อยากแชร์เป็นอุทาหรณ์ให้คนรักสวยรักงามทุกคนอ่ะค่ะ สวยได้แต่ก็ต้องศึกษาผลที่จะตามมาให้ดีด้วย เพื่อที่จะได้เตรียมรับมือได้ทันนะ เชื่อว่าหลายคนพอได้ทำสวยแล้วก็มักจะไม่ทราบหรือไม่รุ้ว่าต้องสังเกตอาการหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตามมาภายหลังด้วยเช่น การเสริมจมุกระยะยาว ก็อาจทำให้ปลายจมูกค่อยๆบางลง จนอาจจะทะลุได้ เป็นต้น
เรื่องมีอยู่ว่าคุณแม่ของเราทำผ่าตัดเสริมจมูกมานานแล้ว 20กว่าปีได้ จนกระทั่งเมื่อ7 ปีก่อน เราเริ่มสังเกตุเห็นว่าปลายจมูกเรื่มบาง เป็นนูนใสๆ คล้ายซิลิโคนเราก็ทักคุณแม่ว่าเป็นอะไร ไปหาคุณหมอตรวจดูไหม คุณแม่ก็บอกคงไม่เป็นอะไร ตัวเราเอ ก็ไม่ทันเอะคิดว่าเกิดจากซิลิโคนจมูกจะทะลุ จน1สัปดาห์ผ่านไป ก็พบว่ามีน้ำหนองไหลออกมาจากปลายจมูก ซึ่งตอนนั้นเรากับแม่ก็รีบไป รพ.ศัลยกรรมแห่งหนึ่ง โดยคุณหมอก็แจ้งว่า เป็นอาการอักเสบ และซิลิโคนก็ทะลุ ต้องเอาซิลิโคนออกเท่านั้น ไม่สามารถใส่อันใหม่ได้ทันที จนกว่าจมูกจะหายอักเสบดีก่อน อย่างน้อยก็ 6 เดือน -1 ปี จึงจะเสริมใหม่ได้ แต่ทั้งนี้ คุณหมอบอกว่าหลังจากเอาซิลิโคนจมูกออกแล้ว คุณแม่จะต้องหมั่นนวด คลึงเนื้อจมุกบ่อยๆ เพื่อไม่ให้แผลหดรั้งจากผังพืด หรือแข็งเป็นไต และเพื่อให้เนื้อจมูกนิ่มมากที่สุดจมูกจะไม่ผิดรูปและเสียทรง หลังจากที่ได้รับการผ่าตัด แก้ไขเรียบร้อยแล้ว แผลก็ค่อยๆดีขึ้นตามเวลา แต่เมื่อผ่านไปสัก 1 ปี เราเริ่มสังเกตุเห็นจมูกคุณแม่เริ่มเสียทรง ผิดรูปไปมาก จมูกสั้นขึ้นเรื่อยๆ เห็นรูจมุกชัดเจนมากยิ่งขึ้น จนไปไหนมาไหน คนมองหน้าคุณแม่ของเราด้วยความสงสัย เด็กบางคนก็มองแล้วร้องไห้
พอเราได้เห็นภาพนั้นแล้ว เรารุ้สึกสงสารคุณแม่เรามาก คุณแม่เราเองจากคนที่รักสวยรักงามมาก ก็คงจะรุ้สึกเศร้าอยู่ในใจลึกๆ ไม่ค่อยอยากออกไปข้างนอกบ้าน ไปข้างนอกก็จะต้องมีผ้าพันคอ ปกคลุมใบหน้าเมื่อยามที่ต้องพบผู้คนเยอะๆ เราก็อยากช่วยคุณแม่ เลยพาคุณแม่ไปปรึกษาเรื่องการศัลยกรรมแก้ไขจมูกผิดทรงอีกครั้ง ไว้จะเอารูปจมูกปัจจุบันมาให้ดูน้า (เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ ลูกตื่นค่า)
ปัญหาปลายจมูกทะลุ เนื้อจมูกหดรั้ง เสียทรง แก้ไขได้ไหม
เรื่องมีอยู่ว่าคุณแม่ของเราทำผ่าตัดเสริมจมูกมานานแล้ว 20กว่าปีได้ จนกระทั่งเมื่อ7 ปีก่อน เราเริ่มสังเกตุเห็นว่าปลายจมูกเรื่มบาง เป็นนูนใสๆ คล้ายซิลิโคนเราก็ทักคุณแม่ว่าเป็นอะไร ไปหาคุณหมอตรวจดูไหม คุณแม่ก็บอกคงไม่เป็นอะไร ตัวเราเอ ก็ไม่ทันเอะคิดว่าเกิดจากซิลิโคนจมูกจะทะลุ จน1สัปดาห์ผ่านไป ก็พบว่ามีน้ำหนองไหลออกมาจากปลายจมูก ซึ่งตอนนั้นเรากับแม่ก็รีบไป รพ.ศัลยกรรมแห่งหนึ่ง โดยคุณหมอก็แจ้งว่า เป็นอาการอักเสบ และซิลิโคนก็ทะลุ ต้องเอาซิลิโคนออกเท่านั้น ไม่สามารถใส่อันใหม่ได้ทันที จนกว่าจมูกจะหายอักเสบดีก่อน อย่างน้อยก็ 6 เดือน -1 ปี จึงจะเสริมใหม่ได้ แต่ทั้งนี้ คุณหมอบอกว่าหลังจากเอาซิลิโคนจมูกออกแล้ว คุณแม่จะต้องหมั่นนวด คลึงเนื้อจมุกบ่อยๆ เพื่อไม่ให้แผลหดรั้งจากผังพืด หรือแข็งเป็นไต และเพื่อให้เนื้อจมูกนิ่มมากที่สุดจมูกจะไม่ผิดรูปและเสียทรง หลังจากที่ได้รับการผ่าตัด แก้ไขเรียบร้อยแล้ว แผลก็ค่อยๆดีขึ้นตามเวลา แต่เมื่อผ่านไปสัก 1 ปี เราเริ่มสังเกตุเห็นจมูกคุณแม่เริ่มเสียทรง ผิดรูปไปมาก จมูกสั้นขึ้นเรื่อยๆ เห็นรูจมุกชัดเจนมากยิ่งขึ้น จนไปไหนมาไหน คนมองหน้าคุณแม่ของเราด้วยความสงสัย เด็กบางคนก็มองแล้วร้องไห้
พอเราได้เห็นภาพนั้นแล้ว เรารุ้สึกสงสารคุณแม่เรามาก คุณแม่เราเองจากคนที่รักสวยรักงามมาก ก็คงจะรุ้สึกเศร้าอยู่ในใจลึกๆ ไม่ค่อยอยากออกไปข้างนอกบ้าน ไปข้างนอกก็จะต้องมีผ้าพันคอ ปกคลุมใบหน้าเมื่อยามที่ต้องพบผู้คนเยอะๆ เราก็อยากช่วยคุณแม่ เลยพาคุณแม่ไปปรึกษาเรื่องการศัลยกรรมแก้ไขจมูกผิดทรงอีกครั้ง ไว้จะเอารูปจมูกปัจจุบันมาให้ดูน้า (เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ ลูกตื่นค่า)