มเป็นขุยๆระหว่างวัน) ส่วนเรื่องราคาก็เอาเรื่องมากกกกกกกกก แต่ตลับสวยงาม หรูหรา ดี พกขึ้นมาตบระหว่างวันแล้วดูไฮโซ เหมือนซื้อมาไว้เทิดทูล 55555
สุดท้าย ความคุมมัน ด้วยกระดาษซับมันให้ดูหลังผ่านไป 8 ชม.
เรียงจากตัวที่คุมมันได้ดีที่สุด Lancome > Oriental Princess & Chanel > Revlon > M.A.C
Lancome คุมมันดีสุดตามที่บอก แต่ข้างแก้มแอบเป็นขุย เพราะมันแมทท์เกิน, ส่วน Oriental Princess กับ Chanel คุมมันได้ดีพอกันเลย แต่ OP จะราคาจับต้องได้ และปกปิดดีกว่า สบายผิวหน้ากว่า แต่ถ้าไม่ต้องการปกปิดก็ Chanel, ตามด้วย Revlon และสุดท้ายคือ MAC ที่กระดาษซับมันเกือบเต็มแผ่น (ที่ตอนแรกคิดเอง เออเอง ว่าน่าจะคุมมันได้ดีสุด)
จบครบ หมดแล้ว เหล่าบรรดาแปังพัฟผสมรองพื้นตัวแม่ทั้ง 5 ตัว
(อันนี้เป็นผลการทดสอบกับผิวของเราเองนะ คนอื่นอาจจะมีผลต่างกันไป)
แต่ละตัวก็จะมีความดีงามแตกต่างกันไป ใครชอบแบบไหน มีผิวหน้าแบบไหน มีงบเท่าไหร่ ก็ลองเลือกดูกันนะ แต่ก่อนซื้ออย่าลืมเลือกเฉดสีแป้งให้เหมาะกับสีผิวของเราด้วย อยากให้ลองที่ข้างแก้มก่อน หรือให้ BA เช็ดหน้าแล้วลองให้เลย เพราะบางทีมองด้วยตาเปล่า หรือเทสที่แขน อาจจะไม่ตรงกับสีผิวหน้า เดี๋ยวหน้าลอย หน้าเทา แล้วจะหาว่าเพื่อนไม่รัก เลยไม่เตือนไม่ได้น้า อิอิ
[CR] จัดมาเฉพาะตัวแม่! รีวิว แป้งพัฟผสมรองพื้น ตัวไหนดีงามสมกับเป็น “แม่ก็คือแม่”
แต่ว่าแป้งฟัพแต่ละตัว ที่เราจัดมานั้นนนนน.. จะบอกว่าเป็นตัวท็อป ตัวแม่ ตัวดัง ซื้อเพราะว่าห้ามใจไม่อยู่ ใช้ผลัดกันแบบรักพี่เสียดายน้องตลอด เพราะซื้อมาแล้วให้ทำไง 555 (ในเลขห้ามีน้ำตาซ่อนอยู่) วันนี้เลยจะหยิบมารีวิวให้ดูกันทั้งหมด 5 ตัว ว่าตัวไหนดีงาม ที่สมควรได้ตำแหน่ง “แม่ที่แท้ทรู” หรือว่าได้แค่ “ป้าข้างบ้าน” แบบพี่ลูกเกด /วิ่งงง
เฉดสีของแป้ง : เฉดสีแป้งเข้ากับสีผิวเราได้พอดีเลย ไม่รู้สึกว่าขาวกว่าหน้า หรือเข้มกว่า
ปกปิดรูขุมขน / รอยสิว : ปกปิดเบามาก รอยดำจากสิวเห็นชัดอยู่ ต้องใช้ซีลเลอร์ และรองพื้นช่วย แต่สามารถทาเดี่ยวๆ มาทำงานออฟฟิศในทุกวันได้ ก็จะได้งานผิวๆ หน่อย
คุมความมัน : คุมความมันได้ในระดับ 4/5 เพราะว่าต้องมีซับมันบ้าง แต่หน้าก็ยังดูผ่องทั้งวัน
ราคา : 2,400 บาท
ขอมอบตำแหน่ง : “แม่เลี้ยง” เกือบจะดีแบบสุดๆละ แต่เสียดายไม่ค่อยปกปิดเท่าไหร่เลย และราคาก็แรว๊งงงง เลยทำให้ไม่อยากใช้ทุกวัน เพราะกลัวหมดไว แต่ถ้าใครชอบงานผิว หน้าไม่ค่อยมีปัญหาอะไรต้องปกปิดเยอะ ก็เหมาะจ้า
ความเรียบเนียน / ความชอบโดยรวม : ทาแล้วหน้าเรียบเนียน แบบคนจับไม่ได้ว่าทาแป้งผสมรองพื้น เพราะเคยโดนเพื่อนทักว่าวันนี้มีนัดผู้หรอ หน้าดี หน้าสวย ตื่นมาแต่งตั้งแต่ตี 5 หรือป่าว 5555555
เฉดสีของแป้ง : สีแป้งเดียวกับสีผิวของเรา แบบอุ๊ยย! นี่ทำมาเพื่อเราเลยหรือป่าว ความรู้สึกเหมือนกับตัว Chanel
ปกปิดรูขุมขน / รอยสิว : ตัวนี้ปกปิดได้ดีมาก รอยดำ รอยแดงแทบไม่เห็น แต่ถึงว่าปกปิดได้เยอะ แต่ก็ดูไม่โบ๊ะ ให้ความแมทท์ แต่รู้สึกไม่ได้ทำให้ผิวแห้ง ยังรู้สึกชุ่มชื้น หน้าไม่แคร๊กเวลายิ้ม คือเบาสบาย ไม่หลอก ไม่หนา
คุมความมัน : คุมมันได้ทั้งวัน แต่ช่วงเย็นๆ หน้าจะดูเงาๆ หน่อย เงาแบบดูผ่องๆ โกลว์ๆ ไม่ต้องใช้กระดาษซับมันก็ได้ หน้าไม่ดรอป และหน้าไม่เยิ้มระหว่างวัน คือปกติตอนบ่ายๆ หน้าเราจะเริ่มมัน ช่วง T-Zone แล้ววว แต่นี่ไม่จ้า 5/5 ไปเลยจ้า
ราคา : 575 บาท
ขอมอบตำแหน่ง : “แม่ทุกสถาบัน” เจอตลับนี้อยากจะกราบเช้า – เย็น ทำหน้าที่ได้ดี ไม่มีบกพร่อง เพราะตั้งแต่มีนางชีวิตหนังหน้าก็ดูดีขึ้น แบบไม่มีสาเหตุ ตบแป้งตัวเดียวพอ
ความเรียบเนียน : ตัวนี้เนียนเรียบมากกกก แต่ให้ความรู้สึกว่าหน้าดูหนาๆ และผิวหน้าดูไม่มีอากาศหายใจ
สีเป็นธรรมชาติ : ตัวนี้เข้มกว่าผิวของเราไปนิดนึงอะ เพราะตอนแรกจะเลือกสีที่ขาวกว่านี้ แต่มันก็ดันขาวไป กลัวใช้แล้วหน้าลอย เลยเลือกเฉดนี้มา แล้วเน้นตบเบาๆ มือแทน
ปกปิดรูขุมขน / รอยสิว : ตัวนี้ปกปิดได้ดี รอยดำ รอยแดงปิดมิดเหมือนกัน แต่ต้องตบเยอะหน่อย และความหนักหน้านั้นไม่ต้องสืบ ดูโบ๊ะๆ ออกแนวป้านิดๆ แต่ถ้าตบเบาๆ ก็ได้อยู่แหละ
คุมความมัน : คุมมันได้ดี แต่ตอนบ่ายหน้าจะดรอปลงมาอีก ทำให้หน้าดูเทาๆ คล้ำๆ เคยโดนทักว่าวันนี้โดนราหูอมมาหรอ จะโกรธเพื่อน หรือขำตัวเองดี
ราคา : 450 บาท
ขอมอบตำแหน่ง : “ป้าข้างบ้าน” เหมือนจะช่วยเราได้ แต่ก็ช่วยได้ไม่สุด เพราะปกปิด คุมมัน แต่ตามมาด้วยความหนักหน้า และหน้าดรอป ตลับนี้เลยเก็บไว้ใช้ตอนออกงาน ที่แบบครึ่งวัน นางก็ทำได้เลิศอยู่
ความเรียบเนียน : เรียนเนียน บางเบา ไม่หนักหน้า รู้สึกเหมือนแค่ช่วยปรับผิวหน้าให้ดูผ่องขึ้น
สีเป็นธรรมชาติ : อันนี้ BA แนะนำว่าเราเหมาะกับสีนี้ แต่เรารู้สึกว่ามันยังขาวไปสำหรับเรา หน้าดูลอยไปนิสสสส
ปกปิดรูขุมขน / รอยสิว : ตัวนี้ปกปิดได้น้อยกว่าที่เราคิด คือตอนทารอยคล้ำใต้ตาเราปิดได้ไม่ค่อยมิด รอยดำ รอยแดง ก็ช่วยปกปิดได้ในระดับนึง ยังต้องพึ่งคลอซิลเลอร์ หรือรองพื้นอยู่
คุมความมัน : ตัวนี้ไม่ค่อยคุมมันอะ ระหว่างวันหน้าก็เยิ้ม ยิ่งซับแป้งยิ่งหลุด เห็นผิวจริงหมดเลยค่าซิสสสสสส
ราคา : 1,600 บาท
ขอมอบตำแหน่ง : “แค่คนที่เคยผ่านมา” แอบเศร้า เพราะราคานี้ แต่มันน่าจะทำหน้าที่ได้ดีกว่านี้ ฮือออ..
สีเป็นธรรมชาติ : เข้ากับผิวได้ดี ไม่ดูหลอก ไม่ลอย ชอบๆ
ปกปิดรูขุมขน / รอยสิว : ปกปิดดีเลยแหละ เห็นแค่รอยดำ รอยแดงเบาๆ ทาเดี่ยวๆ ได้เลย เริ่ด
คุมความมัน : ตัวนี้คุมมันแบบโอ้ยยยยยยดีมาก แต่มากเกินไปด้วยสำหรับเรา เพราะตอนทาหน้ามันจะแมทท์ๆ ระหว่างวันหน้าเป็นขุยๆ แห้งๆไปหน่อย แต่ถ้าใครหน้ามันมากๆ จะเหมาะมากๆๆ
ราคา : 2,700 บาท
ขอมอบตำแหน่ง : “ทูลหัวของบ่าว” คือทำหน้าดีได้ดี ปกปิดดี คุมมันดี (ดีเกินไปสำหรับเราด้วยซ้ำ ขนาดเราเป็นคนหน้ามันนะ หน้าแห้งเกินไป ทำให้ตรงแก้มเป็นขุยๆระหว่างวัน) ส่วนเรื่องราคาก็เอาเรื่องมากกกกกกกกก แต่ตลับสวยงาม หรูหรา ดี พกขึ้นมาตบระหว่างวันแล้วดูไฮโซ เหมือนซื้อมาไว้เทิดทูล 55555
เรียงจากตัวที่คุมมันได้ดีที่สุด Lancome > Oriental Princess & Chanel > Revlon > M.A.C
Lancome คุมมันดีสุดตามที่บอก แต่ข้างแก้มแอบเป็นขุย เพราะมันแมทท์เกิน, ส่วน Oriental Princess กับ Chanel คุมมันได้ดีพอกันเลย แต่ OP จะราคาจับต้องได้ และปกปิดดีกว่า สบายผิวหน้ากว่า แต่ถ้าไม่ต้องการปกปิดก็ Chanel, ตามด้วย Revlon และสุดท้ายคือ MAC ที่กระดาษซับมันเกือบเต็มแผ่น (ที่ตอนแรกคิดเอง เออเอง ว่าน่าจะคุมมันได้ดีสุด)
(อันนี้เป็นผลการทดสอบกับผิวของเราเองนะ คนอื่นอาจจะมีผลต่างกันไป)
แต่ละตัวก็จะมีความดีงามแตกต่างกันไป ใครชอบแบบไหน มีผิวหน้าแบบไหน มีงบเท่าไหร่ ก็ลองเลือกดูกันนะ แต่ก่อนซื้ออย่าลืมเลือกเฉดสีแป้งให้เหมาะกับสีผิวของเราด้วย อยากให้ลองที่ข้างแก้มก่อน หรือให้ BA เช็ดหน้าแล้วลองให้เลย เพราะบางทีมองด้วยตาเปล่า หรือเทสที่แขน อาจจะไม่ตรงกับสีผิวหน้า เดี๋ยวหน้าลอย หน้าเทา แล้วจะหาว่าเพื่อนไม่รัก เลยไม่เตือนไม่ได้น้า อิอิ