.        สวัสดีค่ะ ในการเขียนรีวิวครั้งนี้ เกิดจากที่ดิฉันคิดว่า ข้อมูลเหล่านี้น่าจะเป็นประโยชน์ กับคนที่กำลังคิดจะสร้างบ้าน เพราะมองย้อนไปเห็นตัวเองในวันที่เพิ่งเริ่มสร้างใหม่ๆ ตอนนั้นกังวลมากค่ะ เพราะเราไม่มีความรู้เรื่องการก่อสร้างบ้านเลย

จึงคิดว่าข้อมูลเหล่านี้ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่กำลังคิดจะสร้างบ้านค่ะ


มีหลายเหตุผลในการคิดสร้างบ้านหลังนี้ แต่เหตุผลหลักๆ คือ บ้านที่อยู่หลังเก่าสร้างมานานแล้ว และก็มีขนาดเล็ก ดิฉันและครอบครัว ( ลูกชาย – น้องสาว ) ต้องการบ้านที่มีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น และเวลาญาติมาจากต่างจังหวัดจะได้พักผ่อนได้อย่างสบาย ไม่อึดอัด

การสร้างบ้านหลังนี้ ดิฉันเริ่มต้นด้วยการไปดูบ้านตามโครงการต่างๆ ตอนนั้นดิฉันไปดูอยู่หลายโครงการเหมือนกัน แต่ยังรู้สึกไม่ถูกใจ รู้สึกไม่ค่อยเป็นส่วนตัว และไม่ชอบที่ต้องมาชำระเงินค่าส่วนกลางทุกๆ เดือน

ดิฉันเลยคิดจะซื้อที่ดินใหม่เพื่อสร้างบ้านเดี่ยวบนที่ดินของตัวเอง ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ที่ช่วยกันแนะนำจนได้ที่ดิน ทรงหน้าแคบ แต่ลึก ตามที่ต้องการอยู่แถวๆ ลาดพร้าว

หลังจากที่ดิฉันจัดการเรื่องที่ดินเสร็จเรียบร้อย ดิฉันก็เริ่มมองหาแบบบ้าน เพื่อให้ผู้รับเหมามาก่อสร้างตามคำแนะนำของเพื่อนๆ แต่ในใจก็คิดว่าบ้านราคาตั้งหลายล้าน หากผู้รับเหมาที่ว่าจ้างมาก่อสร้างเกิดโกง หรือทิ้งงาน คงไม่ดีแน่ ดิฉัน เลยตั้งใจจะสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านโดยเฉพาะ เพราะมั่นใจกว่า ไม่อยากสร้างบ้านบนความกังวล จ่ายแพงกว่านิดหน่อย แต่ได้บ้านแน่นอน 100% ดีกว่า

ดิฉันก็เริ่มหาข้อมูลว่ามีบริษัทรับสร้างบ้านเจ้าไหนบ้าง แต่ละเจ้ามีข้อดี ข้อเสีย ต่างกันอย่างไรบ้าง คัดๆ มาเหลือเพียงไม่กี่เจ้า จากนั้นก็เข้าไปดูผลงานแบบบ้านของบริษัทรับสร้างบ้านเหล่านั้นในเว็บไซต์ จนเจอที่ถูกใจที่สุด เป็น แบบบ้าน ที่ชื่อ Romania-N เป็นบ้านทรงหน้าแคบ ตรงกับลักษณะที่ดินพอดี เป็นแบบบ้าน ของ บริษัท แลนดี้ โฮม

ก่อนการก่อสร้างมีการปรับแบบบ้านจากแบบมาตรฐาน โดยย้ายห้องน้ำ จากบริเวณส่วนหน้าของตัวบ้าน ไปไว้ด้านหลัง และเปลี่ยนพื้นที่ของห้องซักล้างให้กลายเป็นพื้นที่ห้องครัว จุดนี้ชอบมากค่ะ ห้องครัวใหญ่ๆ คือความสุขของดิฉัน เพราะชอบเข้าครัวทำอาหารค่ะ นอกเหนือจากนี้ ก็สร้างตามแบบบ้านทุกอย่างค่ะ ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำในการปรับเปลี่ยนแบบบ้าน จาก สถาปนิก และ วิศวกรของแลนดี้ โฮม เป็นอย่างดี

ซึ่งขั้นตอนนี้ อยากแนะนำว่า ให้คนที่คิดจะสร้างบ้านหาความต้องการของตัวเองและคนในครอบครัวให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นโจทย์ให้สถาปนิกออกแบบ จะทำให้เราได้บ้านในแบบที่เราและครอบครัวต้องการที่สุดค่ะ

หลังจากที่ดิฉันปรับเปลี่ยนแบบบ้านจนได้บ้านที่ต้องการแล้ว ก็เซ็นสัญญาสร้างบ้าน เพื่อเริ่มต้นการก่อสร้าง โดยขั้นตอนพวกนี้ ทางทีมฝ่ายขายของบริษัท แลนดี้ โฮม ก็ดูแล และบริการเป็นอย่างดี

หลังจากเซ็นสัญญาสร้างบ้านเรียบร้อย ก็เข้าสู่การเตรียมความพร้อมของที่ดิน โดยทางบริษัทจะส่งคนเข้ามาสำรวจที่ดิน และจัดการกับที่ดินเพื่อให้พร้อมสำหรับการก่อสร้าง ส่วนเรื่องการขออนุญาติปลูกสร้าง ดิฉันก็เตรียมข้อมูลและเอกสารให้ทางเจ้าหน้าที่ของบริษัทจัดการให้ค่ะ ขั้นตอนเหล่านี้ก็ได้รับการแนะนำและบริการจากบริษัท แลนดี้ โฮม เป็นอย่างดี

เสร็จจากเตรียมความพร้อมของที่ดิน ก็เป็นเรื่องของการวางฐานรากของโครงสร้าง โดยวิศวกรจะมาติดตั้งเสาเข็ม ดิฉันเลือกการติดตั้งเสาเข็มด้วยวิธีการตอก เพราะต้องการประหยัดเงินในส่วนนี้ วิศวกรบอกว่าที่ดินของดิฉันสามารถตอกเสาเข็มได้ ไม่ทำให้บ้านข้างๆ เสียหาย แต่ดิฉันก็ต้องไปเจรจากับเพื่อนบ้านข้างๆ เพื่อความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่าย หากมีปัญหาอะไร ดิฉันจะชดใช้ให้ เพื่อนบ้านก็น่ารักค่ะ ทุกอย่างราบรื่นไปด้วยดี

ปล. กรณีใช้เสาเข็มแบบเจาะจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 300,000 – 400,000 บาท


หลังจากขั้นตอนตอกเสาเข็มเสร็จ ก็ทำพิธีขึ้นเสาเอกค่ะ มีภาพบรรยากาศมาให้ชมด้วยนะคะ ซึ่งเจ้าหน้าที่จากแลนดี้ โฮม ก็ให้คำแนะนำเบื้องต้นเป็นอย่างดีค่ะ


หลังจากพิธีขึ้นเสาเอก ดิฉันก็ต้องไปทำธุระที่เชียงใหม่ ไปๆ กลับๆ กรุงเทพ – เชียงใหม่ อยู่หลายเดือน จึงฝากน้องสาวให้ช่วยมาดูบ้าน และประสานงานแทน ตอนนั้นค่อนข้างกังวลกลัวการสร้างบ้านไม่เรียบร้อย เพราะไม่ได้อยู่ควบคุมเอง ส่วนทางบริษัท แลนดี้ โฮม ก็อัพเดทความคืบหน้าการก่อสร้างมาให้ทาง Line เป็นระยะ และก็มีการแจ้งเรื่องราวต่างๆ ผ่านทางโทรศัพท์ ก็สบายใจไปส่วนนึงค่ะ

ในช่วงงานโครงสร้าง ดิฉันมีกังวลเรื่องความแข็งแรง ของเสา และคาน เพราะดูเหมือนจะมีขนาดเล็กไม่น่าจะรับน้ำหนักของตัวบ้านได้ ทางวิศวกรก็อธิบายว่า ขนาดของเสาได้มีการกำหนดคุณภาพ และมาตรฐานมาอย่างดีแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ดิฉันสบายใจขึ้นก็คือ การรับประกัน โครงสร้าง 20 ปี เพราะถ้าหากเกิดปัญหาอะไรขึ้นก็ยังมีการรับประกันคุ้มครองอยู่


กว่าที่ดิฉันจะจัดการธุระเสร็จ บ้านก็สร้างไปถึงขั้นตอนการก่อผนัง เริ่มมีการวางท่อ และระบบสุขาภิบาลแล้ว  มาตรวจดูงาน โดยรวมๆ แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร ราบรื่นดีค่ะ


ในช่วงขั้นตอนการฉาบปูนผนัง เพื่อนๆ ดิฉันแนะนำว่าให้หมั่นฉีดน้ำที่ผนังจะทำให้ผนังไม่แตกร้าว ช่วงนั้นดิฉันเข้าไปที่หน้างานก่อสร้างเพื่อรดน้ำผนังบ่อยมาก เพราะสังเกตุว่าช่างไม่ค่อยฉีดน้ำให้เลย และได้แจ้งกับทางบริษัทไปด้วยว่าควรใส่ใจในรายละเอียดจุดนี้ให้มากกว่านี้ หลังจากฉาบปูนเสร็จ ช่างก็เริ่มติดตั้งนั่งร้านเพื่อเตรียมทาสีบ้าน


ภายในตัวบ้านบางจุดก็ลงกระเบื้องต่อเลยค่ะ กระเบื้องทั้งหมดที่ปูภายในบ้าน ดิฉันเป็นคนเลือกเอง โดยบริษัท แลนดี้ โฮม จะแจ้งวันและเวลาให้เราไปเลือก ชนิด สี รุ่น ของกระเบื้อง ที่ Grand Home Mart ส่วนตัวดิฉันชอบกระเบื้องที่มีลวดลายคล้ายหิน เพราะให้ความรู้สึกแข็งแรง และหรูหรา


ระหว่างทาสีบ้านค่ะ เผลอแปปเดียวก็ทาสีเกือบเสร็จทั้งหลังแล้วค่ะ


ระหว่างอยู่ในขั้นตอนการทาสี สุขภัณฑ์ก็เริ่มทยอยมาส่ง ในบางส่วนก็สามารถติดตั้งได้เลย ภายในบ้านก็เริ่มมีการติดตั้งบานหน้าต่างตามจุดต่างๆ แล้วค่ะ จากนั้นก็ติดตั้งสุขภัณฑ์ในส่วนที่เหลือ รวมถึงระบบไฟ


จุดนี้เป็นจุดที่ติดตั้งระบบสุขาภิบาลภายนอกค่ะ ทางบริษัท แลนดี้ โฮม บอกว่า มีระบบป้องกันแมลงสาบด้วย ซึ่งดิฉันค่อนข้างชอบระบบนี้ เพราะส่วนตัวกลัวแมลงสาบมากค่ะ


ภาพนี้เป็นภาพบ้านที่เกือบเสร็จ 100% แล้วค่ะ เห็นมาตั้งแต่ยังเป็นที่ดินว่างเปล่า ตอนนั้นรู้สึกทั้งดีใจและภูมิใจมาก เจ้าหน้าที่จาก แลนดี้ โฮม ก็นำของขวัญมามอบให้ ก่อนส่งมอบบ้านค่ะ  


ภาพบ้านปัจจุบันค่ะ


หวังเป็นอย่างยิ่งนะคะ ว่าการแชร์ประสบการณ์ การสร้างบ้านในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านนะคะ หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะคะ ( มือใหม่หัดเขียนค่ะ )

หากท่านไหนสนใจอยากชมภาพบ้านของดิฉัน สามารถเข้าไปดูได้ที่ http://www.landyhome.co.th/portfolio-detail.php?id=2065 นะค่ะ ทีมงานจาก แลนดี้ โฮม มาขอถ่ายภาพบ้านของดิฉันไปลงเว็บไซต์ค่ะ


[Advertorial]