เมื่อผมตื่นขึ้นมาในปี 2580

อ๊วก แหวะ...อ๊าก....  “ค่อยๆหายใจนะครับคุณลุง” เด็กหนุ่มบอกผม สมองผมมันมึนงงไปหมด ทั้งเวียนหัว ท้องไส้ปั่นป่วนแขนขาไม่มีแรง ผมขยิบตาถี่ๆ มึนๆงงๆมันเกิดอะไรขึ้นหว่า ผมคิดอะไรไม่ออกพยายามนึกว่าผมมาอยู่ในห้องนี้ได้ไง โรงพยาบาลโทรมๆสกปรกทั้งได้กลิ่นคาวหยังกะมีศพเน่าเตียงข้างๆ  สักพักเด็กหนุ่มคนนี้ก็บอกให้ผมกินยา แล้วผมก็หลับไปอีก.....
    ผมค่อยๆลืมตาแล้วพยายามคิด แต่ก็คิดไม่ออก จนกระทั่งชายแก่ๆคนหนึ่งนุ่งสโร่งหนวดเครารุงรังและมีหมวกแบบอิสลาม ค่อยๆเดินมาอาดๆมานั่งข้างๆ “บักแหล่” บักแหล่คือชื่อที่ครัวผมเรียก ปกติคนอื่นจะเรียกผมว่า ”แดน” คุณปู่คนนี้เขามาทักผมว่าเป็นน้องเขาได้ไง ผมค่อยๆมองตาเขา มองให้ดี.... ใช่ พี่ชายจริงๆด้วยเพียงแต่ดูแก่เหมือนพ่อ แต่ทำไมใส่ชุดเหมือนคนอิสลาม มันแปลกดูขัดๆ
    บักแหล่เอ้ย เจออุบัติเหตุมีอาการโคม่าเป็นเจ้าชายนิทราไปหลายปี สุดท้ายชีพจรเต้นๆหยุดๆไป แต่หมอเขาก็เซ็นว่าตายแล้ว เลยเอามาโรงพยาบาลตามความต้องการที่ไปเซ็นมองร่างกายให้งานวิทยาศาสตร์ เหมือนว่าเขาแซ่ไว้ จนเขาฮู้วิธีรักษาเลยปลุกมาผ่าตัด
    อ่า ผมคือหนูทดลองโครงการแช่แข็งนั่นเอง.........  ฟังดูดีนะ โลกอนาคต แช่แข็งไปเรื่อยๆจนรู้วิธีรักษา.. มองอีกแง่ผมได้มาอยู่โลกอนาคตแล้ว..ดีเหมือนกัน ผมอยากจะskipชีวิตตัวเอง..ไปโลกอนาคตอันสดใส ..ว่าแต่พี่ นี่มันปีอะไร “ปีนี้เป็นปี 2580”
    เป็นหยังอ้ายคือเปลี่ยนศาสนาละ บ้านเฮาเป็นชาวพุทธตามทะเบียนบ้านไม่ใช่เหรอ
    บ่ เดี๋ยวนี้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำอาเซียนและศาสนาประชำชาติแล้ว เดี๋ยวแม่กับน้องมาเยี่ยมก็ไม่ต้องตกใจเด้อ  
    แม่มาเยี่ยม  บักแหล่เอ้ยเป็นยังไงบ้าง “แม่” ผมคาดว่าจะเจอแม่ที่ชราและผมขาว แต่ไม่ ผมเจอคนที่อยู่ในชุดคลุมสีดำ พี่ชายบอกผมว่าสมัยนี้เป็นกฎหมายรัฐธรรมนูญห้ามเพศตรงข้ามที่มิใช่สามีภรรยาสัมผัสกัน และผู้หญิงห้ามเผยผิวกายในที่สาธารณ ะ แม่ลูกก็ไม่ยกเว้น   .....??????? บ้าสินดี!!!  กฎหมาย ยิ้มอะไร แค่จะจับมือแม่ตำรวจมันจะยิงผมตายเหรอ!  ....   ไม่หรอก แต่กล้องจะบันทึกภาพแล้วระบบจะเก็บเงินภาษีแม่เพิ่มปลายปี   พี่ชายผมค่อยๆบอกอย่างใจเย็น  เอาไว้กลับบ้านเราก่อนเด้อลูก ...
    
“ลืมตาได้แล้วคะ ได้เวลากลับบ้านแล้ว “ผมจำเสียงนี้ได้ Siri ไม่รู้ว่ามันดังมาจากตรงไหน Siriบอกว่าผมควรพักฟื้นต่อที่บ้าน แล้วค่อยไปทำเอกสารกลับเข้าทำงานใหม่  ผมพยุงตัวลงจากเตียงโดยมีหุ่นกระป๋องเชยๆเป็นผู้ช่วย  และขึ้นรถUberที่พี่ชายส่งมารับ

เมื่อผมกลับถึงบ้าน
ทุกคนนั่งนิ่งเหมือนคนใจลอย  ทั้งโซฟา ทั้งเตียง” ทำไมบ้านเรารกอย่างนี้น่ะ”พี่ชายบอกว่าทั้งพ่อแม่ และพี่สะใภ้กำลังดูทีวีเล่นyoutube, line facebookผ่านVR ทุกวันนี้VRก้าวไกลไปมากจนเราฝังอุปกรณ์เชื่อมต่อกับระบบประสาทของเราเราเลยไม่ต้องมีแว่นไม่ต้องมีคีย์บอร์ด  ความสะอาดเป็นเรื่องล้าสมัย พี่ผมบอกพรุ่งนี้ผมสามารถไปติดอุปกรณ์VRได้ฟรีทุกคนลงทะเบียนได้ฟรี แค่เจาะฟันเป็นรูใส่อุปกรณ์แทนเข้าไปและฝังที่ม่านตาไม่เจ็บเลย สองชั่วโมงก็เสร็จ
ผมยังรับไม่ได้ที่จะต้องฝังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในร่างกาย มันหนังเดอะแมทริกส์ โชคยังดีที่โลกอนาคตยังมีระบบทีวีดิจิตอล และทีวีจอแบนที่ดูไฮเทคในสายตาผมแต่เป็นของเก่าเก็บในบ้านที่ไม่ได้ใช้มาหลายปี .. การดูทีวี ค่อยเป็นอะไรที่ดีขึ้นมาหน่อย จากการculture  shock ที่บ้านเราเป็นอิสลาม ทุกคนต่อVR กฎหมายประหลาดๆบ้าบอ ผมดูทีวีพยายามหาช่องละคน เพราะผมดูข่าวไม่เข้าใจ มีศัพท์แปลกๆสำเนียงแปลกๆ ผมอยากดูละครน้ำเน่า อยากดูตลกสามช่าซึ่งสามารถเรียกดูย้อนหลัง  ..... ค่อยๆหลับตากสักพักเพลงที่คุ้นหูก็ดังขึ้นมา   “วันที่ชาติเผชิญอะไร  ภัยลุกโชนเข้ามาทุกครา จะขอเป็นคนที่เดินเข้ามา.....ไม่อยากให้สายไป  ” บ้าชิบ!!!!  ยิ้ม!!!  นี้มันเพลง  แต่มันต่างไป ไฟสว่างทั้งบ้านทุกคนลุกขึ้นแล้วเดินออกไปหน้าบ้านแล้วเงยหน้าไปบนฟ้าเหมือนคนบ้า  บักแหล่เอ้ย มาแมะ ได้เวลาแสดงพลังแล้ว  ?????????
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่