ในปี พ.ศ. 2542 เจ.เค. โรว์ลิ่งขายสิทธิ์การสร้างภาพยนตร์จากหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์สี่เล่มแรกให้กับวอร์เนอร์ บราเธอร์ ในราคาหนึ่งล้านปอนด์ โรว์ลิ่งยืนยันให้นักแสดงหลักเป็นชาวสหราชอาณาจักร รวมถึงใช้ภาษาอังกฤาบริเตน ภาพยนตร์สองภาคแรกกำกับโดยคริส โคลัมบัส ภาคที่สามโดยอัลฟองโซ กัวรอง
ภาคที่สี่โดยค์ นิวเวลล์ และภาคที่ห้า หก เจ็ด กำกับโดย เดวิด เยต โดยสตีฟ โคลฟ โดยร่วมงานกับโรว์ลิ่ง บทภาพยนตร์มีความเปลี่ยนแปลงจากหนังสือบ้างตามรูปแบบการนำเสนอของภาพยนตร์และเงื่อนไขเวลา อย่างไรก็ตาม โรว์ลิ่งได้กล่าวว่าบทภาพยนตร์ของโคลฟนั้นมีความตรงต่อหนังสือ
ภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ มีนักแสดงหลักคือแดเนียล แรดคลิฟฟ์ เอ็มม่า วัตสันและรูเพิร์ท กรินท์ โดยแสดงเป็นแฮร์รี่ พอตเตอร์ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ และรอน วิสลีย์ตามลำดับ สามคนนี้ได้รับเลือกในปี พ.ศ. 2543 จากเด็กหลายพันคน โดยจากภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้แจ้งเกิดนักแสดงทั้งสามคนนี้ และอีกหลายคนอีกด้วย(ซึ่งตัวผมเองผูกพันกับภาพยนตร์เรื่องนี้มาก ดูตั้งแต่เด็กเลย ได้เห็นนักแสดงหลายคนเติบโตขึ้นพร้อมๆกับตัวแอดมินเองเลย ซึ่งเรียกได้ว่าผมเติบโตมาพร้อมกับภาพยนตร์เรื่องนี้เลยก็ว่าได้ครับ ผูกพันจริงๆ)
ภาพยตร์เรื่องนี้เข้าฉายครั้งแรกในปี 2544 และ ภาคสุดท้ายเข้าฉายในปี 2554 รวมแล้วตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคสุดท้ายใช้เวลานานกว่า 10 ปี!
ภาพยนตร์ชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ประสบความสำเร็จอย่างมากในเรื่องรายได้ของภาพยนตร์ทั้ง 8 ภาคทำรายได้มากกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และภาพยนตร์ชุดที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล โดยภาคที่ทำรายได้ไปมากที่สุดคือ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค2 ซึ่งทำรายได้ไปกว่า 1,341,511,219 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ!!!
ภาพยนตร์ชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์แต่ละภาคได้รับคำวิจารณ์จากแฟนภาพยนตร์และแฟนหนังสือมากมาย
ในภาคแรกและภาคสองซึ่งกำกับโดยคริสโคลัมบัสตัวภาพยนตร์เองได้รับการดัดแปลงเล็กน้อยแต่ก็ยังคงเนื้อเรื่องในหนังสือไว้ แต่เนื้อหาของภาพยนตร์ก็เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับเด็กจึงทำให้เด็กชมภาพยนตร์ภาคแรกและภาคสองมากกว่าผู้ใหญ่
ภาคที่สามกำกับโดย อัลฟองโซ กัวรองที่ได้ปรับเปลี่ยน ตัวปราสาทฮอกวอตส์และใช้บรรยากาศแบบมืดครึ้ม แต่มีการปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องมากกว่าเดิมทำให้ฉากแอ๊คชั่นที่มีในหนังสือลดลงไป
ส่วนในภาคที่สี่กำกับโดยไมค์ นิวเวลล์ เน้นหนักในเรื่องฉากแอ๊คชั่นและฉากต่อสู้ที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมมากแต่การทำฉากแอ๊คชั่นมากเกินไปจึงทำใหเ้นื้อหาและบทบาทตัวละครในเรื่องลดลงตามไปด้วย
และในภาคที่ห้าที่กำกับโดยเดวิด เยตส์ที่ได้มีการปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องและตัดเนื้อเรื่องบางตอนออกไป เนื่องจากเนื้อหาในหนังสือที่มากกว่าเล่มอื่นๆ ฉากแอ๊คชั่นจึงลดลงทำให้ภาพยนตร์ออกมาในแนวดราม่า แต่ทางทีมงานก็ได้ใช้เทคนิคพิเศษมากกว่าภาคก่อนๆทำให้ภาพยนตร์ภาคที่ห้านี้ทำรายได้ไปถึง 939 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ส่วนในภาคที่หก เดวิด เยตส์ทำหน้าที่กำกับภาพยนตร์เช่นเคยโดยจะเน้นบทดราม่า มากกว่าแอ๊คชั่นซึ่งมีอยู่น้อยมากและจะเน้นในเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครต่างๆ แทนซึ่งก็ได้รับคำวิจารณ์ที่แตกต่างกันออกไป แต่อย่างไรก็ตามภาคนี้ก็ยังทำรายได้ไปถึง 934 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ส่วนภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 1 กำกับโดยเดวิด เยตส์โดยเนื้อเรื่องภาคนี้จะเกี่ยวกับการเดินทางตามหาฮอร์ครักซ์ของพวกแฮร์รี่และจบลงที่การตายของด็อบบี้ ทำให้โทนของหนังของภาคนี้จะเป็นแนวโร้ดมูฟวี่หรือภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับการเดินทางเสียส่วนใหญ่ แต่ยังไงภาคนี้ก็ยังทำรายได้รวม 955 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว
และเมื่อภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค2 เป็นบทสรุปทุกๆอย่างของแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่ทั้งโลกรอคอย ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายของภาพยนตร์ชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์เข้าฉายก็ได้สร้างสถิติต่างๆมากมาย อาทิเช่นภาพยนตร์เปิดตัววันแรกสูงสุดตลอดกาลทำรายได้วันแรกสูงถึง 91 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำลายสถิติเดิมของแวมไพร์ ทไวไลท์2 นิวมูน ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สุดสัปดาห์ที่สูงสุดทำลายสถิติของแบทแมนอัศวินรัตติกาล โดยทำรายได้สัปดาห์แรกที่ 169 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีรายได้รวมถึง 1,341 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำลายสถิติภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดทั่วโลกเป็นรองเพียงแค่ภาพยนตร์เรื่องไททานิกและอวตารเท่านั้น(ณ ตอนนั้น) นอกจากนั้นยังได้รับคำวิจารณ์ในด้านบวกอย่างล้นหลาม โดยเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ให้คะแนนสูงถึง96% สูงที่สุดในภาพยนตร์ชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ จึงถือว่าภาคสุดท้ายของภาพยนตร์ชุดนี้ประสบความสำเร็จทั้งรายได้และคำวิจารณ์ก็ว่าได้
นี่เป็นเรื่องราวของ Harry Potter หนึ่งในภาพยนตร์แฟนตาซีที่ประสบความสำเร็จที่สุดเรื่องหนึ่งของโลก
สำหรับใครที่ชอบหนังเรื่องนี้หรือหนังแฟนตาซีเรื่องอื่นๆก็แวะมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันนะครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะครับ ^^
ขอบคุณข้อมูลดีๆจากหนังสือ เจ.เค. โรว์ลิ่ง ผู้หญิงไม่ยอมแพ้โชคชะตา
สุดท้ายขออนุญาตฝากเพจไว้เผื่อใครอยากไปติดตามเรื่องราวอื่นๆต่อ
https://www.facebook.com/Chekie-1067083510064457/
Harry Potter จากวรรณกรรมชื่อดัง สู่ภาพยนตร์แฟนตาซีที่ประสบความสำเร็จที่สุดเรื่องหนึ่งของโลก
ภาคที่สี่โดยค์ นิวเวลล์ และภาคที่ห้า หก เจ็ด กำกับโดย เดวิด เยต โดยสตีฟ โคลฟ โดยร่วมงานกับโรว์ลิ่ง บทภาพยนตร์มีความเปลี่ยนแปลงจากหนังสือบ้างตามรูปแบบการนำเสนอของภาพยนตร์และเงื่อนไขเวลา อย่างไรก็ตาม โรว์ลิ่งได้กล่าวว่าบทภาพยนตร์ของโคลฟนั้นมีความตรงต่อหนังสือ
ภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ มีนักแสดงหลักคือแดเนียล แรดคลิฟฟ์ เอ็มม่า วัตสันและรูเพิร์ท กรินท์ โดยแสดงเป็นแฮร์รี่ พอตเตอร์ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ และรอน วิสลีย์ตามลำดับ สามคนนี้ได้รับเลือกในปี พ.ศ. 2543 จากเด็กหลายพันคน โดยจากภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้แจ้งเกิดนักแสดงทั้งสามคนนี้ และอีกหลายคนอีกด้วย(ซึ่งตัวผมเองผูกพันกับภาพยนตร์เรื่องนี้มาก ดูตั้งแต่เด็กเลย ได้เห็นนักแสดงหลายคนเติบโตขึ้นพร้อมๆกับตัวแอดมินเองเลย ซึ่งเรียกได้ว่าผมเติบโตมาพร้อมกับภาพยนตร์เรื่องนี้เลยก็ว่าได้ครับ ผูกพันจริงๆ)
ภาพยตร์เรื่องนี้เข้าฉายครั้งแรกในปี 2544 และ ภาคสุดท้ายเข้าฉายในปี 2554 รวมแล้วตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคสุดท้ายใช้เวลานานกว่า 10 ปี!
ภาพยนตร์ชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ประสบความสำเร็จอย่างมากในเรื่องรายได้ของภาพยนตร์ทั้ง 8 ภาคทำรายได้มากกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และภาพยนตร์ชุดที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล โดยภาคที่ทำรายได้ไปมากที่สุดคือ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค2 ซึ่งทำรายได้ไปกว่า 1,341,511,219 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ!!!
ภาพยนตร์ชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์แต่ละภาคได้รับคำวิจารณ์จากแฟนภาพยนตร์และแฟนหนังสือมากมาย
ในภาคแรกและภาคสองซึ่งกำกับโดยคริสโคลัมบัสตัวภาพยนตร์เองได้รับการดัดแปลงเล็กน้อยแต่ก็ยังคงเนื้อเรื่องในหนังสือไว้ แต่เนื้อหาของภาพยนตร์ก็เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับเด็กจึงทำให้เด็กชมภาพยนตร์ภาคแรกและภาคสองมากกว่าผู้ใหญ่
ภาคที่สามกำกับโดย อัลฟองโซ กัวรองที่ได้ปรับเปลี่ยน ตัวปราสาทฮอกวอตส์และใช้บรรยากาศแบบมืดครึ้ม แต่มีการปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องมากกว่าเดิมทำให้ฉากแอ๊คชั่นที่มีในหนังสือลดลงไป
ส่วนในภาคที่สี่กำกับโดยไมค์ นิวเวลล์ เน้นหนักในเรื่องฉากแอ๊คชั่นและฉากต่อสู้ที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมมากแต่การทำฉากแอ๊คชั่นมากเกินไปจึงทำใหเ้นื้อหาและบทบาทตัวละครในเรื่องลดลงตามไปด้วย
และในภาคที่ห้าที่กำกับโดยเดวิด เยตส์ที่ได้มีการปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องและตัดเนื้อเรื่องบางตอนออกไป เนื่องจากเนื้อหาในหนังสือที่มากกว่าเล่มอื่นๆ ฉากแอ๊คชั่นจึงลดลงทำให้ภาพยนตร์ออกมาในแนวดราม่า แต่ทางทีมงานก็ได้ใช้เทคนิคพิเศษมากกว่าภาคก่อนๆทำให้ภาพยนตร์ภาคที่ห้านี้ทำรายได้ไปถึง 939 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ส่วนในภาคที่หก เดวิด เยตส์ทำหน้าที่กำกับภาพยนตร์เช่นเคยโดยจะเน้นบทดราม่า มากกว่าแอ๊คชั่นซึ่งมีอยู่น้อยมากและจะเน้นในเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครต่างๆ แทนซึ่งก็ได้รับคำวิจารณ์ที่แตกต่างกันออกไป แต่อย่างไรก็ตามภาคนี้ก็ยังทำรายได้ไปถึง 934 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ส่วนภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 1 กำกับโดยเดวิด เยตส์โดยเนื้อเรื่องภาคนี้จะเกี่ยวกับการเดินทางตามหาฮอร์ครักซ์ของพวกแฮร์รี่และจบลงที่การตายของด็อบบี้ ทำให้โทนของหนังของภาคนี้จะเป็นแนวโร้ดมูฟวี่หรือภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับการเดินทางเสียส่วนใหญ่ แต่ยังไงภาคนี้ก็ยังทำรายได้รวม 955 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว
และเมื่อภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค2 เป็นบทสรุปทุกๆอย่างของแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่ทั้งโลกรอคอย ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายของภาพยนตร์ชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์เข้าฉายก็ได้สร้างสถิติต่างๆมากมาย อาทิเช่นภาพยนตร์เปิดตัววันแรกสูงสุดตลอดกาลทำรายได้วันแรกสูงถึง 91 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำลายสถิติเดิมของแวมไพร์ ทไวไลท์2 นิวมูน ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สุดสัปดาห์ที่สูงสุดทำลายสถิติของแบทแมนอัศวินรัตติกาล โดยทำรายได้สัปดาห์แรกที่ 169 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีรายได้รวมถึง 1,341 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำลายสถิติภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดทั่วโลกเป็นรองเพียงแค่ภาพยนตร์เรื่องไททานิกและอวตารเท่านั้น(ณ ตอนนั้น) นอกจากนั้นยังได้รับคำวิจารณ์ในด้านบวกอย่างล้นหลาม โดยเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ให้คะแนนสูงถึง96% สูงที่สุดในภาพยนตร์ชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ จึงถือว่าภาคสุดท้ายของภาพยนตร์ชุดนี้ประสบความสำเร็จทั้งรายได้และคำวิจารณ์ก็ว่าได้
นี่เป็นเรื่องราวของ Harry Potter หนึ่งในภาพยนตร์แฟนตาซีที่ประสบความสำเร็จที่สุดเรื่องหนึ่งของโลก
สำหรับใครที่ชอบหนังเรื่องนี้หรือหนังแฟนตาซีเรื่องอื่นๆก็แวะมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันนะครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะครับ ^^
ขอบคุณข้อมูลดีๆจากหนังสือ เจ.เค. โรว์ลิ่ง ผู้หญิงไม่ยอมแพ้โชคชะตา
สุดท้ายขออนุญาตฝากเพจไว้เผื่อใครอยากไปติดตามเรื่องราวอื่นๆต่อ
https://www.facebook.com/Chekie-1067083510064457/