ช่วงนี้ใครที่ใช้บริการรถสาธารณะอย่าง BTS MRT หรือ Airport link อาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากับเจ้าตู้ลอคค์เกอร์สีเหลืองเด่นๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณทางออกกันแน่ๆ เจ้าตู้นี้เขาเรียกกันอย่างเป็นทางการว่า
Lockbox เป็นตู้ฝากสัมภาระ ที่อำนวยความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะเลยครับ!
รู้จักกับ lockbox กันแล้ว รีวิวนี้ ลุงหมีจะพาเพื่อนๆมาทำความรู้จักกับขั้นตอนการใช้บริการตู้ฝากสัมภาระ lockbox กันอย่างละเอียดไปพร้อมๆกัน
ก่อนจะออกไปรีวิวจริงๆ เราก็เข้าไปศึกษาขั้นตอนการใช้งานที่
www.lockbox-th.com ซะก่อน อันนี้คือเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ lockbox ซึ่งบอกขั้นตอนการใช้งานอย่างง่าย เข้าใจง่ายมากๆครับ
ถึงคราวลองสนามจริงกันบ้าง เรามุ่งหน้าไปที่ MRT กำแพงเพชร ในช่วงวันเสาร์ที่คนพลุกพล่าน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่แวะมาช้อปกันที่ตลาดนัดสวนจตุจักร
กระเป๋าที่เตรียมไปใบใหญ่มากๆ ทราบจากทางเว็บว่าตู้ล็อคเกอร์มีหลายขนาด มาลองกันเลยดีกว่าว่าใบใหญ่ขนาดนี้ต้องใส่ตู้ไซส์ไหน
เจอ lockbox แล้ว เริ่มแรกให้สังเกตหาตู้กดที่คล้ายๆตู้เอทีเอ็ม แล้วเริ่มต้นใช้งานกันเลย ภาพพักหน้าจอจะเป็นโลโก้ของ lockbox และแสดงขั้นตอนการใช้งานง่ายๆ เหมือนในเว็บ พอสัมผัสหน้าจอเริ่มต้นการใช้งาน จะมีเมนูมาให้เราเลือกภาษาครับ มี 4 ภาษาด้วยกัน นั่นคือ ไทย อังกฤษ จีน และญี่ปุ่น
Lockbox จะขึ้นเมนูให้เราเลือกว่าต้องการฝากสัมภาระ หรือนำสัมภาระออก และเมนูที่ให้เราเลือกตู้ / ไซส์ตู้ เลือกเฉพาะตู้ที่ว่างนะครับ ถ้าไม่ว่างจะขึ้นสีแดงเลย เราเลือก ไซส์ S ครับ เพราะมันเหลืออยู่แค่ช่องเดียวเท่านั้น TT น่าจะเพราะคนเยอะ นักท่องเที่ยวพลุกพล่านมาก คนก็มาฝากของเยอะเป็นเรื่องปกติ
อันนี้เป็นอัตราค่าบริการ คิดเป็นชม. ตามไซส์เลย มีแบบเหมารายวันด้วยนะ
หลังจากทำรายการเรียบร้อยแล้ว จะมีบิลออกมาหน้าตาแบบนี้
ตัวบิลจะบอกระยะเวลาที่ฝาก เงื่อนไขต่างๆ ซึ่งการฝากของทุกทุกไซส์ เริ่มต้นที่ 2 ชม.เป็นต้นไป อย่างเราฝากไซส์ S ราคา 20 บาท/ชม. ก็จ่ายไป 40 บาท
พอบิลออกมา ตัวลอคค์เกอร์ที่เราเลือกไว้ก็จะเด้งเปิดอัตโนมัติ มาดูกันว่าไซส์ s จะใส่ได้ไหม ลุ้นๆ
สังเกต ไซส์ s มองด้านนอกค่อนข้างแคบ น่าจะใส่ไม่ได้ แต่จริงๆคือลึกครับ ใส่กระเป๋าใบใหญ่ขนาดนี้ได้สบายๆ
แค่นี้เราก็เดินไปช้อปตัวปลิวได้แล้ว หมดกังวลเรื่องหอบกระเป๋าพะรุงพะรัง บริการนี้ไม่ได้อำนวยความสะดวกเฉพาะนักท่องเที่ยวนะครับ คนไทยอย่างเราๆที่หอบของมาเยอะๆ แล้วต้องการจะฝากของก่อนออกไปช้อปหรือทำธุระอื่นๆ
เจ้าตู้ลอคค์เกอร์นี้ก็มีประโยชน์มากๆ ทั้งสะดวก ปลอดภัย (โดยรอบตู้มีกล้อง cctv ติดตั้งอยู่) ฝากได้ทั้งรายชั่วโมง และรายวัน
หรือใครอยากตรวจสอบพื้นที่ให้บริการ หน้าตู้ก็มีรายละเอียดบอกไว้เป็นสถานีแบบนี้
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ให้บริการ บริเวณหน้าทางออก MRT สุขุมวิท ทางเชื่อมไปห้าง Terminal 21
ยังไงก็ลองไปใช้กันดูนะครับ สะดวกมากจริงๆ แล้วไว้พบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ : -)
[CR] รีวิว Lockbox บริการตู้ลอคค์เกอร์รับฝากสัมภาระในระบบการขนส่งมวลชนรายแรกของไทย!
รู้จักกับ lockbox กันแล้ว รีวิวนี้ ลุงหมีจะพาเพื่อนๆมาทำความรู้จักกับขั้นตอนการใช้บริการตู้ฝากสัมภาระ lockbox กันอย่างละเอียดไปพร้อมๆกัน
ก่อนจะออกไปรีวิวจริงๆ เราก็เข้าไปศึกษาขั้นตอนการใช้งานที่ www.lockbox-th.com ซะก่อน อันนี้คือเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ lockbox ซึ่งบอกขั้นตอนการใช้งานอย่างง่าย เข้าใจง่ายมากๆครับ
ถึงคราวลองสนามจริงกันบ้าง เรามุ่งหน้าไปที่ MRT กำแพงเพชร ในช่วงวันเสาร์ที่คนพลุกพล่าน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่แวะมาช้อปกันที่ตลาดนัดสวนจตุจักร
กระเป๋าที่เตรียมไปใบใหญ่มากๆ ทราบจากทางเว็บว่าตู้ล็อคเกอร์มีหลายขนาด มาลองกันเลยดีกว่าว่าใบใหญ่ขนาดนี้ต้องใส่ตู้ไซส์ไหน
เจอ lockbox แล้ว เริ่มแรกให้สังเกตหาตู้กดที่คล้ายๆตู้เอทีเอ็ม แล้วเริ่มต้นใช้งานกันเลย ภาพพักหน้าจอจะเป็นโลโก้ของ lockbox และแสดงขั้นตอนการใช้งานง่ายๆ เหมือนในเว็บ พอสัมผัสหน้าจอเริ่มต้นการใช้งาน จะมีเมนูมาให้เราเลือกภาษาครับ มี 4 ภาษาด้วยกัน นั่นคือ ไทย อังกฤษ จีน และญี่ปุ่น
Lockbox จะขึ้นเมนูให้เราเลือกว่าต้องการฝากสัมภาระ หรือนำสัมภาระออก และเมนูที่ให้เราเลือกตู้ / ไซส์ตู้ เลือกเฉพาะตู้ที่ว่างนะครับ ถ้าไม่ว่างจะขึ้นสีแดงเลย เราเลือก ไซส์ S ครับ เพราะมันเหลืออยู่แค่ช่องเดียวเท่านั้น TT น่าจะเพราะคนเยอะ นักท่องเที่ยวพลุกพล่านมาก คนก็มาฝากของเยอะเป็นเรื่องปกติ
อันนี้เป็นอัตราค่าบริการ คิดเป็นชม. ตามไซส์เลย มีแบบเหมารายวันด้วยนะ
หลังจากทำรายการเรียบร้อยแล้ว จะมีบิลออกมาหน้าตาแบบนี้
ตัวบิลจะบอกระยะเวลาที่ฝาก เงื่อนไขต่างๆ ซึ่งการฝากของทุกทุกไซส์ เริ่มต้นที่ 2 ชม.เป็นต้นไป อย่างเราฝากไซส์ S ราคา 20 บาท/ชม. ก็จ่ายไป 40 บาท
พอบิลออกมา ตัวลอคค์เกอร์ที่เราเลือกไว้ก็จะเด้งเปิดอัตโนมัติ มาดูกันว่าไซส์ s จะใส่ได้ไหม ลุ้นๆ
สังเกต ไซส์ s มองด้านนอกค่อนข้างแคบ น่าจะใส่ไม่ได้ แต่จริงๆคือลึกครับ ใส่กระเป๋าใบใหญ่ขนาดนี้ได้สบายๆ
แค่นี้เราก็เดินไปช้อปตัวปลิวได้แล้ว หมดกังวลเรื่องหอบกระเป๋าพะรุงพะรัง บริการนี้ไม่ได้อำนวยความสะดวกเฉพาะนักท่องเที่ยวนะครับ คนไทยอย่างเราๆที่หอบของมาเยอะๆ แล้วต้องการจะฝากของก่อนออกไปช้อปหรือทำธุระอื่นๆ
เจ้าตู้ลอคค์เกอร์นี้ก็มีประโยชน์มากๆ ทั้งสะดวก ปลอดภัย (โดยรอบตู้มีกล้อง cctv ติดตั้งอยู่) ฝากได้ทั้งรายชั่วโมง และรายวัน
หรือใครอยากตรวจสอบพื้นที่ให้บริการ หน้าตู้ก็มีรายละเอียดบอกไว้เป็นสถานีแบบนี้
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ให้บริการ บริเวณหน้าทางออก MRT สุขุมวิท ทางเชื่อมไปห้าง Terminal 21
ยังไงก็ลองไปใช้กันดูนะครับ สะดวกมากจริงๆ แล้วไว้พบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ : -)
FB : www.facebook.com/UncleBearShareStory/