เตือนภัย..สำหรับผู้ที่ขายของออนไลน์ ที่โดนมิจฉาชีพในคราบลูกค้า หลอกเอาข้อมูลเราไปใช้หลอกเงินคนอื่น

สวัสดีค่ะ  นี่คือกระทู้แรกของเรา  อยากจะเตือนภัยสำหรับผู้ที่ทำการค้าขายผ่านทางโลกออนไลน์ค่ะ  เล่าเรื่องไม่เก่ง แต่จะพยายามเรียบเรียงเหตุการณ์ และใช้ข้อความที่เข้าใจง่ายที่สุด  เนื้อหาอาจจะยาว รูปอาจจะเยอะซักหน่อย แต่อยากให้ทุกคนได้อ่านกัน และอาจมีบางรูปที่หลุดตาเราไปบ้าง ทำให้ลืมเซ็นเซอร์นะคะ

เริ่มเรื่องเลย คือเราโดนผู้แอบอ้างเอาบัตรปชช.และเลขที่บัญชีธ. ไปแอบอ้างใช้ในการรับโอนเงินจากบุคคลอื่นค่ะ

ข้อมูลเบื้องต้นคือ เราขายกระเป๋าเดินทาง ทั้งทาง fb ig และทางช่องทางอื่นๆ

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา  มีลูกค้าแอดไลน์ทักแชทมาขอซื้อกระเป๋าเดินทาง จำนวน 2 ใบ ตกลงราคากันอยู่ที่ 3,100.-   โดยทางลูกค้าแจ้งว่า จะแบ่งโอนเงินให้เป็นจำนวน 3 สลิป เนื่องจากเงินในแต่ละบัญชีไม่พอ  แต่ก่อนโอนเงิน  ลูกค้าแจ้งขอให้ทางร้านส่งบัตรปชช.ที่มีชื่อตรงกับเลขที่บัญชีที่รับโอนเงิน  เพราะลูกค้าบอกว่า เคยโดนโกงมาแล้ว ก็เลยกลัวจะโดนอีกครั้ง    ทางร้านจึงถ่ายบัตรปชช.ส่งให้ลูกค้าไป โดยปิดเลข id และคาดลายน้ำหน้าบัตร ว่า  "ใช้สำหรับซื้อขายกระเป๋าเดินทาง ร้าน...........เท่านั้น"


ต้องแจ้งก่อนว่า  เราขายของออนไลน์มาหลายปี  ไม่เคยถ่ายรูปบัตรปชช.ส่งให้ลูกค้าคนไหนเลย  ส่งให้คนนี้เป็นคนแรก และคงจะเป็นคนสุดท้ายจริงๆ  จึงแน่ใจได้ว่า ลูกค้ารายนี้คือ "มิจฉาชีพในคราบลูกค้า" แน่นอน   และหลังจากที่ลูกค้าโอนเงินครบตามจำนวนที่ตกลงกัน  ทางร้านจึงส่งของให้ลูกค้าโดยใช้บริการขนส่ง kerry  และมีผู้รับของไปแล้วเมื่อวันที่ 18/8  ที่ผ่านมา


นี่คือรูปแชทพูดคุยที่มิจฉาชีพทักมาเพื่อสั่งกระเป๋ากับเรา ซึ่งตอนนี้ลบ account ไปเป็นที่เรียบร้อย


หลังจากที่การซื้อขายครั้งนี้จบไป ก็มีลูกค้า (ใช้ Account อื่น) แอดไลน์ทักมาจะสั่งกระเป๋าเดินทาง  โดยจะโอนเงินให้เป็น 3 สลิปเหมือนเดิม และขอให้เราส่งรูปบัตรปชช.ไปให้   เราเลยคิดว่า น่าจะใช่ลูกค้าคนเดียวกันกับครั้งแรก     จึงไม่ได้ส่งรูปบัตรปชช.ไปให้อีก  จึงแจ้งแค่ยอดที่ต้องโอนเงินพร้อมเลขบัญชี ธ.ไปให้   ระหว่างรอโอนเงิน ลูกค้าได้ส่งชื่อ-ที่อยู่ผู้รับ มาทิ้งไว้  แต่ก็ไม่ได้โอนเงินมา และไลน์ก็ได้เด้งออกจากการสนทนาไปก่อน (เหมือนลบ account ทิ้งไป)  

ความมาแตกเมื่อวันที่ 21/8   มีคนทักเข้ามาทางเพจของร้านเพื่อสอบถาม (คงได้ข้อมูลชื่อร้านจากลายน้ำหน้าบัตรปชช.)  ว่า ทางร้านได้ไปลงขายทีวี LCD ไว้ทางเว็ป KD ใช่มั้ย  โดยแคปรูปแชทการสนทนามาให้เราดู  เราเลยรู้ว่า โดนมิจฉาชีพในคราบลค.คนนั้น  เอารูปถ่ายบัตรปชช. และเลขที่บัญชีที่เราเคยส่งให้  ไปใช้หลอกขายของให้กับบุคคลอื่นทางเว็ป KD  โดยให้บุคคลนั้นโอนเงินเข้าบัญชีเรา  แล้วส่งต่อสลิปนั้นมาให้เรา  เพื่อเป็นการยืนยันการโอนเงินค่ากระเป๋าเดินทาง แล้วให้เราส่งของไปให้


รูปข้างบนคือ แชทจากผู้หวังดี ที่แจ้งมายังเพจร้าน


รูปข้างบนคือ รูปแชทการสนทนาระหว่าง ผู้หวังดี กับ มิจฉาชีพ  ดูจากการสนทนาแล้ว ถือว่า ผู้หวังดีคนนี้รอบคอบพอสมควร ที่บอกให้คนร้ายถ่ายรูปบัตรคู่กับทีวี  และลองเอาชื่อร้านบนบัตร มาค้นหาจนเจอ


หลังจากที่ทราบเรื่องจากผู้หวังดี  เราจึงไป สน.เพื่อลงบันทึกประจำไว้ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ   และจากการตรวจสอบชื่อ-ที่อยู่ผู้รับทั้ง 2 ที่ ด้วยตัวเอง พบว่า อยู่ในละแวกเดียวกัน  แต่คนละแมนชั่น  ซึ่งอยู่ในเขต กทม.  ส่วนเบอร์ที่ให้ไว้ติดต่อไม่ได้แล้ว   ส่วนชื่อผู้รับ  วันนี้ได้ลองเสริชชื่อใน google พบข้อมูลติดต่อ  จึงได้โทรไปสอบถาม ก็พบว่า เป็นคนที่ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรเลย อาศัยอยู่ที่ตจว. (โจรคงใช้ชื่อคนอื่นเป็นชื่อผู้รับของ)  เราจึงค้นหาชื่อผู้โอนเงินเข้าบัญชีเรามา จำนวน 3 บัญชี (3 สลิป)

- สลิปที่ 1 (ผสห.คนที่ 1) โอนผ่านตู้ atm ไม่มีชื่อผู้โอนในสลิป  เราจึงติดต่อธ. เพื่อขอชื่อผู้ที่โอนเงินมาให้เรา และได้ลองเอาชื่อไปค้นหาใน gg ก็เจอ fb

- สลิปที่ 2 (ผสห.คนที่ 2) โอนผ่าน net bank มีชื่อ-สกุลพร้อม  เราเลยเอาชื่อไปค้นทาง  FB ก็เจอ

- สลิปที่ 3 (ผสห.คนที่ 3) net bank มีชื่อ-สกุลผู้โอน แต่ค้นหาแล้วไม่พบข้อมูลใดๆ เลย

เราได้พูดคุยกับ ผสห.คนที่ 1 และ 2 โดยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง  และเราได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้น พบว่า มิจฉาชีพคนนี้ได้ไปหลอกขายคาร์ซีท กับผสห.คนที่ 1 จำนวนเงิน 1,000.- และหลอกขายเครื่องปั๊มนมให้กับผสห.คนที่ 2 จำนวน 900.-  ซึ่งผสห.ทั้ง 2 คนนี้ได้ซื้อขายกับมิจฉาชีพผ่านทางเว็ป KD  และเงินทั้ง 2 จำนวนนี้โอนเข้าบัญชีเราค่ะ  เราเลยแจ้งให้ทั้ง 2 คน ไปแจ้งความไว้   ตอนนี้ 1 ใน 2 คนนี้ได้ไปแจ้งความไว้แล้ว  โดยได้ส่งหลักฐานการแจ้งความมาให้เราดู และแจ้งเราว่า ทางตำรวจอาจจะขออายัดบัญชีเราไว้เพื่อตรวจสอบ  หรือให้เราโอนเงินคืนไปให้เค้า แล้วเค้าจะถอนแจ้งความ และจะไม่ขอเอาความใดๆต่อ

รูปแชทการสนทนา ระหว่างเรากับผสห.ค่ะ


วันนี้เราได้ไปสอบถามกับทางแมนชั่นที่เราส่งของไปให้  ว่าใครเป็นผู้รับของ จะขอดูกล้องวงจรปิด  จนท.แมนชั่นแจ้งว่า  กล้องเสียดูไม่ได้  ส่วนผู้มารับของ เป็นผู้ชายรูปร่างท้วม  และไม่ใช่คนในแมนชั่นค่ะ  แต่แจ้งชื่อ-สกุลตามจ่าหน้าถูกต้อง โดยอ้างว่า ญาติเป็นผู้ส่งของมาให้  เลยอาจจะเขียนที่อยู่คลาดเคลื่อน ซึ่งตัวผู้ชายคนนั้นบอกว่า อาศัยอยู่ในแมนชั่นที่อยู่ติดกันค่ะ จนท.จึงให้รับของไปได้โดยง่าย  และนี่เป็นการมารับของครั้งที่ 5 แล้ว เราก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไม จนท.แมนชั่นถึงให้คนอื่นรับของไปอย่างง่ายๆ โดยไม่ขอดูบัตรอะไรเลย  เราก็ได้แต่ฝากเรื่องกับ จนท.ว่า  หากมีของมาส่งคนชื่อนี้อีก ให้ขอดูบัตร ถ่ายรูปบัตรไว้ และให้โทรแจ้งเราด้วย


ตัวเรา..ที่ขายของออนไลน์อย่างสุจริต  ก็ต้องเสียทั้งของ เสียทั้งเงินที่ต้องคืนเจ้าของเงินเค้าไป  และก็ไม่รู้ว่าในอนาคตจะโดนแอบอ้างข้อมูลไปใช้ทำอะไรที่ไม่ดีอีกรึป่าว  หรือไม่แน่ว่า เราอาจจะโดน ผสห.ที่เราไม่มีโอกาสได้อธิบาย หรืออธิบายแล้ว แต่ไม่เชื่อในเหตุการณ์พร้อมหลักฐานที่เราส่งให้ไป  เอาชื่อ/บัตร/รูป/เพจร้านเราไปประจานว่า เราเป็นพวกมิจฉาชีพรึป่าว

เราเลยอยากแชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเคสเตือนภัยให้กับผู้ที่ขายของออนไลน์หรือคนอื่นๆต่อไป   หลังจากนี้ เราคงจะรู้สึกระแวงการรับโอนเงินจากลูกค้าแน่ๆ ซึ่งวิธีป้องกันเบื้องต้นของเราคือ

1.เราไม่รับโอนเงินหลายสลิปต่อการรวมยอด 1 ครั้ง (แล้วถ้าเป็นลูกค้าจริงๆ ที่มีเงินในแต่ละบัญชีไม่พอ แล้วต้องโอนหลายสลิป จะทำไง?  นั่นสิ ยังคิดไม่ออก)

2.เมื่อลูกค้าส่งสลิปมายืนยันการโอน เราจะเช็คดูชื่อผู้โอนเงินจากสลิป ว่า ตรงกับชื่อ-ที่อยู่ผู้รับหรือไม่ (แล้วถ้าเป็นลูกค้าตัวจริง ให้แฟน/ญาติ/เพื่อน โอนให้ แบบนี้คงตรวจสอบยาก ) หากเราจะขอบัตรจากลูกค้าเพื่อตรวจสอบ ก็คงจะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครเค้าทำ (ปกติลูกค้าส่วนใหญ่จะกลัวร้านค้าโกงเงินมากกว่า)


มาถึงตรงนี้...ถ้ามีลูกค้าติดต่อมาเพื่อขอซื้อสินค้า แล้วเราแจ้งเลขที่บัญชีไปอย่างเดียว  (ไม่ได้ส่งรูปบัตร ปชช.) เราจะมั่นใจได้ยังไงว่า เป็นลูกค้าจริงๆ ที่ไม่ใช่มิจฉาชีพไปหลอกเงินคนอื่นโอนเงินมาให้เราอีก เราคงทำได้แต่ทำใจและวัดดวงเท่านั้น?    หรือใครพอจะมีข้อแนะนำ/แนวทางปฏิบัติอื่นๆ แนะนำบ้างคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่