>> เรียนที่เช็ก เที่ยวเมืองแปลกในเช็ก (๑): Olomouc <<

พูดถึงสาธารณรัฐเช็ก บางคนอาจยังติดภาพประเทศที่ยังล้าหลังด้วยทีว่าเคยเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ภายใต้อิทธิพลของโซเวียต แต่ปัจจุบัน สาธารณรัฐเช็กจัดเป็นประเทศพัฒนาแล้วตามมาตรฐานของ World Bank ส่วนนึงเพราะได้เงินช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป เพราะฉะนั้นโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการขนส่งสาธารณะถือว่าอยู่ในระดับดีครับ

Olomouc (อ่านว่า โอ-โล- โมอุส (โมอุส ออกเสียงติดกัน) แต่เพื่อความสะดวก จะขอเขียนว่า โอโลโมุซ) เป็นเมืองแรกที่มาเรียนในโครงการ Erasmus Mundus ของสหภาพยุโรปก่อนที่จะไปเรียนที่เนเธอร์แลนด์ในภาคเรียนถัดไป

Olomouc ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกในภูมิภาค Moravia เคยเป็นเมืองหลวงเก่ามาก่อน ห่างจากกุรงปรากโดยรถไฟประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ภายในตัวเมืองมีรถรางทันสมัยเชื่อมโยงจุดสำคัญต่างๆ ของเมือง และมีรถเมล์เชื่อมต่อไปยังส่วนอื่นๆ อีกทีครับ อ้อ ที่นี่ตั๋วใบเดียวใช้ได้ทั้งรถรางและรถบัสครับ ส่วนจะใช้ได้นานแค่ไหน ขึ้นกับประเภทตั๋วที่ซื้อ และที่นี่ใช้ระบบตอกบัตร คือ ต้องเอาตั๋วไปให้เครื่องประทับวันที่และเวลาบนรถรางหรือรถบัส และจะมีคนคอยสุ่มตรวจ ถ้าไม่ตอกบัตร ก็เท่ากับว่าไม่มีตั๋ว เสียค่าปรับแพงมากครับ (เท่าที่จำได้ในตอนนั้น ตั๋วถูกสุด ๗ CZK ส่วนค่าปรับ ๙๐๐ CZK ครับ หรือประมาณ ๑,๔๐๐ บาท)
อันนี้เป็นศาลากลาง (town hall) ด้านขวา คือ Holy Trinity Column ได้รับสถานะมรดกโลกจากยูเนสโก ในฐานะหนึ่งในตัวอย่างที่โดนเด่นที่สุดของผลงานศิลปะบาโรกในยุโรปกลาง

โอโลโมุซเป็นเมืองนักศึกษา เพราะฉะนั้นจะเห็นคนหนุ่มสาวค่อนข้างเยอะ คนรุ่นใหม่พูดภาษาอังกฤษได้ แต่นอกรั้วมหาลัยเป็นอีกเรื่องนึงครับ อาจกล่าวสั้นๆ ได้ว่า รู้แค่ภาษาอังกฤษก็พออยู่ได้ แต่ถ้าอยากเข้าถึงผู้คนและวัฒนธรรมจริงๆ ต้องได้ภาษาเช็ก (ซึ่งจัดเป็นภาษาที่ยากมากภาษานึง มี 3 เพศ แถมเพศชายยังแบ่งเป็นมีชีวิตกับไม่มีชีวิต มี 7 เคสซึ่งมากกว่าเยอรมันที่มี 4 เคสและรัสเซียที่มี 6 เคส จัดเป็นภาษาที่ท้าทายภาษาหนึ่งสำหรับคนที่รักการเรียนภาษาครับ นักเรียน Erasmus มีสิทธิพิเศษตรงที่ลงเรียนได้ฟรี และนับเป็นหน่วยกิตบันทึกใน transcript ได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เรื่องอาหารการกิน คนเช็กกินมื้อกลางวันเป็นมื้อหลักของวัน เพราะฉะนั้นจะกินครบทั้งซุป จานหลัก และของหวาน ในช่วงกลางวัน แต่สำหรับนักเรียนแล้ว อาจมีงบไม่พบขนาดนั้น ทางมหาวิทยาลัยก็มีโรงอาหารให้ ที่นี่สั่งอาหารผ่านทางเว็บ หรือที่เครื่องสั่งอาหารที่โรงอาหาร เมนูบางอย่างต้องสั่งข้ามวัน ถ้าสั่งแล้วไม่อยากกิน ก็เอาไปขายบนเว็บเดียวกันได้ครับ ระบบตรงนี้ถือว่ามีการจัดการค่อนข้างดีเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจคือ ตัวมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า และอาคารหลัก ๆ เป็นส่วนนึงของอาราม (cloister) ครับ ซึ่งรวมถึงอาคารเรียนของ Euroculture ด้วย (สังกัดคณะอักษรศาสตร์ ที่นั่นเรียกว่า Philosophical Faculty ครับ) เพราะฉะนั้น ตอนเดินในมหาวิทยาลัยจะรู้สึกเหมือนได้เดินเที่ยวชมอาคารสวยๆ และสวนไปในตัว แต่บางตึกก็เก่าจนน่ากลัวเหมือนกัน ยิ่งเรียนพวกวิชาประวัติศาสตร์ยุโรปแล้ว จะทำให้รู้สึกอินมากครับ ห้องสมุดอยู่ติดกับวังของอัครมุขนายก (archbishop) อีกฟากของถนนเป็นคาเฟ่ที่เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิหาร (cathedral) ซึ่งอาจารย์ที่สอนวิชายุโรปกลาง จะจัดสัมนาสัปดาห์เว้นสัปดาห์ที่นั่นครับ แถมพาลงไปในส่วนที่เป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่สำหรับลี้ภัยด้วยครับ
ห้องสมุด
วังของอัครมุขนายก (archbishop)
มหาวิหารประจำเมือง (cathedral)

ด้านหลังมหาวิทยาลัยเป็นสวนขนาดใหญ่ พอใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงและมีแสงอ่อน ๆ ส่งมา สวยงามอย่าบอกใครเชียว (แต่บอกไปแล้ว)

หากใครเบื่อฝูงชนที่กรุงปราก โอโลโมุซ อาจเป็นคำตอบที่ดีสำหรับคนที่ชอบเมืองเล็ก ๆ น่ารัก มีเวลานั่งชิล ถ่ายรูป ดื่มดำบรรยากาศครับ

ใครสนใจการเรียน การทำงาน และการท่องเที่ยวแนว Unseen ในยุโรป ก็ขอเชิญไปเยี่ยมชมหรือพูดคุยกันได้ที่เพจเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/IRememberEurope/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่