ห้วงเวลาแห่งเทพนิยาย : เขาไม่ใช่เจ้าชาย & เธอไม่ใช่ซินเดอเรลล่า บทที่ 4

กระทู้สนทนา
ห้วงเวลาแห่งเทพนิยาย: เขาไม่ใช่เจ้าชาย & เธอไม่ใช่ซินเดอเรลล่า

บทที่ 1 http://ppantip.com/topic/36786006

บทที่ 2 http://ppantip.com/topic/36788819

บทที่ 3 http://ppantip.com/topic/36792144

================================

บทที่ 4

สุกฤตส่งเสียงไม่เห็นด้วยมาตามสายทันทีที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมด เสียงดังลอดหูโทรศัพท์แทบจะเบรกหญิงสาวด้วยน้ำเสียงชวนให้ปวดหัวยิ่งกว่าเดิม

“ยู้ด! หยุดไปเลยนะตี้ ไม่ว่าตอนนี้หล่อนกำลังคิดอะไรอยู่ก็ตามจงหยุดบัดเดี๋ยวนี้!”

คิ้วโก่งเรียวของตีรณาขมวดแน่นเข้าทันที นี่ถ้าเพื่อนอยู่ตรงหน้าเธอ หญิงสาวคงทำหน้าเชิดใส่ไปแล้ว แต่ในเมื่อเจ้าตัวไม่เห็น เธอจะเชิดไปทำไมให้เมื่อยคอกันเล่า

“คุณคาที่รู้หรือไงว่าฉันคิดจะทำอะไร” ตีรณาเอ่ยเสียงยียวน ซึ่งลองเป็นแบบนี้อีกฝ่ายก็ทราบทันทีว่าหญิงสาวเริ่มออกอาการเกเรแล้ว

“เคที่ย่ะ” เจ้าตัวแก้ชื่อก่อนที่จะเอ่ยต่อไป “อย่างหล่อนน่ะ มันพวกมากศักดิ์ศรี คงจะทำตัวเป็นนางเอกประมาณว่า ‘คุณดูถูกฉัน!’ อะไรแบบนี้ล่ะสิ เสร็จแล้วหล่อนก็จะเฟดตัวเองไม่ยอมไปเจอเขา ไม่ยอมให้เขาเข้ามายุ่งกับชีวิตหล่อนอีก อย่างนั้นใช่ไหมล่ะ”

อืม...สมกับเป็นเพื่อนสนิท ทายถูกเผงเลย นี่เธออ่านง่ายขนาดนี้เชียวหรือนี่

“นี่ฉันจะบอกอะไรให้” สุกฤตยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมเพื่อนสาวต่อไป “มีหนุ่มโสด หล่อ นิสัยดี มีเงินอีกตะหากมาตกหลุมหล่อนทั้งที หล่อนก็ลองให้โอกาสเขาบ้างจะเป็นไรไปล่ะ เท่าที่ฟังพฤติกรรมดูแล้วเขาคงไม่ได้ตั้งใจจะไปก้าวก่าย แต่หล่อนคงไปทำหน้าเก๊กซิมให้เขาเห็นล่ะสิ เขาเลยอยากช่วยเงียบๆ มากกว่า ก็แม่หล่อนยังบอกเลยนี่ว่าให้ปิดเป็นความลับ นี่เขาดีกับหล่อนขนาดนี้ เจ้าชายลงมาจุติเลยนะยะ รับๆ ไว้เถอะน่า จะบอกให้นะว่าหล่อนเป็นนางซินฯ ยุคใหม่ปีสองพันสิบสามเลยนะยะ”

“ก็ฉันไม่ได้อยากเป็นซินเดอเรลล่านี่ แค่นี้ก็รู้สึกว่าตัวเองโง่เหมือนยายนี่เข้าไปทุกทีแล้ว” ตีรณาถอนฉุน เอ่ยด้วยน้ำเสียงระคนน้อยใจ “ไม่เอาล่ะ...ฉันโทรมาเพื่อถามว่าจะเลี่ยงเขายังไง ไม่ได้ให้คุณสุกฤตมาร่วมส่งเสริมถีบฉันตกเหวอีกคนสักหน่อย”

กี่คนๆ ก็ชอบพูดว่าเธอโชคดีที่มีผู้ชายดีๆ อย่างปรานต์เข้ามาในชีวิต เจ้าคำว่า ‘ผู้ชายดีๆ’ ก็หนีไม่พ้นหน้าตาดี ร่ำรวย มีเกียรติ มีสมองเท่านั้นแหละ

ตีรณาอยากตะโกนกลับไปเสียจริงว่ามือเธอก็มี ขาเธอก็ใช้งานได้ สมองเธอก็ไม่ได้เสื่อม!

“นี่! ผู้ชายแบบคุณปรานต์นี่น่ะนะเหวของหล่อน” คุณสุกฤตทำเสียงจิ๊จ๊ะขัดใจ ไม่ได้ดูอารมณ์คนฟังสักนิด “ผู้ชายแบบนั้นเขาหาของเขาได้ถมไป แต่นี่เขาดูแลเอาใจใส่หล่อนขนาดนี้ ผู้หญิงกี่คนๆ เขาก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยว ฉันพยายามหาข่าวเกี่ยวกับเขาบ้างแต่ไม่มีเล็ดลอดมาถึงหู แค่นี้หล่อนยังไม่พอใจอีกหรือ”

ตีรณาฟังอย่างนั้นก็ลงความเห็นเลยว่า สุกฤตไม่เข้าข้างเธอแน่ จึงหาเรื่องตัดบทเพื่อนตัวดีเสียเลย หาไม่แล้ว เขาคงพร่ำพรรณนาถึงความดีความชอบของผู้ชายคนนั้นให้เธอฟังจนเบื่อไปข้างหนึ่งแน่ๆ

ในเมื่อไม่มีใครเห็นด้วย เธอก็จะดันทุรังของเธอไปแบบนี้แหละ ใครจะทำไม! เธอไม่คิดจะเป็นซินเดอเรลล่าหรอก ส่วนเขาจะเป็นเจ้าชายของใครก็ไม่ใช่เรื่องของเธอสักหน่อย!

================================

หนึ่งอาทิตย์ถัดมา คนที่หญิงสาวไม่อยากเห็นหน้าที่สุดก็มาปรากฏตัวอยู่ที่หน้าตึกทำงานของเธอ

ร่างบางชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเดินก้าวออกมาจากตัวตึกแล้วพบภาพนั้นเข้า สีหน้าของปรานต์กระวนกระวาย ไม่สนใจสักนิดว่าตนเองจะตกเป็นเป้าสนใจของใครหรือไม่

เขายืนอยู่คนเดียว ไม่มีรถคันงามตามมาด้วย บางทีเพราะการจราจรที่คับคั่งบนถนนหน้าที่ทำงานของเธอ เขาคงไปจอดรถไว้ที่ไหนสักแห่ง

เวลานี้ก็หัวค่ำแล้ว ตีรณาออกมาช้าเพราะต้องทำงานล่วงเวลา แต่หญิงสาวเล่นไม่ให้ชายหนุ่มติดต่อเธอได้ทุกทาง เธอจึงคิดว่าเขาคงมาดักรอที่นี่ตั้งแต่ก่อนเลิกงานแล้วล่ะมั้ง ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตแสดงว่าเขาตรงมาที่นี่จากที่ทำงานเหมือนกัน

หญิงสาวบันทึกความผิดอีกกระทงทันที แล่นมาหาเธอถึงที่ทำงานโดยที่เธอไม่ยินยอม ผิดข้อตกลงชัดๆ

เรื่องคิดจะหลบคงช้าไปเสียแล้ว เพราะปรานต์เห็นเธอแล้วและกำลังตรงรี่เข้ามาด้วยสีหน้าเข้มข้นเหมือนเมื่อวันที่ทั้งคู่ได้พบกันในงานแต่งงานของเพื่อน

ตีรณาชักสีหน้า หญิงสาวเลี่ยงที่จะไม่สนใจเขาแต่ก็โดนจับตัวไว้อีกจนได้ มือใหญ่นั่นยังคงอบอุ่นเช่นเดิมแต่หญิงสาวเลือกจะสลัดมันทิ้งแล้วเดินหนีไปอีกครั้ง คราวนี้ปรานต์ไม่ดึงดันจับมืออีก แต่ดึงแขนของเธอแล้วลากให้เดินไปด้วยกันแทน

“ทำอะไร!” เธออุทานเบาๆ พลางมองไปรอบๆ เห็นหลายคนจ้องมาพอดีจนต้องรีบหันไปบอกเขา “ปล่อยฉันนะ คุณปรานต์!”

“ถ้าปล่อยแล้วคุณจะเดินหนีผมไหม” ปรานต์ถามหญิงสาวตรงหน้าตาวาววับแบบที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ขนาดว่าเธอทำหน้าบึ้งแล้วแต่ปรานต์ทำได้ดีกว่าเธอเสียอีก ตีรณาไม่อยากให้ใครมารุมจ้องอย่างนี้อีกจึงรีบพยักหน้าโดยเร็วเขาจึงปล่อยมือแต่สีหน้ายังไม่คลายความเครียด

“เราต้องคุยกัน”

“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณค่ะ” เธอตอบเขาเบาๆ และท่าทางคำตอบเธอจะเติมเชื้อไฟให้โหมมากขึ้นกว่าเดิม

“ตีรณา!”

จะเรียกชื่อเธอเต็มยศเธอก็ไม่กลัวหรอก หญิงสาวเมินมองไปทางอื่นเสียและพยายามดื้อดึงต่อไป

“คุณโกรธผมเรื่องอะไร” ปรานต์ยืนนิ่ง ถามกลับตีหน้าเคร่ง แต่พอเห็นเธอไม่ตอบชายหนุ่มยิ่งหัวเสียกว่าเดิม จัดการตะปบมือเธอไว้แล้วดึงให้เดินไปด้วยกันอีกครั้ง

“คุณปรานต์!”

“ผมไม่ยอมเสียเวลามารอคุณเกือบสามชั่วโมงเพื่อมาเจอคุณเงียบแบบนี้แน่ๆ” ขาเขายาวกว่าเธอมาก ตีรณาเกือบจะต้องวิ่งตามโดยที่มือใหญ่นั้นกำแน่นข้อมือเธอแน่นจนเกือบร้อน ร่างบางยอมตามเขาไปแต่โดยดี ขืนโวยวายมากไปเจอคนรู้จักเข้าคงได้เอาหน้าแทรกแผ่นดินแน่ๆ คิดดังนั้นก็ไม่ได้ยื้อประลองกำลังกับเขาที่นี่

เธอขอถอนคำพูดที่เคยคิดว่าเขาเป็นพวกไม่ทำอะไรกระโชกกระชาก ท่าทางเธอจะมองเขาผิดไปโขทีเดียว

ถ้าหากการจราจรข้างนอกไม่ติดขัด รถคงทะยานพุ่งไปข้างหน้าเช่นเดียวกับใจของเขา ปรานต์พยายามระงับความพลุ่งพล่านภายในราวน้ำเดือด ยิ่งเห็นอาการของเธอที่เหมือนไม่ใส่ใจเขาโดยที่เขาไม่รู้สาเหตุเช่นนี้ ชายหนุ่มยิ่งจะคลั่งตายเสียให้ได้

รถคันใหญ่ต่างจากรถสปอร์ตที่ชายหนุ่มมักจะพาเธอไปไหนมาไหนในวันสุดสัปดาห์ชวนให้หญิงสาวรู้สึกเกรงขามขึ้นมาอย่างประหลาด อาจจะผสมปนเปกับบุคลิกของเขาในวันทำงานที่ดูมีอำนาจแทนที่จะเป็นชายหนุ่มขี้เล่นอย่างที่เธอเคยพบมาตลอด

วูบหนึ่งตีรณารู้สึกว่าเขาเป็นคนแปลกหน้า เป็นคนที่เธอไม่รู้จักขึ้นมาเสียดื้อๆ

ร่างเล็กนั่งตัวเกร็งอยู่ในรถคันหรูนี้ เหลือบมองคนขับก็พบแต่แสงวูบวาบของท้องถนนเท่านั้นที่ช่วยทำให้เธอเดาได้บ้างว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน เสี้ยวหน้าคมแต่ริมฝีปากแทบเป็นเส้นตรงพร้อมกับใบหน้าที่มองไปยังถนนเบื้องหน้า ผมสั้นของเขาพอเห็นว่าแต่งเจลเป็นรูปเป็นทรงบ้าง แต่อาจเป็นเพราะตอนเย็นหรือเขาคงว้าวุ่นใจเสยผมบ่อยเลยทำให้กลายเป็นทรงนี้ไป

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอพิจารณาเขาใกล้ๆ และถี่ถ้วนถึงขนาดนี้

“พอจะใจเย็นแล้วคุยกันได้หรือยังครับตี้” ในที่สุด เจ้าของรถก็เป็นฝ่ายเปิดฉากพูดเสียงเคร่ง

“คุณบอกมีเรื่องจะคุย จะพูดอะไรก็พูดมาเถอะค่ะ ฉันเหนื่อย อยากกลับแล้ว”

ไม่น่าเชื่อว่าตัวเองจะมีคำพูดนางเอกๆ เก็บไว้ใช้เหมือนกัน

“อย่างที่ผมถามไป คุณโกรธผมเรื่องอะไร” เขาเอ่ยเสียงเรียบ เมื่อเห็นว่าข้างหน้ารถติดเป็นแพจึงหันมาสนใจเธอได้เต็มที่

“ฉันไม่ได้โกรธคุณค่ะ”

“คุณหนีหน้าผมเป็นอาทิตย์ๆ แบบนี้ไม่เรียกว่าโกรธแล้วเรียกว่าอะไร” ปรานต์ทำหน้าเคร่งขึ้น “ถ้าผมไม่รีบมาดักรอคุณแบบนี้ก็คงโดนหลบหน้าต่อไปแน่ๆ บอกผมมาหน่อยเถอะว่าผมทำอะไรผิดคุณถึงต้องทำแบบนี้”

ตีรณาเม้มปากคิ้วขมวดแน่น

“คุณไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก คุณทำถูกทุกอย่างเลย!”

“ตี้ อย่าพูดประชดอย่างนี้สิ”

เสียงเขาเอ่ยอย่างอ่อนใจราวกับเธอเป็นเด็กดื้อที่ไปอารมณ์เสียที่อื่นมาแล้วมาพาลรีพาลขวางใส่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างเขา ในเมื่อเขาเองไม่ใช่หรือที่เป็นสาเหตุน่ะ ยังจะมาทำหน้าอย่างนี้อีก!

“ฉันไม่ได้ประชด ฉันพูดจริง!” เสียงหวานใสเริ่มแข็งขึ้น “คุณเป็นคนดีมากค่ะ อุตส่าห์สืบเสาะหาว่าบ้านฉันอยู่จังหวัดอะไร แล้วก็ทำตัวเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวยื่นมือมาช่วยเหลือคนในบ้านนี้ เพราะหัวหน้าครอบครัวอย่างฉันไม่มีปัญญาทำอะไรได้ดีกว่าที่เป็นอยู่!”

ดวงตาโตจ้องหน้าเขาเขม็ง ปรานต์เงียบไป

“ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณรู้สึกแบบนั้นเลย...ผมแค่อยากช่วย” เขาเปิดปากในที่สุดด้วยสีหน้าคล้ายสำนึกผิด แต่ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์จะฟังอะไรจากเขาทั้งสิ้นยังคงพูดต่อไป

“ฉันไว้ใจคุณก็เลยยอมบอกเล่าให้ฟัง แต่ฉันไม่เคยขอให้คุณช่วยเลยสักคำ นี่เป็นปัญหาของฉันเอง แล้วฉันก็ไม่ได้รู้สึกดีด้วยเลยที่คุณยื่นมือเข้ามาแบบนี้ ยิ่งคุณทำแบบนี้ฉันยิ่งรู้สึกแย่ ฉันอาจไม่มีอะไรเทียบคุณ แต่ตราบใดที่ฉันมีมือมีเท้า ฉันก็ดิ้นรนของฉันเองได้!”

หญิงสาวเอ่ยเสียงเข้มข้นแล้วเมินหน้าออกไปมองท้องถนนเบื้องนอก เห็นรถรายังคงติดหนึบหนับ แต่ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะสนใจ มือเล็กๆ นั่นยกขึ้นปาดหน้าอย่างเพลียๆ

“บางทีฉันคงอ่อนแอเกินไป ฉันรู้ว่าคุณรวย แต่ฉันไม่มีอะไรสักอย่าง คุณเหมือนเจ้าชายสูงส่งเก่งกล้าสามารถ แต่ฉันเป็นแค่นางซินฯ ก้นครัวทำอะไรไม่ได้เรื่อง เราสองคนต่างกันเกินไปค่ะ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณสนใจฉันตรงไหน แต่ตอนนี้ฉันว่า...” เธอสูดลมหายใจเข้าลึก

“บางทีมันอาจจะดีกว่าถ้าเราจะไม่เจอกันอีก...”

พูดจบตีรณาก็จับกระเป๋าถือของตนเองไว้มั่นแล้วเปิดประตูรถเดินออกมาดื้อๆ

“ตี้!”

เธอปิดหูปิดตาไม่สนใจเสียงร้องเรียกอย่างตกใจของเขาที่ไล่หลังมาตอนปิดประตูรถ ไม่รู้ว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไปกับการจราจรบนท้องถนนนั่น ร่างบางลัดเลาะเดินตรงไปยังวินมอเตอร์ไซด์รับจ้างแล้วเรียกให้ไปส่งเธอยังบ้านเพื่อนเพราะรู้ว่ายังไงเสียเขาก็ต้องบุกไปหาที่อพาร์ทเมนท์ของเธอแน่ๆ  

ไม่รู้อะไรทั้งนั้นแล้ว! ใครก็อย่ามายุ่งกับเธอตอนกำลังเซ็งสุดขีดแบบนี้เลย!

================================

(มีต่อค่ะ)
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งเรื่องสั้น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่