สวัสดีครับ
ก่อนหน้านี้ผมกำลังมองหาตัวจุดลงตัวที่พอดีระหว่างโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานได้คล่องตัว พกพาสะดวกไม่ต้องสะพายเป๋าแบบแท็บเล็ต แต่ก็มีหน้าจอที่ไม่เล็กเกินไปจนใช้งานไม่จุใจและลำบากลำบนเวลาพิมพ์ข้อความ ซึ่งส่วนตัวตอนนั้นผมเคาะสเปคสุดท้ายมาตกที่ว่า ต้องหน้าจอ 6 นิ้วขึ้นไป ซึ่งสุดท้ายผมมาติดใจที่เจ้า SAMSUNG Galaxy C9 Pro นี่เองครับ
http://www.gsmarena.com/samsung_galaxy_c9_pro-8347.php
ด้านสเปค รุ่นนี้มาพร้อมกับ Octacore Snapdragon 653 @1.95 GHz และ GPU Adreno 510
หน้าจอ Super AMOLED Full HD 1080P บนหน้าจอขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด 368 dpi
ความจุในตัวเครื่องให้มา 64GB
และเป็นรุ่นแรกของซัมซุงที่ให้ RAM มามากถึง 6GB
ส่วนระบบปฏิบัติการนั้นเป็น Android 6.0.1 Marshmallow และรออัพเดทเป็น Nougat
แบตเตอรี่แบบไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ (เปิดฝาหลังไม่ได้ เป็นโลหะทั้งชิ้น) ขนาด 4,000 mAh หรือเท่ากับ SS Tab S2 8.0" นั่นเอง
ใส่ซิมได้ 2 ซิมพร้อมกัน ยกถาดใส่ micro SD card ต่างหาก
กล้องนั้นให้มาที่ 16 ล้านพิกเซลทั้งกล้องหน้าและกล้องเลย ที่ด้านหลังมี Dual Flash ถ่ายวีดีโอได้ที่ Full HD 30fps
ส่วนเรื่องของเสียงนั้น เป็นลำโพงคู่ Stereo โดยใช้ลำโพงสนทนาที่ด้านบนตัวเครื่องคู่กับลำโพงด้านล่างเครื่อง และมีเทคโนโลยี Ultra High Quality Audio (UHQA) ทั้งนี้ส่วนตัวผมไม่ค่อยได้ใช้ลำโพงเท่าไหร่ไม่ว่ามีมือถือมากี่เครื่อง เลยวิจารณ์ไม่ได้เหมือนกัน แต่ส่วนตัวผมว่าดีนะ รู้สึกว่าคุณภาพเสียงดีกว่าซัมซุงรุ่นก่อนๆ ของผมเองแบบเห็นได้ชัด
สัมผัสแรกนั้น C9 Pro มาพร้อมด้วยบอดี้โลหะทั้งตัวเครื่อง ได้ความรู้สึกพรี่เมี่ยมดีมากครับ และตัวเครื่องมีขนาดบางมาก โดยเฉพาะเมื่อผมเปรียบเทียบกับ A9 Pro ที่มีสเปคใกล้เคียงกัน ตัว C9 Pro จะบางกว่าอย่างชัดเจนครับ ที่ 6.9 มิลลิเมตรเท่านั้น
ส่วนสีนั้นมีให้เลือกสองสี คือ สีดำ และ สีทอง (หน้าขาวหลังทอง)
อ้อ ก่อนจะไปต่อ ผมซื้อที่ศูนย์ซัมซุงโดยตรง ได้ของแถมมาเป็นฟิล์มกระจก ซิลิโคน ทำบัตรสมาชิกกับช็อป 300 บาท เพื่อยืดระยะเวลาประกันตัวเครื่องเป็น 25 วัน ประกันหน้าจอแตก 7 วัน ส่วนลดในการซ่อมเครื่อง สะสมคะแนน และได้ของแถมในการทำบัตรเป็น พาวเวอร์แบงค์ขนาด 10400 mWh และ ไทรพอด (Tripod) หรือขาตั้งกล้อง
Port เชื่อมต่อนั้นเป็นแบบใหม่ USB-C พร้อมกับ Active Fast Charge โดยในกล่องนั้นมีหัวแปลง microUSB - USB-C ให้มาด้วยเพื่อจะได้ใช้กับหัวต่อรุ่นก่อนได้
โดยส่วนตัวแล้วผมชอบที่ความใหญ่ของหน้าจอครับ และยังสามารถใส่กระเป๋ากางเกงได้ แต่ถ้าใครมือเล็กๆ อย่างเช่นมือสุภาพสตรี อาจจะรู้สึกว่าไม่สะดวกเวลาที่ต้องการใช้มือเดียว ผมไม่ค่อยแนะนำให้ใช้มือเดียวนะครับ ทำได้อยู่ แต่สมมุติว่าถ้าต้องแตะด้านบนสุดของหน้าจอและด้านล่างสุด มือข้างที่ถืออาจจะต้องเขยิบๆ นิดนึง ไม่สามารถยืดนิ้วแตะสองขอบได้ถึงครับ ส่วนด้านกว้างนั้นผมยังสามารถเอื้อมนิ้วโป้งแตะได้ถึงทั้งริมสองฝั่งนะ
เดิมที มือถือเครื่องเดิมผมหน้าจอ 5.2" และเคยใช้ SS Tab S2 8.0" ผมรู้สึกว่าเจ้า C9 Pro อยู่ตรงกลางดีครับ พิมพ์ง่ายขึ้น ดูอะไรๆ ได้ดี และยังพกพาสะดวก
ปุ่มโฮมนั้นเป็น active fingerprint scanner ที่สามารถแตะเพื่อเปิดหน้าจอได้โดยไม่ต้องกดเปิดหน้าจอก่อน
มี Always On Display ที่สามารถเลือกได้ว่าจะให้แสดง นาฬิกา, ปฏิทิน, หรือรูปภาพ ได้ตลอดเวลา โดยสามารถแสดง notifications ต่างๆ เช่น missed calls, ข้อความ, messenger, LINE ฯลฯ ที่หน้าจอตลอดเวลา ไม่ต้องล็อคเข้าโทรศัพท์
โดยรวมแล้ว ส่วนตัวผมชอบครับ อย่างที่บอกว่าขนาดกำลังดีสำหรับผม หรือจะใหญ่กว่านี้นิดหน่อยผมก็ยังโอเค ใส่กระเป๋าได้ไม่ปูดโปน บอดี้โลหะให้สัมผัสที่ดีและพรีเมี่ยม บางทำให้รู้สึกดี หยิบจับถนัดมือ สเปคภายในที่อยู่ในระดับกลาง-บน ใช้งานต่างๆ ได้ไหลลื่น ไม่หน่วง
สำหรับมนุษย์สุดธรรมดาแบบผมที่ไม่ได้เล่นเกมส์ ไม่ถ่ายรูป แค่เล่น social media ถือว่าเจ้า C9 Pro 6.0" ตอบสนองผมได้ดีเลยครับ
สิ่งที่ผมเสียดายก็คือ น่าจะรองรับการถ่ายวีดีโอที่ 2K หรือคู่แข่งบางรุ่นก็ใจป้ำให้ถึงขนาดถ่ายวีดีโอระดับ 4K กันเลยทีเดียว ส่วนการไม่รองรับ SAMSUNG PAY นั้นผมเฉยๆ เพราะปกติไม่ได้ใช้อยู่แล้ว
ทั้งนี้ ราคาประมาณนี้มีตัวเลือกหลายตัวนะครับ โดยเฉพาะถ้าใครเริ่มหันมาสนใจแบรนด์จากจีนนี่มีตัวเลือกดีๆ เยอะเลย เพียงแต่ส่วนตัวผมใช้แบรนด์ SAMSUNG มาตลอด และไม่เคยมีปัญหาอะไร ก็เลยยังไม่ได้คิดที่จะเปลี่ยนน่ะครับ
ว่าแล้วลูกพี่ลูกน้องอย่าง SS A9 Pro นั้นก็คล้ายกันมาก ที่ต่างกันก็คือ กล้องหน้า 8 ล้าน, microUSB, CPU Snapdragon 652, และตัวเครื่องที่หนากว่า แต่ได้แบตเตอรี่ที่อึดกว่า อยู่ที่ 5,000 mAh ถ้าใครสนใจนี่ลองไปหยิบดูได้เลยครับ ในช้อปซัมซุงที่ผมไปนี่เค้าวางไว้ติดกันเลย ราคา A9 Pro ถูกกว่า C9 Pro 1,000 บาท
ปิดท้ายด้วยรูปของแถมที่ได้มาครับ
[CR] Samsung Galaxy C9 Pro ราคา 16,900 บาท หน้าจอ 6.0" แรม 6GB ลูกครึ่งที่พอดีระหว่าง mini Tablet & Smartphone
ก่อนหน้านี้ผมกำลังมองหาตัวจุดลงตัวที่พอดีระหว่างโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานได้คล่องตัว พกพาสะดวกไม่ต้องสะพายเป๋าแบบแท็บเล็ต แต่ก็มีหน้าจอที่ไม่เล็กเกินไปจนใช้งานไม่จุใจและลำบากลำบนเวลาพิมพ์ข้อความ ซึ่งส่วนตัวตอนนั้นผมเคาะสเปคสุดท้ายมาตกที่ว่า ต้องหน้าจอ 6 นิ้วขึ้นไป ซึ่งสุดท้ายผมมาติดใจที่เจ้า SAMSUNG Galaxy C9 Pro นี่เองครับ
http://www.gsmarena.com/samsung_galaxy_c9_pro-8347.php
ด้านสเปค รุ่นนี้มาพร้อมกับ Octacore Snapdragon 653 @1.95 GHz และ GPU Adreno 510
หน้าจอ Super AMOLED Full HD 1080P บนหน้าจอขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด 368 dpi
ความจุในตัวเครื่องให้มา 64GB
และเป็นรุ่นแรกของซัมซุงที่ให้ RAM มามากถึง 6GB
ส่วนระบบปฏิบัติการนั้นเป็น Android 6.0.1 Marshmallow และรออัพเดทเป็น Nougat
แบตเตอรี่แบบไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ (เปิดฝาหลังไม่ได้ เป็นโลหะทั้งชิ้น) ขนาด 4,000 mAh หรือเท่ากับ SS Tab S2 8.0" นั่นเอง
ใส่ซิมได้ 2 ซิมพร้อมกัน ยกถาดใส่ micro SD card ต่างหาก
กล้องนั้นให้มาที่ 16 ล้านพิกเซลทั้งกล้องหน้าและกล้องเลย ที่ด้านหลังมี Dual Flash ถ่ายวีดีโอได้ที่ Full HD 30fps
ส่วนเรื่องของเสียงนั้น เป็นลำโพงคู่ Stereo โดยใช้ลำโพงสนทนาที่ด้านบนตัวเครื่องคู่กับลำโพงด้านล่างเครื่อง และมีเทคโนโลยี Ultra High Quality Audio (UHQA) ทั้งนี้ส่วนตัวผมไม่ค่อยได้ใช้ลำโพงเท่าไหร่ไม่ว่ามีมือถือมากี่เครื่อง เลยวิจารณ์ไม่ได้เหมือนกัน แต่ส่วนตัวผมว่าดีนะ รู้สึกว่าคุณภาพเสียงดีกว่าซัมซุงรุ่นก่อนๆ ของผมเองแบบเห็นได้ชัด
สัมผัสแรกนั้น C9 Pro มาพร้อมด้วยบอดี้โลหะทั้งตัวเครื่อง ได้ความรู้สึกพรี่เมี่ยมดีมากครับ และตัวเครื่องมีขนาดบางมาก โดยเฉพาะเมื่อผมเปรียบเทียบกับ A9 Pro ที่มีสเปคใกล้เคียงกัน ตัว C9 Pro จะบางกว่าอย่างชัดเจนครับ ที่ 6.9 มิลลิเมตรเท่านั้น
ส่วนสีนั้นมีให้เลือกสองสี คือ สีดำ และ สีทอง (หน้าขาวหลังทอง)
อ้อ ก่อนจะไปต่อ ผมซื้อที่ศูนย์ซัมซุงโดยตรง ได้ของแถมมาเป็นฟิล์มกระจก ซิลิโคน ทำบัตรสมาชิกกับช็อป 300 บาท เพื่อยืดระยะเวลาประกันตัวเครื่องเป็น 25 วัน ประกันหน้าจอแตก 7 วัน ส่วนลดในการซ่อมเครื่อง สะสมคะแนน และได้ของแถมในการทำบัตรเป็น พาวเวอร์แบงค์ขนาด 10400 mWh และ ไทรพอด (Tripod) หรือขาตั้งกล้อง
Port เชื่อมต่อนั้นเป็นแบบใหม่ USB-C พร้อมกับ Active Fast Charge โดยในกล่องนั้นมีหัวแปลง microUSB - USB-C ให้มาด้วยเพื่อจะได้ใช้กับหัวต่อรุ่นก่อนได้
โดยส่วนตัวแล้วผมชอบที่ความใหญ่ของหน้าจอครับ และยังสามารถใส่กระเป๋ากางเกงได้ แต่ถ้าใครมือเล็กๆ อย่างเช่นมือสุภาพสตรี อาจจะรู้สึกว่าไม่สะดวกเวลาที่ต้องการใช้มือเดียว ผมไม่ค่อยแนะนำให้ใช้มือเดียวนะครับ ทำได้อยู่ แต่สมมุติว่าถ้าต้องแตะด้านบนสุดของหน้าจอและด้านล่างสุด มือข้างที่ถืออาจจะต้องเขยิบๆ นิดนึง ไม่สามารถยืดนิ้วแตะสองขอบได้ถึงครับ ส่วนด้านกว้างนั้นผมยังสามารถเอื้อมนิ้วโป้งแตะได้ถึงทั้งริมสองฝั่งนะ
เดิมที มือถือเครื่องเดิมผมหน้าจอ 5.2" และเคยใช้ SS Tab S2 8.0" ผมรู้สึกว่าเจ้า C9 Pro อยู่ตรงกลางดีครับ พิมพ์ง่ายขึ้น ดูอะไรๆ ได้ดี และยังพกพาสะดวก
ปุ่มโฮมนั้นเป็น active fingerprint scanner ที่สามารถแตะเพื่อเปิดหน้าจอได้โดยไม่ต้องกดเปิดหน้าจอก่อน
มี Always On Display ที่สามารถเลือกได้ว่าจะให้แสดง นาฬิกา, ปฏิทิน, หรือรูปภาพ ได้ตลอดเวลา โดยสามารถแสดง notifications ต่างๆ เช่น missed calls, ข้อความ, messenger, LINE ฯลฯ ที่หน้าจอตลอดเวลา ไม่ต้องล็อคเข้าโทรศัพท์
โดยรวมแล้ว ส่วนตัวผมชอบครับ อย่างที่บอกว่าขนาดกำลังดีสำหรับผม หรือจะใหญ่กว่านี้นิดหน่อยผมก็ยังโอเค ใส่กระเป๋าได้ไม่ปูดโปน บอดี้โลหะให้สัมผัสที่ดีและพรีเมี่ยม บางทำให้รู้สึกดี หยิบจับถนัดมือ สเปคภายในที่อยู่ในระดับกลาง-บน ใช้งานต่างๆ ได้ไหลลื่น ไม่หน่วง
สำหรับมนุษย์สุดธรรมดาแบบผมที่ไม่ได้เล่นเกมส์ ไม่ถ่ายรูป แค่เล่น social media ถือว่าเจ้า C9 Pro 6.0" ตอบสนองผมได้ดีเลยครับ
สิ่งที่ผมเสียดายก็คือ น่าจะรองรับการถ่ายวีดีโอที่ 2K หรือคู่แข่งบางรุ่นก็ใจป้ำให้ถึงขนาดถ่ายวีดีโอระดับ 4K กันเลยทีเดียว ส่วนการไม่รองรับ SAMSUNG PAY นั้นผมเฉยๆ เพราะปกติไม่ได้ใช้อยู่แล้ว
ทั้งนี้ ราคาประมาณนี้มีตัวเลือกหลายตัวนะครับ โดยเฉพาะถ้าใครเริ่มหันมาสนใจแบรนด์จากจีนนี่มีตัวเลือกดีๆ เยอะเลย เพียงแต่ส่วนตัวผมใช้แบรนด์ SAMSUNG มาตลอด และไม่เคยมีปัญหาอะไร ก็เลยยังไม่ได้คิดที่จะเปลี่ยนน่ะครับ
ว่าแล้วลูกพี่ลูกน้องอย่าง SS A9 Pro นั้นก็คล้ายกันมาก ที่ต่างกันก็คือ กล้องหน้า 8 ล้าน, microUSB, CPU Snapdragon 652, และตัวเครื่องที่หนากว่า แต่ได้แบตเตอรี่ที่อึดกว่า อยู่ที่ 5,000 mAh ถ้าใครสนใจนี่ลองไปหยิบดูได้เลยครับ ในช้อปซัมซุงที่ผมไปนี่เค้าวางไว้ติดกันเลย ราคา A9 Pro ถูกกว่า C9 Pro 1,000 บาท
ปิดท้ายด้วยรูปของแถมที่ได้มาครับ