อยากสารภาพผิดค่ะ สมัยเด็กเคยขโมยของในห้าง (ชวนคุยเรื่องวีรกรรมวัยเด็ก)

อยู่ดีๆ เราก็นึกถึงวัยเด็กขึ้นมาค่ะ เลยอยากมาแชร์เรื่องราว ประกอบกับชวนคุยหน่อย ให้ถือเป็นบทเรียนไปค่ะ
เราไม่ได้อยากถูกมองว่าออกมาประจารตัวเองนะคะ เรามองว่าเป็นการแชร์ประสบการณ์มากกว่า ในแง่ของเรื่องบาปบุญคุณโทษ หรือผลจากการกระทำผิด


เรื่องเกิดสมัยอนุบาล ตอนนั้นก็ถูกสอนมาดีในระดับนึงเรื่องความผิดชอบชั่วดี รู้อยู่แล้วค่ะว่าขโมยของมันผิด หรือทิ้งขยะเรี่ยราดไม่ดีนะ เราก็ปฏิบัติตามมาโดยตลอด

แต่ด้วยความยังเด็ก บางครั้งเลยอยากท้าทายอะไรแปลกๆ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงท้าทายต่อหน้าต่อตาโดยตรงอย่างเดียวนะคะ แต่หมายถึงท้าทายคำสอนตอนลับหลังอะไรพวก นี้ด้วยเราก็อธิบายไม่ถูก เหมือนมันประกอบกับความอยากพิสูจน์สิ่งที่ผู้ใหญ่สอน ว่าถ้าเราทำผิดจริงมันจะเป็นยังไง แล้วไงเหรอ ความรู้สึกผิดมันเป็นยังไง เหมือนต่อสู้กับศีลธรรมในใจด้วยค่ะ พอมีโอกาสก็เลยแอบทำผิด แต่ก็มาสารภาพบาปทีหลังตลอด เช่น ขโมยเงินแม่ไปซ่อน พอแม่หาไม่เจอก็เดินไปบอกว่าหนูขโมยไปเองแหละ พร้อมนำกลับมาคืน ก็โดนดุว่าอย่าทำอีกนะ มันไม่ดี

ทีนี้สิ่งที่เราคิดว่าร้ายแรงแบบทำผิดกฏหมายครั้งแรกในชีวิตก็เกิดขึ้นค่ะ เราไปที่ห้างแห่งหนึ่ง (ขอไม่เอ่ยนาม) และตามปกติค่ะ บางทีก็ชอบหนีไปเดินคนเดียว[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

จนมาถึงโซนขายอาหารและผักสด เราผ่านแผงแครอทค่ะ เห็นแครอทหัวหนึ่ง ลูกเล็กน่ารักมากกกก แน่นอนค่ะว่าอยากได้ อยากได้มากๆ ไม่ได้คิดจะหยิบนะตอนแรก แต่พอจะเดินออกมาเราก็ฉุกคิดว่า ถ้าหยิบออกมาจะมีใครจับได้มั้ย? ในห้างมันมีกล้องวงจรปิดจริงรึเปล่า ในใจนี่ตื่นเต้นมาก กำลังจะทำความผิด รู้ว่าไม่ดี แต่ก็จะดื้อทำ แล้ววันนั้นเราก็แอบหยิบแครอทหัวเล็กๆนั่นแหละค่ะติดกระเป๋ากางเกงกลับมาด้วย



ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่เคยมีใครรู้เรื่องนี้เลยค่ะแม้แต่พ่อแม่เรา


แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเหรอคะ เรารู้สึกผิดยามที่แทะหัวแครอทหัวนั้น ผิดจนกลืนไม่ลง ต้องโยนทิ้งไปกลางป่า เหมือนจะโยนความผิดทิ้ง คิดว่าความผิดพ้นตัว แต่ไม่เลยค่ะ เพราะบาปนั้นมันติดอยู่ในใจจนถึงตอนนี้เลยค่ะ และคิดว่าจะติดอยู่ตลอดไปด้วย แล้วถ้าวันนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นคือเราถูกจับได้ แล้วพ่อแม่ถูกทางห้างปรับเป็นจำนวน 20 เท่าของราคาสินค้า และถูกดำเนินคดีล่ะจะทำอย่างไร? ทั้งยังรู้สึกผิดต่อแครอทหัวนั้นที่มันเกิดมาทั้งที่ ตัวเล็กกว่าใครเพื่อนไม่พอ ยังไม่ได้ทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มที่อีกต่างหาก เป็นเราเองที่ขโมยมันมาแล้วยังตัดโอกาสที่จะได้ใช้ร่างกายทำประโยชน์ต่อมนุษย์อย่างสูงสุด จำได้ว่าตอนนั้นเศร้ามาก ไม่แน่ใจว่าร้องไห้รึเปล่านะคะ แต่ความเศร้านี่จำได้แม่นเลย



สิ่งที่พ่อกับแม่สอนเราเป็นเรื่องจริงค่ะ ทำบาปมันผิด มันไม่ดี และแม้จะไม่มีใครรู้ แต่เรานี่แหละที่รู้เองอยู่แก่ใจจนวันตาย






ปล.สำหรับคนที่ต้องการตำหนิ เราไม่ว่านะคะ แต่อย่าลามถึงพ่อแม่เราเลยค่ะ เราก็รักของเราเนอะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


เรื่องแถมค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่