ถึงเวลาของ AI เชื้อสายจีน

เมื่อประเทศจีนประกาศกร้าวว่าจะเป็นผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์ของโลกให้ได้ภายในปี 2030 (หรือถ้านับไปข้างหน้าก็อีกเพียง 13 ปีเท่านั้น!)
จากสถิติพบว่า การยื่นจดสิทธิบัตรด้านปัญญาประดิษฐ์ในจีนตั้งแต่ปี 2010-2014 เพิ่มเป็นสามเท่า เมื่อเทียบกับสิทธิบัตรประเภทเดียวกันในช่วงห้าปีก่อนหน้า และรัฐบาลจีนก็หวังว่าเทรนด์นี้จะดำเนินต่อไปด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นอีก
ในขณะที่ อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งและบริหารกิจการพัฒนาเทคโนโลยีชั้นนำหลายแห่ง และนายมุสตาฟา สุไลมาน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทกูเกิลดีพมายด์ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเอไอรายใหญ่ด้วย ออกจดหมายเปิดผนึกเรื่องอาวุธกับ AI เนื้อหาในหนังสือร้องเรียนระบุว่า การพัฒนาเทคโนโลยีบริหารควบคุมอาวุธโดยอัตโนมัตินั้น จะนำไปสู่ "การปฏิวัติครั้งที่สาม" ในวิธีการต่อสู้ทำสงคราม โดยเมื่อได้พัฒนาขึ้นมาแล้ว เทคโนโลยีนี้จะทำให้การสู้รบดำเนินไปในระดับที่กว้างใหญ่มากขึ้นและรวดเร็วขึ้น ชนิดที่มนุษย์ไม่สามารถจะคาดคิดไปถึง
"อาวุธเหล่านี้อาจตกเป็นเครื่องมือของผู้ก่อการร้ายและผู้นำเผด็จการ ที่อาจนำไปใช้ประหัตประหารประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้ เทคโนโลยีชนิดนี้ยังเสี่ยงต่อการถูกเจาะล้วงระบบ เปิดทางให้มีการบังคับควบคุมจากภายนอกที่ไม่พึงประสงค์ เรามีเวลาไม่มากในการลงมือป้องกันเรื่องนี้ เพราะเมื่อกล่องแพนดอราถูกเปิดออกแล้ว มันจะปิดลงได้ยาก" แถลงการณ์ของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเรื่องเอไอระบุ
http://dv.co.th/blog-th/chinese-ai/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่